เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้แผลเป็นคีลอยด์ดูจางลง
เรื่องการดูแลผิวพรรณให้ดูสวยขาว เนียนเรียบ ถือเป็นเรื่องที่ทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ สมัยนี้ ให้ความสำคัญ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ถึงแม้จะดูแลผิวพรรณของตัวเองดีแค่ไหน ก็ยังไม่มั่นใจที่จะเผยผิวสวยของตัวเอง เพราะมีรอยแผลที่ไม่ชวนมอง โดยเฉพาะรอยแผลเป็นนูนแดงขนาดใหญ่ที่มองเห็นสะดุดตามาแต่ไกล ซึ่งแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ทำยังไงก็ไม่ยอมหายง่ายๆ แบบนี้ทางการแพทย์เรียกกันว่า “คีลอยด์” (Keloid) เป็นแผลเป็นที่มีลักษณะนูนชัดขึ้นมาเป็นสีแดงหรือออกเข้มกว่าสีผิว หรือมักจะขยายใหญ่ขึ้นจากรอยแผลเดิมที่เกิดขึ้นตอนแรก แม้แผลคีลอยด์เมื่อเกิดขึ้นแล้วยากที่จะทำให้หายไป แต่ก็ยังพอมีวิธีที่จะป้องกันและทำให้แผลเป็นคีลอยด์ลบเลือนหรือจางลงได้
สาเหตุของการเกิดรอยแผลเป็นคีลอยด์
จุดที่พบว่าเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้บ่อยที่สุดก็คือ บริเวณหัวไหล่ ซึ่งเป็นแผลที่เกิดกับคนที่เคยปลูกฝีเพื่อป้องกันโรคฝีดาษเมื่อตอนเด็กๆ แต่ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่สามารถยืนยันสาเหตุของการเกิดแผลคีลอยด์ได้อย่างแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากเรื่องของกรรมพันธุ์ และมักจะพบในคนที่มีสีผิวเข้ม โดยมักจะพบในแผลที่เกิดจากการผ่าตัด แผลที่เกิดจากการอักเสบ เช่น แผลเป็นจากสิว แผลเป็นที่เกิดจากอุบัติเหตุ และแผลจากไฟไหม้ แผลที่มีลักษณะพุพอง
วิธีที่ทำให้รอยแผลเป็นคีลอยด์ดูจางลง
1.ใช้แผ่นซิลิโคน (Silicone gel sheet) โดยติดลงไปบริเวณที่มีรอยแผล แผ่นซิลิโคนนั้นผลิตจากซิลิโคน ที่มีลักษณะใสและนุ่ม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับแผลเป็น ช่วยลดการอักเสบ สามารถช่วยให้แผลเป็นแบนราบลง และช่วยลดอาการระคายเคืองของแผลเป็น ที่สำคัญคือลดการเรียงตัวของคอลลาเจน ซึ่งเป็น 1 ในสาเหตุที่ทำให้แผลเป็นเกิดการนูนและขยายตัวใหญ่ขึ้น
2.ทาด้วยเจลซิลิโคน (Silicone gel) ซึ่งทำจากสารประกอบซิลิโคน โดยเจลซิลิโคนสามารถช่วยให้แผลเป็นยุบและแบนราบลงได้ ช่วยให้ความเข้มของรอบแผลจางลง ลดการระคายเคือง โดยให้ทาเจลซิลิโคนต่อเนื่องเป็นประจำ และสามารถทาได้บ่อยตามที่ต้องการ เนื่องจากการใช้เจลซิลิโคนทาแผลเป็นคีลอยด์ถือเป็นวิธีที่ไม่เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง
3.นวดบริเวณแผลเป็น (scar massage) การนวดสามารถช่วยให้รอยแผลเป็นคีรอยด์นุ่มและแบนราบลงได้ โดยแนะนำให้นวดแผลพร้อมกับการใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เพื่อเข้าไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเนื้อเยื่อของแผลเป็น แต่ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะอาจจะยิ่งสร้างความระคายเคืองให้กับแผล นวดเป็นประจำครั้งละ 5-10 นาที วันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้แผลเป็นนุ่มขึ้น สีของผิวบริเวณแผลดูจางลงได้
วิธีลดรอยแผลเป็นคีรอยด์ทั้ง 3 วิธีที่เราแนะนำ เป็นวิธีที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ยังไม่สามารถช่วยจัดการกับรอยแผลคีลอยด์ได้เป็นที่น่าพอใจมากนัก แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจจะแนะนำให้ทำการรักษาด้วยการฉีดยาเพื่อลดรอยแผล หรือให้ทานยากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อช่วยยับยั้งอาการคันที่แผล ทำให้รอยแผลไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้แสงเลเซอร์ในการลดเลือนรอยแผลคีลอยด์ ซึ่งผลจากการรักษาจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของแผลเป็นคีลอยด์ของแต่ละคนด้วย