8 อาหารที่ช่วยป้องกันฝ้าอย่างได้ผลดีตามที่คนญี่ปุ่นแนะนำ
ผู้หญิงเราเมื่ออายุมากขึ้นฝ้าและรอยด่างดำบนใบหน้าก็อาจปรากฏเพิ่มขึ้นตามอายุ เมื่อเกิดฝ้าแล้วการรักษามักทำได้ยากและมีราคาแพง มารู้สาเหตุการเกิดฝ้าและวิธีการป้องกันการเกิดฝ้าด้วยอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวันตามที่คนญี่ปุ่นแนะนำกันนะคะ
สาเหตุของการเกิดฝ้า
สาเหตุการเกิดฝ้านั้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า ได้แก่ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโพรเจสเทอโรนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการกินยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ และการรักษาโรคบางอย่างด้วยฮอร์โมน นอกจากนี้แสงแดดก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดเป็นตัวการที่ทำให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ ซึ่งทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำหรือฝ้าในชั้นผิวได้
อาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดฝ้าตามที่คนญี่ปุ่นแนะนำ
1. ส้ม
ส่วนเยื่อสีขาวที่หุ้มเนื้อส้มอุดมไปด้วยเส้นใยและสารอาหารที่มีคุณค่า ได้แก่ วิตามิน P ซึ่งเป็นสารประกอบไบโอฟลาโวนอยด์ที่มีหน้าที่สำคัญในการช่วยเสริมการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย วิตามินซีมีความสำคัญในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เสริมสร้างการผลิตคอลลาเจน และป้องกันการเกิดจุดด่างดำและรอยย่นบนใบหน้า
2. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อย่างเช่น บลูเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารแอนโธไซยานินที่มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นและการเกิดฝ้าแล้วก็ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนที่ดีของเลือดด้วย
3. มะเขือเทศ
มะเขือเทศอุดมไปด้วยไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง การรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำจะช่วยป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นและฝ้าได้ดี
4. ปลาแซลมอน
ปลาแซลมอนอุดมไปด้วยแอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง แอสตาแซนธินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพผิวจากแสงแดดและช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง
5. กาแฟ
ในกาแฟประกอบไปด้วยกรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic acid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงที่มีบทบาทสำคัญในการกดการเกิดฝ้าและจุดด่างดำที่เกิดจากแสงแดด
6. ชาเขียว
ชาเขียวอุดมไปด้วยคาเทชินและโพลีฟีนอล ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าแล้วก็ป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ด้วย
7. แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลอุดมไปด้วยโพลีฟีนอลที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันฝ้าและจุดด่างดำบนใบหน้าที่เกิดจากรังสีไวโอเลต ทั้งนี้โพลีฟีนอลส่วนใหญ่จะอยู่ที่เปลือกแอปเปิ้ล ดังนั้นวิธีที่จะรับสารต้านอนุมูลอิสระให้ได้สูงสุดจึงควรรับประทานเปลือกแอปเปิ้ลด้วย
8. เนื้อแดง
เนื้อแดงอุดมไปด้วยธาตุเหล็กประกอบฮีม (Heme iron) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขจัดสารอนุมูลอิสระได้ดีกว่าธาตุเหล็กจากผักและผลไม้ อีกทั้งธาตุเหล็กประกอบฮีมจะมีบทบาทสำคัญในขบวนการเมแทบอลิซึมของผิวหนังเพื่อขับเอาฝ้าหรือจุดด่างดำที่ถูกสร้างขึ้นออก และช่วยในการผลัดของเซลล์ผิวหนังเก่าเพื่อขจัดเอาจุดด่างดำออกในที่สุด
นอกจากการรับประทานอาหารด้านบนแล้ว การเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรงโดยการทาครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟอย่างน้อย 30 ก่อนออกจากบ้านก็เป็นวิธีการง่าย ๆ ในการป้องกันการเกิดฝ้าบนผิวหน้าได้ดี อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีแดดแรงการทาครีมกันแดดอาจจะไม่เพียงพอที่ป้องกันแสงแดดได้ ดังนั้นจึงควรกางร่ม สวมหมวก หรือสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนังอย่างมิดชิดเมื่อไปข้างนอกด้วยค่ะ