หน้าหนาวนี้ ปกป้องผิวสวย เสริมสร้างสุขภาพ ด้วย 3 น้ำมันทรงคุณค่าจากธรรมชาติ
เข้าสู่หน้าหนาว ที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย นอกจากจะเจอลมหนาวที่ทำให้ผิวแห้งเสียทำร้ายสุขภาพของผิวแล้ว ยังจะทำร้ายสุขภาพของร่างกายให้เจ็บป่วยได้อีกด้วยจากสภาพอากาศที่แปรปรวนหากร่างกายไม่แข็งแรง เพราะฉะนั้นการใส่ใจดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทั้งสุขภาพของผิวพรรณและร่างกายแข็งแรงย่อมเป็นการป้องกันที่ดีกว่า ซึ่งในแวดวงความงามและสุขภาพในต่างประเทศโดยเฉพาะเมืองหนาว รู้จักการนำน้ำมันชนิดต่างๆ อาทิ การนำน้ำมันมะกอก มาผสมในเครื่องสำอาง หรือนำมารับประทานเป็นอาหารเสริม เพื่อดูแลผิวพรรณ และสุขภาพมาอย่างยาวนาน แม้กระทั่งประเทศไทยซึ่งมีสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นก็มีความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างการใช้ น้ำมันมะพร้าว เพื่อดูแลสุขภาพและผิวพรรณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า “การใช้ประโยชน์ของน้ำมันจากแหล่งธรรมชาติเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ และดูแลบำรุงผิวพรรณ ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของมนุษย์เรามาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่ร่างกายต้องการความอบอุ่น และผิวก็ต้องการความชุ่มชื้น ซึ่งน้ำมันจากธรรมชาติมีคุณประโยชน์ที่สามารถนำไปสกัดเพื่อรับประทานเป็นอาหารเสริม หรือนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง สกินแคร์ต่างๆ ซึ่งน้ำมันจากธรรมชาติที่มีคุณประโยชน์อย่างสูง มีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นที่นิยมในการนำมาสกัด เพื่อใช้สำหรับการดูแลสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ ได้แก่
น้ำมันมะพร้าว เพราะเป็นน้ำมันที่อุดมด้วยกรดไขมันอิ่มตัวชนิดสายยาวปานกลาง (Medium Chain Triglyceride) ได้แก่ กรดไขมันลอริก (Lauric acid) ซึ่งมีคุณสมบัติ ต้านเชื้อโรค ต้านอักเสบ จึงลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย นิยมนำมาสกัดเพื่อใช้เป็นอาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง จากน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก ที่มีความบริสุทธิ์สูง ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมีที่ไม่ปลอดภัย ด้วยกรรมวิธีสกัดเย็น เพื่อคงคุณค่าของสารสำคัญ
ต่อมาคือ น้ำมันมะกอก ที่มีสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่ ไฮดรอกซีไทโรซอล ซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและลดการออกซิเดชัน ทำให้มีสุขภาพผิว ที่ดีและอ่อนเยาว์ ช่วยลดปัจจัยในการเกิดริ้วรอย และยังลดสาเหตุของการเกิดสิว และยังอุดมไปด้วยสารโอลีโอแคนธัล (Oleocanthal) ที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ รวมไปถึงมีส่วนช่วยในการการกำจัดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีกรดไขมัน โอเมก้า 9 จำนวนมาก ซึ่งมีคุณสมบัติในการเพิ่ม HDL ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูล และโรคหัวใจ ซึ่งนิยมนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมจากน้ำมันมะกอกธรรมชาติบริสุทธิ์ และมีการเติมสารไฮดรอกซีไทโรดอลซอล ที่ได้จากผลมะกอกเพิ่ม เพื่อช่วยให้มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างร่างกายมากยิ่งขึ้น
และสุดท้าย น้ำมันปลา ประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3 fatty acids) ได้แก่ กรดอิโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic acid (EPA) หรือ อีพีเอ และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic acid (DHA) หรือ ดีเอชเอ มีคุณสมบัติเป็นส่วนช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ ลดระดับคอเลสเตอรอล และความดันโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการตาแห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็น DHA ชนิดพิเศษ ที่มีโครงสร้างเหมือนในน้ำนมแม่ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายกว่า
ทั้งนี้การเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงด้วยน้ำมันจากธรรมชาติทั้ง 3 ชนิด ดังที่กล่าวมานั้นจะยิ่งมีประสิทธิภาพหากควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันมีอาหารเสริมที่สกัดจากน้ำมันจากธรรมชาติทั้ง 3 ชนิด เพื่อเป็นตัวช่วยและสะดวกในการเพิ่มเติมสารอาหารให้กับร่างกาย ซึ่งควรเลือกผลิตภัณฑ์จากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน ได้รับการตรวจสอบคุณภาพจากสํานักรับรองระบบคุณภาพ”
ร่วมเปิดประสบการณ์การเสริมสร้างสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยสารสกัดจาก น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะกอก และ น้ำมันปลา จาก กิฟฟารีน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นักธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ หรือโทรกิฟฟารีน 1101 กิฟฟารีน เดลิเวอรี่ โทร. 02-619-5222 และสั่งซื้อออนไลน์ ได้ที่ Facebook: giffarineofficial Line@giffarinethailand www.giffarine.com Shopee และ Lazada