6 วิธีขจัดขี้ไคล เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสเรียบเนียนด้วยตัวคุณเอง
ปกติแล้ว เซลล์ผิวหนังของคนเราจะมีการเสื่อมสภาพและตามกระบวนการผลัดเซลล์ผิวของร่างกาย จะทำงานทุกๆ 28 วัน แต่หากคนเราอายุมากขึ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะทำงานน้อยลงหรือแทบจะไม่ทำงานเลย ดังนั้น ก็จะเกิดปัญหาขี้ไคลที่ฝังแน่นอยู่บนชั้นผิวซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียนสดใส และทำให้ครีมบำรุงไม่สามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย เพราะฉะนั้นถึงเวลากันแล้วค่ะสาวๆ ที่เราจะต้องมาขจัดขี้ไคลให้หลุดจากผิว โดยเราก็มีวิธีขจัดขี้ไคลมาฝากกันแล้วดังนี้
1.ใช้หินขัดขี้ไคล
หินขัดขี้ไคลถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และสามารถจำกัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการขัด เริ่มจากรดน้ำราดตัวให้ชุ่ม แล้วนำหินมาขัดถูเบาๆ เมื่อขัดจนทั่วแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ข้อแนะนำสำหรับวิธีนี้คือ ควรขัดเพียง 3 วัน/สัปดาห์เท่านั้น และไม่ควรขัดแรงจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวบางลงได้
2.ขัดตัวด้วยใยบวบ
หลายคนมักอาบน้ำด้วยการฟอกสบู่แล้วใช้มือถูเลย ซึ่งไม่สามารถทำให้ขี้ไคลหลุดออกไปอย่างหมดจด ดังนั้น จึงอยากแนะนำให้เลือกใช้ใยบวบในการอาบน้ำ เพื่อช่วยขจัดขี้ไคลออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ใช้เกลือขัดผิว
เกลือขัดผิวถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถใช้แทนหินขัดขี้ไคลได้ และนอกจากจะช่วยจำกัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ยังมีประโยชน์จากส่วนประกอบของวิตามินหลายชนิด ที่ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย
4.ใช้น้ำอุ่นก็ช่วยได้
เทคนิคนี้สามารถทำได้หลังจากการอาบน้ำแบบปกติหนึ่งรอบ แล้วหาผ้าบนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆ จากนั้นนำมาขัดถูเบาๆ ให้ทั่วผิว เพียงเท่านี้ขี้ไคลที่สะสมและขจัดออกไปไม่หมดหลังจากอาบน้ำก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นก็อาบน้ำชำระล้างร่างกายอีกหนึ่งครั้ง
5.ขัดผิวด้วยกากกาแฟ
วิธีการนำกากกาแฟมาขัดผิว ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหนึ่ง เพราะคุณสมบัติของกากกาแฟนอกจากจะทำให้สิ่งสกปรกและเซลล์ผิวเก่าหลุดลอกออกไปอย่างอ่อนโยนแล้ว ยังทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น
6.ขจัดขี้ไคลด้วยมะขามเปียก
วิธีการขัดผิวสูตรไทยโบราณคงจะหนีไม่พ้น การใช้มะขามเปียก วิธีนี้สามารถทำได้ง่ายขัดขี้ไคลออกจากผิวได้จริง และยังทำให้ผิวเนียนนุ่มมากขึ้นด้วย วิธีการใช้มะขามเปียกเริ่มจากการนำไปแช่น้ำให้นุ่มแล้วนำมาขัดผิวจนทั่วร่างกาย พอกทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แนะนำให้ทำเพียง 2 ครั้ง/สัปดาห์
7.ขัดขี้ไคลด้วยเบกกิ้งโซดา
ให้นำเบกกิ้งโซดาผสมน้ำแล้วพอกทิ้งไว้บนผิว 5 นาที จะช่วยทำให้ผิวสะอาดปราศจากขี้ไคลได้ แต่ก่อนการใช้เบกกิ้งโซดาควรทดสอบอาการแพ้ก่อนเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดผื่นคันและผิวลอก และหลังจากการใช้เบกกิ้งโซดาทุกครั้งให้บำรุงผิวด้วยการทาโลชั่นเพื่อป้องกันผิวแห้ง
ลองนำวิธีเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กันดูนะคะ ใครชื่นชอบวิธีไหนสามารถลองนำไปทำตามได้เลย เพื่อผิวที่สะอาดหมดจดและเนียนใสสุขภาพดีอย่างแท้จริง
