เตือนแม่ๆ อย่าทำ 5 สิ่งนี้ ขณะลูกกำลังหลับ

เวลานอนหลับของลูกน้อยมักจะเป็นเวลารีแลกซ์ของพ่อแม่ หรืออาจเป็นนาทีทองที่ใช้ในการเคลียร์สะอาดต่างๆ แต่บางคนเมื่อตัวเองเคลียร์งานเสร็จแล้วพอหันไปเห็นลูกน้อยที่กำลังนอนหลับก็คันไม้คันมือ อยากถ่ายรูปบ้างอยากแหย่ลูกบ้าง แต่รู้หรือไม่ พฤติกรรมแบบนี้ส่งผลไม่ดีกับเด็กอย่างมาก และนอกเหนือจากพฤติกรรมแบบนี้แล้ว ยังมีอะไรบ้างที่ไม่ควรทำขณะลูกหลับ ตามไปดูกันเลย

1.ที่นอนในฝันของเรา ไม่ใช่ที่นอนที่เหมาะสมกับลูก
ผ้าห่ม ตุ๊กตาหมอนน่ารักๆ สิ่งของเหล่านี้ล้วนไม่จำเป็นสำหรับเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่ถึง 3 ขวบ เพราะผ้าห่มที่หนาและหนัก อาจทำให้เด็กเกิดภาวะไหลตายได้ ตุ๊กตาหมอนข้าง เหล่านี้ ถ้าทารกทั้งในวัยพลิกตัวหรือหัดคลาน เกิดไถตัวเองไปจุกกับผ้าห่ม ย่อมอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว ดังนั้น ที่นอนที่เหมาะสม ควรเรียบ ไม่นิ่มจนยวบ หรือแข็งจนล้มแล้วเจ็บ นอกจากนี้ ถ้าเด็กนอนหงายหรือตะแคง ก็ควรมีแค่หมอนหลุมแค่ใบเดียว ไม่ควรมีเยอะกว่านี้

2.อย่าทำลูกตกใจขณะหลับ
คุณพ่อบางคนเมื่อกลับมาถึงบ้านก็อยากจะเล่นกับลูกน้อย เมื่อเห็นลูกหลับก็จะอุ้มขึ้นมาเล่นด้วยทันที นั่นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะบางครั้งเด็กๆ อาจจะกำลังจะเข้าสู้ห่วงหลับสนิท เมื่อถูกกวนก็จะผวาตื่นทำให้หงุดหงิดร้องไห้จ้า ส่งผลให้พัฒนาการด้านอารมณ์เป็นลบไปด้วย

3.อย่าปลุกลูกตื่นเพียงแค่เห็นว่านอนนาน
คุณแม่บางคนกลัวลูกนอนนานจะมีปวดเมื่อยเนื้อตัวเหมือนผู้ใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเด็กๆ ไม่มีอาการแบบนั้น เพราะการนอนที่นานและสงบจะช่วยให้สมองพัฒนาเต็มที่ เมื่อหลับได้สบาย อารมณ์เมื่อตื่นก็จะสดใส พร้อมสำหรับการเรียนรู้ต่อไป

4.ทำความสะอาดบริเวณที่ลูกนอน
ช่วงเวลาที่ลูกหลับจะเป็นช่วงที่คุณแม่หลายๆ คนใช้เคลียร์งานบ้านที่คั่งค้าง แต่การทำความสะอาดหรือปัดกวาดบริเวณที่ลูกนอนหลับนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะฝุ่นที่เราปัดกวาดอาจไปเข้าจมูกลูกทำให้ลูกนอนหลับไม่สบายตัว และอาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้

5.อย่าเสียงดังหรือกินอาหารขณะที่ลูกหลับ
ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเสียงดัง หรือการที่คุณแม่มักจะกินอาหารใกล้ๆ กับลูก จะได้คอยดูลูกอย่างใกล้ชิด แต่หากทำได้ แนะนำให้แยกตัวออกไปกินและคุยกันให้ห่างจากจุดที่ลูกหลับจะดีกว่า เพราะทั้งเสียงและกลิ่นอาจรบกวนให้ลูกหลับได้ไม่สนิทจนต้องตื่นทั้งที่ยังนอนได้นิดเดียว

และนี่ก็คือ ข้อต้องห้ามของคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งในขณะที่ลูกน้อยหลับ เพราะอาจจะเป็นการรบกวนการนอนหลับของลูก ซึ่งหากลูกนอนไม่เพียงพอ ย่อมทำให้เขาเป็นเด็กขี้หงุดหงิด และส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ได้ด้วยนั่นเอง