ปัญหาผิวลูกน้อยที่คุณแม่ควรรู้ กับ 5 ผดผื่นที่ทารกเป็นมากที่สุด

ปัญหาผิวลูกน้อยที่คุณแม่ควรรู้ กับ 5 ผดผื่นที่ทารกเป็นมากที่สุด

ปัญหาผิวลูกน้อยที่คุณแม่ควรรู้ กับ 5 ผดผื่นที่ทารกเป็นมากที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผดผื่นถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับเด็กทารก เพราะเด็กในวัยนี้ยังมีต่อมเหงื่อที่พัฒนาได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้เกิดปัญหาเรื่องผดผื่นได้ง่าย โดยเฉพาะการดูแลของคุณพ่อและคุณแม่ที่จะต้องรักษาความสะอาดอยู่เสมอและไม่นำสารเคมีใดๆ มาสัมผัสต่อตัวเด็กมากจนเกินไป สำหรับผดผื่นที่มักเกิดขึ้นกับเด็กทารก พร้อมวิธีป้องกันและรักษา ก็มี 5 ชนิดดังนี้

1.ผื่นแดง

ผื่นลักษณะนี้จะขึ้นมาเป็นตุ่มตามใบหน้า ลำตัว และแขน-ขา โดยจะมีลักษณะเป็นตุ่มที่มีหัวใสหรืออาจจะมีหัวออกเหลืองคล้ายหนองขนาดเล็กติดกันเป็นแพ โดยมักจะเกิดในช่วงที่อากาศร้อน จึงทำให้ต่อมเหงื่อของเด็กอุดตันและกลายมาเป็นผื่นแดงในที่สุด วิธีการป้องกันคือ ให้อาบน้ำเด็กตามเวลา สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ไม่มีสารเคมี และเป็นเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี อยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเท แต่ถ้าเป็นแล้วเกิดลุกลามควรพบแพทย์ทันที แต่ส่วนใหญ่แล้วผดชนิดนี้มักจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

2.ผื่นแพ้ผิวหนัง

ผื่นชนิดนี้จะเกิดจากอาการแพ้สิ่งแวดล้อมรอบข้างที่มากระตุ้น จนกลายมาเป็นผื่นขนาดเล็กที่กระจายตัวออกทั้งใบหน้า, ลำตัว และแขน-ขา ถ้าเป็นในระยะเริ่มแรกจะออกเป็นเม็ดสีแดงขนาดเล็กและกลายเป็นปื้นหนาขึ้น ซึ่งตัวกระตุ้นอาจจะมาจากสารระคายเคือง, สารเคมี หรือแม้แต่เกสรดอกไม้ เป็นต้น สำหรับวิธีการป้องกัน คือ คุณพ่อและคุณแม่ต้องรู้ว่าลูกมีอาการแพ้อะไรบ้าง เพื่อที่จะเลือกอาหาร, ผลิตภัณฑ์ และสิ่งของต่างๆ ที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ที่สำคัญคือควรให้ลูกดื่มนมแม่เพื่อลดอาการแพ้ต่างๆ และถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำไปพบแพทย์ทันที

3.ผื่นผ้าอ้อม

สำหรับผื่นแพ้ผ้าอ้อมมักจะเกิดกับเด็กยุคนี้เป็นจำนวนมาก เพราะคุณพ่อและคุณแม่หันมาใช้ผ้าอ้อมกันมากขึ้น ซึ่งผ้าอ้อมบางชนิดจะมีสารเคมีที่ทำให้ผิวของทารกเกิดอาการระคายเคือง รวมไปถึงการที่ผิวจะต้องสัมผัสกับปัสสาวะที่อยู่ภายในผ้าอ้อมเป็นเวลานานจึงเกิดเป็นผื่นอักเสบ โดยจะเป็นผื่นแดงตามบริเวณช่วงโคนขา, อวัยวะเพศ, ก้น และอาจจะลามลงมาสู่ต้นขาเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเสี่ยงอาการติดเชื้อราร่วมด้วย วิธีป้องกัน คือ ควรเลือกผ้าอ้อมที่มีคุณภาพและควรเปลี่ยนผ้าอ้อมทุก 2 ชั่วโมง หรือถ้าเด็กมีการขับถ่ายบ่อยควรเปลี่ยนให้บ่อยที่สุด ในขณะที่เปลี่ยนควรทำความสะอาดให้เรียบร้อยและเช็ดให้แห้ง ถ้ามีผื่นชนิดนี้ขึ้นให้ใช้ครีมป้องกันอาการระคายเคือง แต่ถ้าอาการลุกลามควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

4.ผดร้อน

ผดร้อนจะเกิดจากผิวหนังของทารกที่ยังไม่สามารถระบายเหงื่อได้ดีเท่าผู้ใหญ่ เมื่อต้องสัมผัสกับความร้อนจึงทำให้เกิดการอุดตันของเหงื่อที่ออกมาได้น้อย แล้วกลายเป็นผดเม็ดเล็กที่ลุกลามไปทั่วทั้งใบหน้าและลำตัว โดยจะมีทั้งแบบเม็ดใส, เม็ดขาวขุ่น รวมไปถึงผดเม็ดสีแดงและผดแบบตุ่มหนอง สำหรับวิธีการป้องกัน คือ ควรหาที่นอนให้ลูกที่มีอากาศถ่ายเทดี มีอากาศที่เย็นสบาย พร้อมสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่มีสารเคมีเจือปนและเป็นเสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อได้ง่าย ที่สำคัญคือผดชนิดนี้ไม่ควรใช้ครีมทาอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าลุกลามเป็นจำนวนมากควรรีบพาไปพบแพทย์

5.ผดอับชื้น

ผดอับชื้นจะเกิดในบริเวณที่เสียดสีได้ง่าย เช่น คอ, ข้อพับ, ช่วงขา, และช่วงก้น เพราะเด็กทารกมีต่อมเหงื่อและรูขุมขนที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ยิ่งถ้าโดนเสียดสีร่วมกับเหงื่อด้วยแล้วจะทำให้เกิดอาการอักเสบและกลายเป็นผดสีแดง นอกจากนี้ยังเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อราอีกด้วย ควรป้องกันด้วยการทำความสะอาดผิวจากการอาบน้ำและใช้น้ำยาอาบน้ำเด็กถูบริเวณที่อับชื้นง่ายอยู่เสมอ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วให้ใช้ผ้าซับน้ำที่ผิวเด็กให้แห้งก่อนใส่เสื้อผ้า ที่สำคัญคือไม่ควรทาแป้งเพราะแป้งจะเป็นตัวทำให้ต่อมเหงื่อของเด็กอุดตันได้มากขึ้นกว่าเดิมและอาจจะเกิดอาการระคายเคืองที่ร้ายแรงได้อีกด้วย

สำหรับผดผื่นทั้ง 5 แบบนี้ มักจะเกิดขึ้นจากความร้อน ความชื้น และอาการแพ้ต่างๆ ดังนั้นถ้าคุณพ่อและคุณแม่รู้สึกกังวลใจควรรักษาความสะอาดและทำให้ผิวของลูกไม่อับชื้น หรือถ้าเป็นผดผื่นแล้วก็ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาที่ถูกต้องต่อไป      

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook