4 พฤติกรรมที่สาวออฟฟิศควรเลี่ยง ก่อนสุขภาพพัง
การทำงานในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มักเป็นงานประจำในสำนักงาน อาคารใหญ่ เป็นชาวออฟฟิศซะมากกว่า ยิ่งชีวิตที่เร่งรีบทำให้เราต้องมีพฤติกรรมเดิมๆ อยู่ตลอดเวลา แต่พฤติกรรมเหล่านี้รู้หรือไม่ว่าอาจเป็นการทำลายสุขภาพของเราโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็มี 4 พฤติกรรมที่สาวออฟฟิศควรเลี่ยงดังนี้
1.ทานแต่กาแฟดำในมื้อเช้า
การนอนดึกและตี่นเช้าเพื่อให้มีเวลาในการเดินทางหรือแต่งตัว ทำให้สาวออฟฟิศมักจะละเลยมื้อเช้าที่แสนสำคัญไป หรือด้วยความเชื่อผิดๆ เช่น กลัวอ้วน ทำให้หลายคนเลือกทานแค่กาแฟดำแค่แก้วเดียวแล้วออกเดินทางไปทำงานเลย ทั้งนี้หากลองเปลี่ยนพฤติกรรมสักนิด ก่อนกลับบ้านแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาซื้อขนมปัง ผลไม้ นม หรือโยเกิร์ต ติดตู้เย็นไว้สักหน่อยเพื่อทำกินในตอนเช้า ก็จะช่วยประหยัดเวลาและไม่เสียสุขภาพด้วย
2.ทานแต่อาหารไม่มีประโยชน์
เมื่อเวลาช่วงเช้าหมดไปกับการแต่งตัว แต่งหน้า การเดินทาง ทำให้หลายคนไม่ได้ทานอาหารเช้าแล้ว สาวออฟฟิศก็ยังเลือกจะทานพวกอาหารที่ไม่มีประโยชน์ในช่วงกลางวัน และตอนเย็น เช่น แฮมเบอร์เกอร์ หรือของหวาน จึงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา โดยเฉพาะโรคอ้วน ดังนั้นหันมาทานอาหารที่มีประโยชน์กันดีกว่า
3.กลั้นปัสสาวะเป็นประจำ
บางครั้งด้วยงานที่เร่งรีบ ทำให้เรารู้สึกอยากจะรีบเคลียร์งานต่างๆ ให้เสร็จโดยเร็ว จึงมองข้ามการไปเข้าห้องน้ำ ยอมกลั้นปัสสาวะเพื่อรอให้งานเสร็จทีเดียว แต่หารู้ไม่ว่านั่นทำให้เราเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะได้ ซึ่งเป็นอันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นควรลุกมาเข้าห้องน้ำทันที ที่เริ่มมีอาการปวด อย่ากลั้นปัสสาวะบ่อยๆ เป็นอันขาด
4.ไม่ออกกำลังกาย และนั่งนานไม่ขยับลุกเปลี่ยนท่า
เวลาทำงานในออฟฟิศทุกคนย่อมทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นหลัก เพราะฉะนั้นแล้วแน่นอนการทำงานของร่างกายก็จะอยู่ในท่าซ้ำๆ เดิมๆ ทุกวัน ซึ่งก็อาจจะเป็นปัญหาในอนาคตได้ ยิ่งไม่ค่อยได้ออกกำลังกายด้วยแล้วก็ยิ่งส่งผลเสียมากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นควรหาตัวช่วยดีๆ อย่างหมอนรองข้อมือหรือหมอนรองหลังมาใช้ขณะทำงาน รวมถึงควรลุกไปดื่มน้ำเป็นระยะๆ หรือลุกเปลี่ยนท่าทางบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเส้นเอ็นต่างๆ เกิดอาการตึงและอักเสบนั่นเอง นอกจากนี้เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็อาจจะหาเวลาไปฟิตเนสหรือวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้ที่ทำงานบ้างก็ได้ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอนั่นเอง
รู้แบบนี้แล้วใครที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่โดยด่วน จะได้ไม่มีปัญหาสุขภาพตามมาในภายหลังนั่นเอง