เบลล์ เลลาณี ลูกสาวแก้ว อภิรดี แก้จมูกที่เกาหลี ทรงโด่งพุ่ง หน้าเป๊ะขึ้นมาก
นับว่าเป็นลูกดาราที่มีความสวยได้แม่มาเต็มๆ สำหรับ เบลล์ เลลาณี ทศพร ลูกสาวคนเก่งของแม่ แก้ว อภิรดี ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาในวงการด้วยการคว้าตำแหน่งมิสแกรนด์สระบุรี 2017 และเดินทางสายวงการไม่ว่าจะเข้าสมัครในรายการ The Face ซีซั่น 5 และยังเป็นผู้ประกาศข่าว ในรายการ ข่าวเช้า Good Morning Thailand เรียกว่าสวย เก่ง ครบสูตรจริงๆ
ล่าสุด เบลล์ เลลาณี บินไปอัพความสวยไกลถึงประเทศเกาหลีใต้ โดยรอบนี้สาวเบลล์ ตัดสินใจแก้จมูก พร้อมจัดเรียงไขมันใต้ตา ฉีดไขมันทั้งหน้า งานนี้สาวเบลล์ได้บอกกับ ทีมงาน Sanook Women เกี่ยวกับการตัดสินใจทำศัลยกรรมครั้งนี้ด้วยว่า
"ก่อนหน้านี้2ปี เคยใส่ซิลิโคน และเนื้อเยื่อตรงปลายจมูก ด้วยความทำศัลยกรรมครั้งแรก ก็กลัวๆ เลยไม่ให้คุณหมอทำอะไรมากนัก จนกระทั่งเวลาผ่านไป เบลล์ผอมลง จมูกรัดแกนมากยิ่งขึ้น ทำให้ดูหน้ายาวเกินไป บวกกับโครงหน้าตัวเองที่เป็นคนหน้ายาวด้วย ยิ่งยาวไปใหญ่ เลยรู้สึกว่าต้องแก้ทรง เพราะหน้าดูแข็งเวลายิ้มและไม่ธรรมชาติ"
เบลล์ไปทำอะไรบ้าง?
1. จมูก
แก้/ปรับ
-เอาซิลิโคนเก่าออก
-ขูดพังผืด
-ตัดไขมันในจมูก ทำให้สันจมูกดูเล็กลง
-ตัดไขมันปลายจมูกให้ดูเล็กลง
-คลายกล้ามเนื้อฐานจมูก (ก่อนหน้ารั้งร่องริมฝีปากทำให้จมูกดูไม่เป็นธรรมชาติเวลายิ้มจะดูแข็งๆ)
เสริม
-ใส่ซอฟท์ซิลิโคนของเกาหลีแท้ บางๆ
-ส่วนปลายจมูก ดึงปลายให้ยาวขึ้นโดยใช้กระดูกอ่อนซี่โครงบริจาค และ กระดูกหลังหู
-เอาเนื้อเยื่อเทียมตรงปลายออก และปรับปลายให้เล็กลงด้วยการมัดกล้ามเนื้อปลายจมูก
2. จัดเรียงไขมันใต้ตาใหม่
ให้รอยช้ำใต้ตาดูเป็นเบ้าน้อยลง ดูอ่อนเยาว์ขึ้น จะเป็นการกรีดในตาเพื่อนำไขมันออกมาเรียงใหม่
3. ฉีดไขมัน
กรีดเอามาจากตรง Bikini Line นำไปปั่นให้ได้ไขมันบริสุทธิ์แล้วนำมาฉีด
-หน้าผาก ให้ดูมีมิติมากขึ้น
-ร่องแก้ม และ ขมับ ให้ดูหน้าอิ่มขึ้น
-ฉีดแก้มส้ม เวลายิ้มแล้วจะดูหน้าเด็ก
4. ฉีดสลาย Fat ตรงกรอบหน้า
5. ฟิลเลอร์ปาก
ความรู้สึก 5 วัน หลังทำศัลยกรรมครั้งนี้ จะเป็นอย่างไรบ้าง สาวเบลล์ บอกไว้อย่างละเอียดเลยจ๊ะ
วันที่ 1
ออกจากห้องผ่าตัด งงๆ มึนๆ ยาสลบ ปวดหัวหน่อยๆ เจ็บคอใช้ได้เลยค่ะ จิบน้ำไม่ได้เกือบ24ชั่วโมง หลังผ่าตัดก็ยังจิบไม่ได้เพราะกระเพาะไม่ได้ทานอะไรเลย เคยมีเคสอาเจียนเลยต้องรออีก 3-4 ชั่วโมง หลังผ่าตัดเสร็จ ความพีคคือกลับห้องนอน หายใจไม่ออก! ต้องหายใจทางคอบวกกับยังไม่หายเจ็บคอจากการสอดท่อดมยาสลบ สรุปคืนแรกพยายามหลับ ทุกอย่างจะดีเองค่ะ
วันที่ 2
เช้ามาไปล้างแผลที่โรงพยาบาลไม่บวมเลย งงมาก ปกติต้องมีม่วงเขียวบ้าง อันนี้เป็นความโชคดีที่ร่างกายฟื้นฟูไวมาก ตอนแรกหายใจไม่ออก เราก็นึกว่าเลือดคงแข็งตัวในจมูก ที่ไหนได้ เป็นผ้าก๊อซขนาดเท่าจมูกถูกยัดอยู่ในจมูก 2 ข้างตั้งแต่แรกเพื่อห้ามเลือด (นึกภาพไม่ออกอารมณ์ก๋วยเตี๋ยวหลอด555) ตอนเอาออก เสียววูบวาบมาก แสบนิดๆ แต่หายใจออกปุ๊บ ชีวิตดีงามปั๊ป เดินไปไหนมาไหนได้ชิวๆ กลางคืน เริ่มมีอาการปวดกระบอกตาหน่อยๆ
วันที่ 3
เนื่องจากคืนก่อนหน้ามีอาการปวดกระบอกตา ไม่ผิดคาด ตื่นมาบริเวณหัวตาบวมแดงเล็กน้อย ต้องมีบ้างแหละ มีรู้สึกปวดหัวบ้างนิดหน่อย ระหว่างการรักษาหมอจะไม่ให้ทานยาอะไรอย่างอื่นเลย เช่น ลดน้ำมูก กลุ่มวิตามิน เป็นต้น ด้วยความอากาศที่เกาหลีเย็นเลยช่วยให้ความเจ็บความบวม ลดลงไวมาก แต่ก็ต้องแต่งตัวให้อุ่นเช่นกัน ถ้าเป็นหวัดมานี่ยุ่งเลย (ออกไปเดินช้อปปิ้งแล้ววันนี้ 5555 ) แนะนำว่าอย่าก้มหน้า อย่าเดินเร็ว มันจะกระแทกแล้วเจ็บ นั่งแท็กซี่ก็ต้องอดทนกันนิดหนึ่ง ผ่านลูกระนาดที่บอกเลยว่าใจจะขาดรอนๆ
วันที่ 4
ดีขึ้นกว่าวันก่อนๆ มาก เพราะหายใจออกบ้างแล้ว ทำให้เจ็บคอน้อยลง เดินไปมาไหนได้ปกติ เหมือนเดิมห้ามเดินเร็วมาก เพราะมันจะกระแทกแล้วเจ็บจมูก ห้ามก้มหน้าบ่อยๆ เบลล์เผลอบ่อยมากเพราะแอบไปเดินช้อปปิ้ง เค้าบอกว่าเดินบ่อยๆจะหายไว (เอาเท่าที่ไหวอย่าฝืนร่างเยอะนะคะแต่ละคนไม่เหมือนกัน) และยังคงนอนแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน เพื่อความสวย เราต้องอดทน
วันที่ 5
วันนี้ก่อนเดินทางกลับ ไปเจอคุณหมออีกรอบ (คุณหมอทั้งหมด 3 ท่าน คุณหมอใต้ตา/คุณหมอฮงจะชำนาญเรื่องเคลียร์จมูก สลายไขมัน /คุณหมอปาร์คจัดทรงจมูกปรับจมูก) วันนี้ตัดไหมข้างขมับสองข้าง และร่องแก้ม 2 ข้าง เอาเฝือกที่จมูกออกแล้ว รอกลับไปตัดไหมที่ไทยตอน ครบ 7 วัน ค่ะ
หลังศัลยกรรมครั้งนี้ สาวเบลล์ จะสวยเป๊ะขึ้นขนาดไหน รอติดตามกันได้เลย
อัลบั้มภาพ 36 ภาพ