หากจะรัก...ควรจะรู้ (ตอนจบ)
ด้วยเหตุนี้ถ้าจะทำให้ชีวิตรักและกามารมณ์สุขสมได้ ต้องมองกันและกันในทางที่ดี มีความคิดในทางบวก ไม่มองคู่ชีวิตในแง่ร้าย ให้พลังอำนาจของความคิดสร้างสรรค์ในทางบวกนำมาสู่ความปรองดองและความสุขสมในชีวิตคู่
ผู้ชายนั้นเวลามีเซ็กซ์แล้วจะผ่อนคลายหายเครียด และเกิดมีความรักเพิ่มพูน นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้หญิงที่มีผู้ชายเป็นคู่ชีวิตจะต้องเรียนรู้อย่างยอมรับในความเป็นจริง
และทำให้เขาคนนั้นเข้าใจว่า ผู้หญิงต้องการความรักก่อนจึงจะผ่อนคลายหายเครียด แล้วอยากจะมีเซ็กซ์!
ชีวิตคู่ที่เข้าใจกันและพยายามปรับความรักและบทพิศวาสให้ลงตัวสอดคล้องประสานความต้องการของแต่ละคนเข้าด้วยกันจึงเป็นชีวิตคู่ที่สุขสม
และสิ่งที่ต้องทำในอันดับแรกคือ พยายามปรับตัวคุณให้เข้าได้กับคู่ของคุณ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญประการใด เพราะใครคิดได้ก่อน เข้าใจก่อน
และปรับตัวก่อน ก็จะพบกับความสุขก่อน คนที่มัวแต่คิดให้อีกคนปรับตัวก่อนรับรองได้ว่าโอกาสที่ฝันจะเป็นจริงนั้นยากพอๆ กับการเข็นครกขึ้นภูเขาทีเดียว
เพราะการบังคับใจให้คนอื่นทำตามตัวเองนั้นยากกว่าการบังคับใจตนเองให้ยอมรับกับความเป็นจริงของชีวิตคู่มากนัก แต่อย่าฝืนใจทำ ถ้าคิดว่าปรัชญาของชีวิตที่เขียนให้อ่านข้างต้นนั้นเป็นความจริงที่ยอมรับได้ยากแล้ว
ขอให้รู้ว่ามีคนอยู่คนหนึ่งที่ยังคงต้องการความรักจากคุณอยู่เสมอ และรอคอยความรักจากคุณอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ท้อถอยเลย คนคนนั้นก็คือ ‘คุณ’ นั่นเอง!
เคล็ดลับในการทำให้ผู้หญิงเกิดอารมณ์เสน่หานั้นเป็นเคล็ดลับที่ชายหนุ่มทั้งหลายจะต้องรู้ให้ได้ว่า...ผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่แสวงหาความรัก
เธอต้องการความรัก...เป็นพื้นฐาน ก็ให้ความรักแก่เธอ ให้เธอแน่ใจว่ารักเธอเสมอ แล้วเธอก็จะตอบสนองด้วยการร่วมรัก อย่างเต็มอกเต็มใจและมีความสุข
โดยสรุปก็คือ ผู้หญิงต้องมีความรักก่อน และมีความสบายอกสบายใจ ผ่อนคลายหายเครียดแล้วจึงอยากมีบทรักบทพิศวาสอย่างสุขสม ผู้ชายชอบแสดงความรักผ่านภาษากาย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
นักจิตวิทยาเรืองนามหลายรายบอกว่า ผู้ชายบอกรักผ่านการมีเพศสัมพันธ์! ซึ่งเป็นความจริง และผู้หญิงหลายคนไม่ได้รับรู้ว่า เมื่อผู้ชายสุขสมจากการมีบทพิศวาสกับผู้หญิงคนที่เขารักแล้วเขาจะเกิดความรักเพิ่มพูนขึ้น
ก่อนอื่นต้องให้อรรถอธิบายก่อนนะครับว่า ผู้ชายต่างจากผู้หญิงตรงที่สามารถจะมีบทพิศวาสโดยมีความรักหรือไม่ก็ได้ แต่ความสุขสมสำหรับเขาแล้วต่างกัน
พวกเขาอาจจะไปมีสัมพันธสวาทกับผู้หญิงที่เขาไม่รักได้ เพราะนั่นเป็นการระบายออกถึงความต้องการตามธรรมชาติของการเจริญพันธ์ภายใต้การบงการของฮอร์โมนเพศชาย
ที่เรียกว่า เทสโทสเตอโรน แบบนั้น พอมีความสุขสมในตอนท้ายแล้วเขาก็จะแค่รู้สึกสบายๆ เหมือนที่ได้ระบายอะไรที่หนักอกอยู่ออกไป
ต่างจากการมีบทพิศวาสกับผู้หญิงคนที่เขารักมากเลย แบบนั้นเขาจะหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอ็นโดฟินออกมาได้มากกว่า และเป็นความสุขสมในความสุขสม
เพราะเขาได้ร่วมรักกับผู้หญิงคนที่เขารัก และกิจกรรมที่เขาและเธอได้กระทำร่วมกันนั้น เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากความรักที่นำไปสู่ความต้องการ
ในการที่จะสัมผัสรักทางกายร่วมกัน การเคลื่อนไหวที่สอดคล้องประสานกันอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่บทพิศวาสกำลังดำเนินไปตามครรลองของมันนั้นก่อให้เกิดความผูกพันทางกายและมีความสุขอันหาจะเปรียบมิได้ถ้ามีความเข้าใจในความต้องการของกันและกัน
ที่จะถ่ายทอดความรักให้แก่กันผ่านทางสัมผัสรัก! ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจึงเป็นเรื่องราวของชายหญิงทั้งความเหมือนและความแตกต่างในความรัก
และการแสดงความรักในรูปแบบของสัมพันธภาพทางกายที่เชื่อมต่อกันด้วยการสัมผัสที่บอกความรักภายในใจออกมา
การยอมรับความแตกต่างของกันและกัน และพยายามเสริมเติมช่องว่างให้กันและกันจนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวทั้งกายและใจ
จึงเป็นปรัชญาแห่งความรักของคนเราที่จะต้องพยายามเรียนรู้และปรับปรุงให้สอดคล้องประสานกายและใจ เพราะเมื่อมีชีวิตคู่แล้ว ไม่ควรจะมีคำว่า ‘ฉัน’ ไม่ควรจะมีคำว่า ‘เธอ’ มีแต่คำว่า ‘เรา’
‘เรา’ จึงเป็นคำที่หวานและไพเราะที่สุดในการมีชีวิตคู่ เพราะเราเป็นเรา เราจึงเป็นของกันและกัน เราจึงเป็นเพื่อนคู่ชีวิตกันตลอดไป คุณเป็นด้วยไหม?
ติดตามอ่าน หากจะรัก...ควรจะรู้ (ตอนแรก) ได้ที่นี่
โดย นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
นิตยาสารเปรียว เมษายน
ผู้ชายนั้นเวลามีเซ็กซ์แล้วจะผ่อนคลายหายเครียด และเกิดมีความรักเพิ่มพูน นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้หญิงที่มีผู้ชายเป็นคู่ชีวิตจะต้องเรียนรู้อย่างยอมรับในความเป็นจริง
และทำให้เขาคนนั้นเข้าใจว่า ผู้หญิงต้องการความรักก่อนจึงจะผ่อนคลายหายเครียด แล้วอยากจะมีเซ็กซ์!
ชีวิตคู่ที่เข้าใจกันและพยายามปรับความรักและบทพิศวาสให้ลงตัวสอดคล้องประสานความต้องการของแต่ละคนเข้าด้วยกันจึงเป็นชีวิตคู่ที่สุขสม
และสิ่งที่ต้องทำในอันดับแรกคือ พยายามปรับตัวคุณให้เข้าได้กับคู่ของคุณ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญประการใด เพราะใครคิดได้ก่อน เข้าใจก่อน
และปรับตัวก่อน ก็จะพบกับความสุขก่อน คนที่มัวแต่คิดให้อีกคนปรับตัวก่อนรับรองได้ว่าโอกาสที่ฝันจะเป็นจริงนั้นยากพอๆ กับการเข็นครกขึ้นภูเขาทีเดียว
เพราะการบังคับใจให้คนอื่นทำตามตัวเองนั้นยากกว่าการบังคับใจตนเองให้ยอมรับกับความเป็นจริงของชีวิตคู่มากนัก แต่อย่าฝืนใจทำ ถ้าคิดว่าปรัชญาของชีวิตที่เขียนให้อ่านข้างต้นนั้นเป็นความจริงที่ยอมรับได้ยากแล้ว
ขอให้รู้ว่ามีคนอยู่คนหนึ่งที่ยังคงต้องการความรักจากคุณอยู่เสมอ และรอคอยความรักจากคุณอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ท้อถอยเลย คนคนนั้นก็คือ ‘คุณ’ นั่นเอง!
เคล็ดลับในการทำให้ผู้หญิงเกิดอารมณ์เสน่หานั้นเป็นเคล็ดลับที่ชายหนุ่มทั้งหลายจะต้องรู้ให้ได้ว่า...ผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่แสวงหาความรัก
เธอต้องการความรัก...เป็นพื้นฐาน ก็ให้ความรักแก่เธอ ให้เธอแน่ใจว่ารักเธอเสมอ แล้วเธอก็จะตอบสนองด้วยการร่วมรัก อย่างเต็มอกเต็มใจและมีความสุข
โดยสรุปก็คือ ผู้หญิงต้องมีความรักก่อน และมีความสบายอกสบายใจ ผ่อนคลายหายเครียดแล้วจึงอยากมีบทรักบทพิศวาสอย่างสุขสม ผู้ชายชอบแสดงความรักผ่านภาษากาย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
นักจิตวิทยาเรืองนามหลายรายบอกว่า ผู้ชายบอกรักผ่านการมีเพศสัมพันธ์! ซึ่งเป็นความจริง และผู้หญิงหลายคนไม่ได้รับรู้ว่า เมื่อผู้ชายสุขสมจากการมีบทพิศวาสกับผู้หญิงคนที่เขารักแล้วเขาจะเกิดความรักเพิ่มพูนขึ้น
ก่อนอื่นต้องให้อรรถอธิบายก่อนนะครับว่า ผู้ชายต่างจากผู้หญิงตรงที่สามารถจะมีบทพิศวาสโดยมีความรักหรือไม่ก็ได้ แต่ความสุขสมสำหรับเขาแล้วต่างกัน
พวกเขาอาจจะไปมีสัมพันธสวาทกับผู้หญิงที่เขาไม่รักได้ เพราะนั่นเป็นการระบายออกถึงความต้องการตามธรรมชาติของการเจริญพันธ์ภายใต้การบงการของฮอร์โมนเพศชาย
ที่เรียกว่า เทสโทสเตอโรน แบบนั้น พอมีความสุขสมในตอนท้ายแล้วเขาก็จะแค่รู้สึกสบายๆ เหมือนที่ได้ระบายอะไรที่หนักอกอยู่ออกไป
ต่างจากการมีบทพิศวาสกับผู้หญิงคนที่เขารักมากเลย แบบนั้นเขาจะหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอ็นโดฟินออกมาได้มากกว่า และเป็นความสุขสมในความสุขสม
เพราะเขาได้ร่วมรักกับผู้หญิงคนที่เขารัก และกิจกรรมที่เขาและเธอได้กระทำร่วมกันนั้น เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากความรักที่นำไปสู่ความต้องการ
ในการที่จะสัมผัสรักทางกายร่วมกัน การเคลื่อนไหวที่สอดคล้องประสานกันอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่บทพิศวาสกำลังดำเนินไปตามครรลองของมันนั้นก่อให้เกิดความผูกพันทางกายและมีความสุขอันหาจะเปรียบมิได้ถ้ามีความเข้าใจในความต้องการของกันและกัน
ที่จะถ่ายทอดความรักให้แก่กันผ่านทางสัมผัสรัก! ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจึงเป็นเรื่องราวของชายหญิงทั้งความเหมือนและความแตกต่างในความรัก
และการแสดงความรักในรูปแบบของสัมพันธภาพทางกายที่เชื่อมต่อกันด้วยการสัมผัสที่บอกความรักภายในใจออกมา
การยอมรับความแตกต่างของกันและกัน และพยายามเสริมเติมช่องว่างให้กันและกันจนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวทั้งกายและใจ
จึงเป็นปรัชญาแห่งความรักของคนเราที่จะต้องพยายามเรียนรู้และปรับปรุงให้สอดคล้องประสานกายและใจ เพราะเมื่อมีชีวิตคู่แล้ว ไม่ควรจะมีคำว่า ‘ฉัน’ ไม่ควรจะมีคำว่า ‘เธอ’ มีแต่คำว่า ‘เรา’
‘เรา’ จึงเป็นคำที่หวานและไพเราะที่สุดในการมีชีวิตคู่ เพราะเราเป็นเรา เราจึงเป็นของกันและกัน เราจึงเป็นเพื่อนคู่ชีวิตกันตลอดไป คุณเป็นด้วยไหม?
ติดตามอ่าน หากจะรัก...ควรจะรู้ (ตอนแรก) ได้ที่นี่
โดย นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
นิตยาสารเปรียว เมษายน