"วันสตรีสากล" กับ "Blacklist Secret" 2 สาวผู้ก้าวผ่านคําบูลลี่ จนกลายเป็นพลังบวกส่งต่อถึงผู้หญิง

"วันสตรีสากล" กับ "Blacklist Secret" 2 สาวผู้ก้าวผ่านคําบูลลี่ จนกลายเป็นพลังบวกส่งต่อถึงผู้หญิง

"วันสตรีสากล" กับ "Blacklist Secret" 2 สาวผู้ก้าวผ่านคําบูลลี่ จนกลายเป็นพลังบวกส่งต่อถึงผู้หญิง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 "Blacklist Secret" เมื่อความงามคือความเท่าเทียม เพราะ "ผู้หญิงสวยทุกคน"

ผู้หญิง เป็นเพศที่เปราะบางทางอารมณ์เป็นอย่างมาก หลายครั้งเรารับคำบูลลี่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ตลอดจนเรื่องจิปาถะต่างๆ มาไว้ในสมอง จนเกิดเป็นความไม่มั่นใจ ความเครียดสะสม เนื่องในโอกาส "วันสตรีสากล (International Women's Day)" ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี Sanook Women ขอหยิบเรื่องราวของสองสาวสุดมั่น "นินนิน-นันท์นภัส วงศ์โสภา" และ "แม่มด-รัตนาวลี นาคประกอบ" เจ้าของแฟนเพจ Blacklist Secret ที่มีผู้ติดตามเพจมากถึงกว่า 4 แสนมาแบ่งปันแง่มุมของบล็อกเกอร์สาวที่เคยถูกตั้งคำถามเรื่องความสวย แต่ทั้งคู่ก็สร้างความมั่นใจในแบบของตัวเองจนภายหลังพื้นที่โซเชียลของพวกเธอกลายเป็นบ้านหลังเล็กๆ ของสาวๆ ที่ขาดความมั่นใจมาเติมเต็ม ซึ่งทั้งคู่คู่บอกว่า "ไม่อยากให้เอาเราไปเปรียบเทียบกับใครเพื่อจะทำให้ชีวิตเรามีความสุข เราสามารถมีความสุขได้ในหลายๆ แบบด้วยตัวของเราเอง"

จุดเริ่มต้นของเพจ Blacklist Secret
เราเป็นคู่เพื่อนกัน เราชอบแฟชั่น ความงาม ชอบอะไรเหมือนๆ กัน ด้วยเราทั้งคู่เป็นเด็กต่างจังหวัด เราไม่มีโอกาสได้ไปซื้อเครื่องสำอางเหมือนสาวๆ ในกรุงเทพฯ ตามเคาน์เตอร์แบรนด์ เราเลยมาแชร์กันว่าถ้าเราอยู่ต่างจังหวัดจะสวยได้ด้วยอะไร เช่น ดินสอเขียนคิ้วที่หาซื้อได้จากในเซเว่น เป็นพวกของถูกและดี เลยเป็นที่มาของการเปิดเพจ เพื่อแชร์เรื่องบิวตี้ ความสวย ความงาม แฟชั่น เริ่มจากบ้านๆ เลย อะไรที่ถูกและดี ใช้ได้จริง

เราเริ่มทำเพจมา 7 ปี ตั้งแต่ตอนอยู่มหาวิทยาลัย ตอนแรกเราเริ่มจากบิวตี้เป็นหลัก มันก็ไม่ได้ปังอะไรมาก คิดว่าน่าจะมาปังตอนไปเที่ยว เกิดจากการไปโพสต์เรื่องราวใน Pantip คนจึงเริ่มรู้จักและเข้ามาตามเราเยอะขึ้น จากเพจที่สนใจแค่การแต่งหน้า เลยกลายเป็นไลฟ์สไตล์ การแชร์ประสบการณ์ตรง 

เพจค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ เราไม่ค่อยคาดหวังว่าคนจะรู้จัก เราทำเพราะเราอยากทำ จนคนเริ่มรู้จัก 3-4 ปีหลัง

 
ชื่อเพจนี้มีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
กลุ่มเพื่อนเราตั้งแต่มหาวิทยาลัย เรียกชื่อกลุ่มกันว่า Blacklist เราชอบคำนี้เพราะเหมือนกับเป็นกลุ่มที่ทำอะไรผิดก็จะโดนบัญชีดำ เรามองว่าเราเป็นพวกคิดนอกกรอบ แล้วคำว่า Secret คือสาวๆ อยากมาแชร์ความลับให้เราฟัง เรื่องความสวยความงาม เราคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีความลับ มันบอกกันได้ อย่างเวลาสัมภาษณ์ดาราว่าคุณใช้อะไร ทำไมสิวถึงหาย ก็ไม่ค่อยเห็นว่ามีใครบอกว่าใช้อะไรถึงหาย ไม่ค่อยมีใครมารีวิวจริงๆ เราอยากเป็นคนนั้นที่บอกว่า ยาแต้มสิวอันนั้นทาแล้วยุบจริง หรืออันนี้ใช้แล้วดีจริง ไม่มีความลับต่อเพื่อนค่ะ 


คอนเทนต์ที่นำเสนอภายในเพจของคุณ เนื้อหาใจความของมันคืออะไร
เราเริ่มมาจากบิวตี้ และเราไปท่องเที่ยวเลยเอามาแชร์ บางคนอยากรู้ว่าทริปเดินทางยัง' หลังๆ เริ่มมีเรื่องอาหาร ทัศนคติ สร้างความมั่นใจให้ผู้หญิง หรือแม้แต่ปรึกษาปัญหาความรัก ตอนนี้เพจเราเหมือนเป็นศูนย์รวม ซึ่งส่วนใหญ่การนำเสนอของเราจะมาในรูปแบบพี่บอกน้อง เพื่อนบอกเพื่อน ทุกคนที่ติดตามเรา เราจะไม่มองว่าเขาคือแฟนคลับเรานะ เราคิดว่าเขาคือเพื่อนเราจริงๆ เขาคือคนในครอบครัว นินกับแม่มดคือเพื่อนสนิท เรามาทำเพจนี้ มันเลยเป็นคอนเทนต์ที่มาจากเพื่อนจริงๆ 

 
เป้าหมายสำคัญของเพจคืออะไร
แรกๆ เราก็อยากจะแชร์เคล็ดลับ ถูกและดี ไม่มีกั๊ก ใช้จริง รีวิวจริง พูดตามจริง ไม่เคยคิดว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ จากเพจที่คนตามเพียงร้อยคน เป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัย กลายเป็นวงกว้างมากๆ เรามาจากต่างจังหวัด เป็นกลุ่มคนเล็กๆ ไม่คิดว่าตอนนี้เราจะเติบโตมีกลุ่มคนที่อยู่หลายๆ ที่มาติดตามเรา ตอนนั้นเราแค่อยากแบ่งปันให้คนในมหาวิทยาลัยเรารู้ก็พอ 


คุณนิยามว่าตัวเองเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ แต่หลายคนก็ยังติดกับคำว่าบิวตี้บล็อกเกอร์ "ต้องสวย" สำหรับพวกคุณคิดอย่างไร

จริงๆ ผู้หญิงทุกคนมีความสวยเหมือนกันหมด แต่เราไม่รู้ว่าแต่ละคนเอามาตรฐานอะไรวัด มองว่าทุกคนสามารถเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ได้โดยไม่ต้องเอาความสวยมาเป็นมาตรฐานวัด ว่า "ต้องสวยเท่านั้นถึงจะมาบอกให้คนอื่นสวยได้"


มีความสวยในแบบของตัวเองอย่างไรกันบ้าง

เราไม่ได้คิดว่าตัวเองสวย แต่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีความมั่นใจ พอทำอะไรมันเลยออกมาดูดีขึ้น ไม่ได้ถึงกับว่าผู้หญิงสองคนนี้สวยมาก ยังไม่เคยได้ยินคำนั้น หมายถึงว่าทุกคนจะบอกว่าทำไมพวกพี่ถึงดูดี มั่นใจ มีความสุข เรามองว่าความสวยไม่ได้อยู่ที่หน้าตา หรือบุคลิกเพียงอย่างเดียว มันอาจจะออกมาจากทัศนคติด้วย


ทั้งคู่เคยโดนตำหนิเรื่องรูปร่าง หน้าตา ฯลฯ แรงสุดๆ คืออะไร

แม่มด : เรื่องของจมูก เราไม่ได้โดนอะไรเยอะ เขาจะมาแนะนำว่า ถ้าทำจมูกจะสวยกว่านี้อะไรแบบนี้ เคยคิดที่จะทำจมูกไหม ส่วนมากจะเจอคำถามแบบนี้ และหน้าอกเล็ก นมแบน

นินนิน : นินจะเจอแรงๆ ไปเลย ด้วยลุคนินจะดูแรงๆ คนอาจจะหมั่นไส้เราเยอะ จะมีบอกว่าหน้าตาประหลาด ขี้เหร่ ไม่สวย ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ดัดฟันจะโดนว่าไม่สวย อีนี่น่าจะไปดัดฟันนะ เมื่อก่อนนินรีวิวสีลิปสติก ก็จะโดนว่าว่าปากใหญ่ไม่สวย 


พวกคุณผ่านการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความสวยตามพิมพ์นิยมกันอย่างไรบ้าง ทั้งในชีวิตจริง และโลกโซเชียล
ด้วยความที่เราไม่ได้เป็นคนตามกระแส ตามคำพูดใครง่ายๆ เราก็จะเม้าท์กับเพื่อนๆ ว่าโดนวิจารณ์อีกแล้ว เราก็ขำๆ ปล่อยผ่านไป ไม่ได้คิดอะไรมาก บางทีก็พูดแบบขำๆ ให้คนนั้นคนนี้ทำนู่นทำนี่ เคยถามเขาไหม ว่าเขาอยากทำอะไรหรือเปล่า เขามีเหตุผลส่วนตัวอะไรหรือเปล่าถึงยังไม่ทำ เราเป็นคนไม่ซีเรียส เก็บมาคิด เลยแบบตลกๆ ไป สิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้แล้ว อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า อยากให้สังคมเลิกคิด เลิกวิจารณ์คนอื่นเรื่องรูปร่างหน้าตา เราเลยพยายามทำคอนเทนต์ที่ช่วยให้คนมองมุมใหม่ มีทัศนคติใหม่ๆ 


ลูกเพจกว่า 4 แสนคนที่ติดตามคุณ พวกเขาเป็นใครกันบ้าง ถ้าเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่พวกเธอเป็นคนอย่างไร

เลทอายุจะมีตั้งแต่ประมาณ 18-35 ปี ส่วนปัญหาที่ปรึกษาเยอะเลย คือเรื่องไม่มั่นใจในตัวเอง รองลงมาก็เรื่องความรัก ถามกันมากว่าทำไมพวกเราถึงใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข เจอเรื่องแบบนี้มา ทำอย่างไรถึงจะมีความสุขแบบพวกพี่ นอกจากนั้นมีเรื่องบูลลี่ด้วย ในห้องเรียน ในที่ทำงานจะเยอะ คนชอบบูลลี่เรื่องสาวอวบ ในกลุ่มเพื่อนก็เจอบ่อย ครอบครัวตัวเองก็มี คุณพ่อคุณแม่ชอบพูดแบบนี้ๆ ทำให้หนูไม่มีความมั่นใจเลย 


อะไรคือสิ่งที่พวกคุณมองเห็นจากการเข้ามาคอมเมนต์ พูดคุยของลูกเพจ Blacklist Secret

หลังจากที่หลายคนเข้ามาปรึกษา เรามองได้ว่าเขายังไม่มีความมั่นใจ เขาอยากได้กำลังใจ อยากให้เราพูดหรือแนะนำเขาให้มีสติ นำสิ่งที่เราพูดกลับไปแก้ไขจุดบกพร่องของเขาได้ เราก็เต็มที่ ลูกเพจมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่โดยรวม มองเห็นเลยว่า อาจมีผู้หญิงที่ไม่มั่นใจอีกเยอะ ยังมีผู้หญิงที่อยากใส่บิกินี่แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงอีกเยอะ เรามองเห็นจุดนี้ได้ชัดเจนมาก คิดว่าสิ่งที่เราแนะนำเขาไปช่วยเขาได้เยอะมากนะ

มีอยู่ครั้งหนึ่งเราลงโพสต์เกี่ยวกับก้นลาย ก้นลายแล้วทำไมเราจะใส่บิกินี่ไปเที่ยวรอบโลก ไม่เห็นเป็นไร ปรากฏว่ามีผู้หญิงมาโพสต์รูปก้นลายของตัวเองเยอะมาก เกือบเป็นร้อยๆ คน ออกมาคอมเมนต์ว่าอย่าไปแคร์นะ ซัพพอร์ตกัน เราก็ดีใจมากนะ ที่ทำให้ผู้หญิงเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่ดีต่อรูปร่างของตัวเอง เข้าใจธรรมชาติของตัวเองมากขึ้น

เคยมีเคส หรือลูกเพจที่เข้ามาขอคำแนะนำ หรือปรึกษาคุณแล้วทำให้คุณจดจำได้บ้างไหม
ส่วนมากเป็นแนวบูลลี่ มีน้องคนหนึ่งเป็นผู้หญิงร่างอวบ เขาแต่งชุดไปทำงานตามปกติ ไม่ได้ดึงดูดความสนใจอะไรเลย แต่มีรุ่นพี่ที่ทำงานที่เป็นผู้ใหญ่ แซวว่า "เดินมาพื้นสะเทือนเลยนะ อ้วนจังเลย ทำไมไม่ลดความอ้วน" พูดทุกวันๆ จะทำยังไงดี คือน้องไม่เคยพูดตอบโต้เลย แต่พี่เขาไม่หยุดพูดสักที ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เมื่อก่อนถ้าเจอเคสอะไรแบบนี้เราจะบอกให้ปล่อยผ่าน ไม่ต้องไปสนใจ คิดซะว่าคำพูดของคนก็เหมือน "ขยะเปียก" แค่เราเดินหนีจากขยะเปียก มันก็ไม่ได้กลิ่นเหม็นแล้ว

แต่ล่าสุด มีพี่คนหนึ่งพูดไว้ เขาก็เจอเคสแบบนี้ ก็จะเดินหนีเหมือนกัน แต่พักหลังไม่เดินหนีแล้ว เปลี่ยนทัศนคติเป็นลุกขึ้นสู้ แต่เป็นการลุกขึ้นสู้ ไม่ใช่สาดคำพูดที่ไม่ดี ตอบโต้ด่ากัน อย่างเช่นมีคนมาแนะนำว่าเขาอ้วน ก็บอกโอเคค่ะ ตอบเขาไปว่า นี่คือปัญหา หนูพยายามรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายแล้วนะคะ พี่ช่วยแนะนำได้ไหมคะ ไม่ซื้อคอร์สที่ไหน มีอะไรแนะนำไหม ถามจี้เขาให้สุด เขาจะรู้สึกว่า แทนที่จะแซวเล่นๆ กลายเป็นเราจริงจัง ไม่สนุกแล้ว เขาก็จะหยุดไป

ตอนเราโดนเอง เราตอบติดตลกไป แต่หลังๆ ก็เหมือนกัน มีคนว่าฟันไม่สวย เราก็ตอบกลับ มีแนะนำไหมคะ ไปทำคลินิกไหนดี หรือไม่ก็จะตอบว่าขอโทษนะคะ เอาเงินไปซื้อตั๋วเที่ยวรอบโลกหมดแล้ว ไม่มีเงินดัดฟันแล้ว ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครมาพูดแบบนี้แล้ว พอเราเริ่มแสดงความคิดเห็นว่าเราคิดบวกนะ เราไม่ได้อินกับคำพูดเหล่านั้นนะ เดี๋ยวนี้คำพูดที่ลบน้อยลงมากจนแทบไม่เห็นเลย

การพยายามให้ผู้หญิงทุกคนมองเห็นความสวยในตัวเองของพวกคุณ ตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จหรือยัง หรือเดินทางไปถึงจุดไหน
ถ้าเต็ม 100% เราว่ามา 80% แล้ว นอกจากทุกครั้งที่เราส่งแรงใจ หรือส่งข้อความให้ทุกคนเปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนความคิด แล้วทุกคนก็เริ่มกระจายความคิดแบบนี้ออกไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่เริ่มในวันนั้น กว่าที่ทุกคนจะมารู้ว่าการพูดทำร้ายน้ำใจคนอื่น มันส่งผลอะไรอย่างไร วันนี้คงยังไม่ได้ช่วยอะไรเขามาก จากเมื่อก่อนมีคนส่งมาว่าไม่มั่นใจ กลายเป็นว่าตอนนี้ทุกคนขอบคุณเรา ส่งรูปภาพต่างๆ มาให้ดู "พี่คะหนูกล้าแต่งตัวอย่างที่หนูอยากแต่งแล้วค่ะ" "พี่คะหนูกล้าทาลิปสติกสีแดงแล้วค่ะถึงแม้ว่าหนูจะผิวเข้ม" ทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งเล็กๆ แค่เราทำ มันจะส่งผลที่ดีต่อชีวิตคนอื่นด้วย

เราจะสวยได้ด้วยตัวเองได้อย่างไร
เริ่มจากดูแลตัวเองก่อน ที่สำคัญผู้หญิงจะสวยได้ ต้องมาจากจิตใจข้างในด้วย ถ้าเป็นผู้หญิงที่มีทัศนคติดี มันจะส่งผลให้ดูดีไปหมด สวยทุกอย่าง อยากให้เริ่มรักตัวเองก่อน ถ้าเราไม่รักตัวเอง เราจะไม่มีทางทำให้ตัวเองดีขึ้นได้เลย ไม่อยากให้เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร หรือเอาใครมาเปรียบเทียบกับตัวเองให้รู้สึกเราไม่เท่าเขา และด้อยไปเลย อย่างนั้นคือการที่เราไม่ให้เกียรติตัวเองและเราไม่รักตัวเอง มันง่ายมากเราแค่เริ่มต้นจากตัวเองล้วนๆ เลือกที่จะใส่ใจจากหลายๆ สิ่ง คือดูแลตัวเองด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาดูแล ไม่อยากให้ฝากชีวิตหรือพึ่งใครมาก อยากให้พึ่งพาตัวเองก่อน

มีครั้งหนึ่ง มีน้องมาปรึกษาว่า "พี่ค่ะหนูจะไปงานแต่ง หนูไม่มีชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้เลย เพื่อนหนูมีแต่คนสวยๆ ทั้งนั้น หนูกลัวสวยสู้เพื่อนไม่ได้" เราเลยบอก "น้องคะ แล้วทำไมเราต้องไปสวยสู้กันด้วย ทำไมเราไม่ใส่ในสิ่งที่เราอยากใส่ หรือสวยในแบบของตัวเองโดยที่ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร" ก็แนะนำเขาให้เปลี่ยนมุมมองใหม่ ถ้าเราเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบ เราจะไม่มีทางมีความสุขได้เลย 

Blacklist Secret เปิดเพจมาหลายปีแล้ว คุณคิดว่า “ผู้หญิง” มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องมุมมองเรื่องความงาม
ผู้หญิงแฮปปี้กับการเป็นตัวเองมากขึ้น ถ้าย้อนกลับไปเมื่อยุค 4-5 ปีก่อน ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่จะอินกับความผิวขาว หน้าเรียว ปากบางมาก แต่พอผ่านมา คนก็เริ่มเปลี่ยนความคิดด้วยโลกโซเชียลขึ้น เช่น สาวพลัสไซส์กล้าลุกขึ้นมาแต่งตัวแซ่บๆ สาวผิวสีออกมาแต่งตัวสีฉูดฉาด แต่ก็ยังดูดี ดูเก๋มาก มันทำให้การมองความงาม แฟชั่น กว้างมากยิ่งขึ้น รู้สึกว่าผู้หญิงยุคนี้สนใจกับการเป็นตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าเขาจะรูปร่างแบบไหน สีผิวอะไร บิกินี่เมื่อก่อน ส่วนใหญ่คนก็คิดว่าต้องหุ่นดีเท่านั้นถึงจะยัดบิกินี่เข้าไปได้ แต่ปัจจุบันมีบิกินี่ที่เหมาะกับสาวทุกหุ่น ทุกคนสามารถใส่ได้ในแบบของตัวเอง


แล้วเรื่องอื่นๆ ผู้หญิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

เรารู้สึกว่าผู้หญิงยุคนี้เก่งมากๆ จริงๆ ลูกเพจที่ติดตามเรา มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเยอะมาก เขาจะเข้ามาพูดคุยกันว่า เขาแข็งแกร่งเรื่องความรักเพราะเพจเราเลยนะ ถึงจะเลิกกับสามี แต่เขาก็ยังอยู่ได้เพื่อลูก เรามองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่สตรองมาก อย่างเมื่อก่อนเราจะคิดว่าพอเราแต่งงาน เราจะต้องพึ่งสามีอย่างเดียว สามีต้องทำงาน เราต้องเลี้ยงลูก แต่เดี๋ยวนี้ผู้หญิงสามารถทำทุกอย่างได้เท่าเทียมกับผู้ชาย ดีไม่ดีทำได้ดีกว่าผู้ชายด้วย ทุกวันนี้ผู้หญิงถึงโสดกันเยอะมาก เพราะคิดว่าถ้าผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตทำให้ชีวิตดีขึ้นไม่ได้ เขาก็ไม่ต้องการ เขาสามารถดูแลชีวิตตัวเองได้

พูดไปถึงอาชีพการงานด้วย เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่า อาชีพทหารไม่เหมาะกับผู้หญิงแน่นอน แต่ตอนนี้ผู้หญิงเป็นทหารเป็นตำรวจ เป็นอาชีพเดียวกับผู้ชายได้เลย ล่าสุดเราไปเจอลูกเพจที่เป็นช่างซ่อมเครื่องบินเป็นผู้หญิงที่เท่มากๆ ด้วย 


วันนี้คุณมีอะไรจะบอกกับ “ผู้หญิง” บ้าง

อยากให้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง เริ่มต้นจากการรักตัวเองให้เป็น ไม่ต้องหวังพึ่งใคร และไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพื่อจะทำให้ชีวิตเรามีความสุขได้อย่างคนนั้น เราสามารถมีความสุขได้ในหลายๆ แบบด้วยตัวของเราเอง อยากให้เลิกเปรียบเทียบเรื่องความสวย ผู้หญิงทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง อยากให้ซัพพอร์ตเพศเดียวกันเยอะๆ อย่าใช้คำพูดทำลายเพศเดียวกัน หรือบูลลี่ อยากให้ทุกคนตระหนักถึงคำพูด ก่อนจะพูดอะไรควรนึกถึงใจเขาใจเรา

สุดท้ายแล้วเรื่องความงามเป็นสิ่งที่ "ผู้หญิง" ทุกคนมี อย่าปล่อยให้คำพูดจากลั่นแกล้งของคนอื่นมาทำร้ายเราได้ ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าคุณมีความสวยในแบบของคุณ

อัลบั้มภาพ 44 ภาพ

อัลบั้มภาพ 44 ภาพ ของ "วันสตรีสากล" กับ "Blacklist Secret" 2 สาวผู้ก้าวผ่านคําบูลลี่ จนกลายเป็นพลังบวกส่งต่อถึงผู้หญิง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook