เลือกชุดเจ้าสาวอย่างไร ให้ดูสวยสมส่วน

ผู้หญิงหลายคนมีความฝันว่าสักวันหนึ่งต้องได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนรักที่สมบูรณ์ แบบเจ้าหญิงในเทพนิยาย และการจะได้เป็นเจ้าหญิงนั้น ก็ต้องอยากผ่านการได้สวมใส่ "ชุดแต่งงงาน" สีขาวบริสุทธิ์ที่ยาว สง่า สักครั้งในชีวิตจริงไหมคะ?

เมื่อกลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง  ในสมัยนี้การที่ผู้หญิงเราจะได้ใส่ "ชุดเจ้าสาว" นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะผู้หญิงเลือกเยอะ เลือกมาก และที่สำคัญไม่มีให้เลือก เพราะผู้ชายหันไปชอบกันเองเสียหมด คิคิ

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสักวันหนึ่งคุณอาจจะมีโอกาสได้ใส่ "ชุดเจ้าสาว" ในฝันอย่างไม่ตั้งตัวก็ได้ ทิชชี่จึงขอแนะนำ 5 รูปแบบพื้นฐานของชุดเจ้าสาว ที่จะช่วยคุณตัดสินใจเลือกชุดเจ้าสาวว่าแบบไหนเหมาะกับคุณ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ไม่มีกฏตายตัวหรอกว่าคุณจะต้องใส่ชุดเจ้าสาวแบบไหน ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าคุณใส่ออกมาแล้วสวยดูดีและเจ้าบ่าวของคุณพอใจแค่นั้นก็เกินพอแล้ว ^^

มาเริ่มเลือกชุดเจ้าสาวให้เหมาะกับตัวคุณดีกว่าค่ะ

1. แบบ A-Line

A-Line ชุดเจ้าสาวรูปแบบนี้เหมาะกับเจ้าสาวที่มีเอวค่อนข้างเล็ก เจ้าสาวที่มีช่วงสะโพกใหญ่ หรือช่วงต้นขาใหญ่ เพราะชุดกระโปรงทรง A จะช่วยอำพรางรูปร่างได้ดี

รูปแบบโดยทั่วไปคือ มีช่วงบนแคบและค่อยกว้างไล่ลงมาเรื่อยๆ เหมือนตัว A เนื่องจากทรง A จะเป็นรูปแบบที่คลาสสิคจึงเหมาะกับรูปแบบการแต่งงานเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะจัดในสนามหญ้าแบบ Out-door หรือในห้อง ballroom หรูในโรงแรม

ตัดเย็บได้หลายเนื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็น ผ้าลูกไม้ ซาติน ผ้าไหม หรือ ผ้าชีฟอง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะให้ชุดออกมาได้ความรู้สึกแบบไหน ถ้าอยากให้ดูออกมาเรียบง่าย ผ้าไหมน่าจะเหมาะเพราะผ้าจะทิ้งตัวดูเป็นธรรมชาติและยังให้ความรู้สึกเป็นผู้หญิง แต่ถ้าคุณอยากให้ออกมาเน้นรูปร่างก็ให้เลือกใช้ผ้าที่มีน้ำหนัก เช่น ผ้าซาตินเลยค่ะ

เนื่องจากเป็นแบบที่ค่อนข้างเรียบ คุณสามารถเพิ่มความโดดเด่นของชุดให้ดูน่าสนใจมากขึ้นจากการตกแต่ง คอเสื้อ ส่วนเอวของชุด หรือเนื้อผ้าที่นำมาตัดชุดเพิ่มเติมได้ค่ะ

2. แบบ Empire

Empire เจ้าสาวที่มีรูปร่างบอบบาง มีหน้าอกเล็กจะทำให้คุณดูอวบอิ่มขึ้น เหมาะกับเจ้าสาวที่ต้องการปกปิดรูปร่างบางส่วน เช่น เจ้าสาวที่มีขาสั้น สะโพกใหญ่ หรือเจ้าสาวที่กำลังท้องอยู่ก็เหมาะกับชุดสไตล์นี้นะคะ

ชุดเจ้าสาวรูปแบบนี้จะมีทรงที่ตรงกว่าแบบ A-lines และไม่เน้นรูปร่าง รูปแบบนี้จะมีการเย็บตะเข็บที่ใต้อก ส่วนที่เหลือจะปล่อยยาวลงมา รูปทรงแบบนี้ทำให้เจ้าสาวผู้สวมใส่ดูเป็นคนช่างแสนโรแมนติก

ผ้าที่เหมาะนำมาตัดเย็บควรมีเนื้อผ้าที่พริ้วเบา เช่น ชีฟอง เพราะว่าเนื้อผ้าแบบนี้จะช่วยทำให้ชุดพริ้วไหวยิ่งในช่วงที่ผู้สวมใส่มีการเคลื่อนไหว ทำให้ได้ความรู้สึกถึงความโรแมนติก ผ้าลูกไม้ก็เหมาะที่จะนำมาใช้ตัดชุดแบบนี้เช่นเดียวกัน เพราะจะทำให้ชุดออกมาดูมี texture และมีรายละเอียดที่น่าสนใจชึ้น หรือถ้าจะจับคู่เนื้อผ้าที่มีความแตกต่างกันมาตัดชุดเจ้าสาวแบบนี้ก็ได้ เช่น ตัดเสื้อท่อนบนด้วยเนื้อผ้าที่ค่อนข้างหนาและหนัก และใช้เนื้อผ้าที่พริ้วเบาตัดเย็บในส่วนของกระโปรง

ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวที่มีรูปร่างดีอยู่แล้ว ทิชชี่ไม่แนะนำให้ใส่ชุดสไตล์นี้นะคะ นอกจากว่าถ้าคุณไม่อยากจะโชว์รูปร่างที่น่าอิจฉาของคุณ ก็สามารถเลือกทรงนี้ได้เลยค่ะ



3. แบบ ทรงตรง (Column)

Column เจ้าสาวมีมีรูปร่างผอม ไม่สำคัญว่าจะสูงหรือเตี้ย ด้วยโครงสร้างของชุดลักษณะนี้จะช่วยทำให้คุณดูสูงขึ้นอีกด้วย แต่ชุดแบบนี้จะไม่เหมาะกับเจ้าสาวที่มีสะโพกใหญ่ค่ะ

ชุดเจ้าสาวรูปแบบนี้จะมีทรงที่ตรงเท่ากันตั้งแต่ช่วงบนถึงปลายเท้า ทำให้โชว์รูปร่างสัดส่วนของเจ้าสาวได้อย่างชัดเจน ชุดเจ้าสาวแบบนี้เหมาะกับสไตล์งานแต่งงานเกือบทุกสไตล์โดยเฉพาะงานแต่งงานที่จัดบริเวณชายหาด หรือ งานแต่งงานที่จัดเลี้ยงเฉพาะคนสนิทในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม

เนื้อผ้าที่จะนำมาตัดเย็บเป็นส่วนสำคัญที่จะให้ชุดทรงตรงนี้ดูพริ้ว ลื่นและเซ๊กซี่ หรือดูเป็นทรงและเรียบร้อยเป็นทางการ ถ้าเจ้าสาวคนไหนชอบผ้ามันๆ เนื้อลื่นๆ ให้หาเนื้อผ้าที่ค่อนข้างแนบเนื้อ เช่น ผ้าไหมเนื้อเบาๆ หรือ ผ้าซาติน ถ้าคุณไม่ต้องการโชว์สัดส่วนของคุณมากให้เลือกเนื้อผ้าที่หนาและหนักขึ้น เช่น ผ้า damask หรือ peau de soie silk เลยค่ะ

ชุดเจ้าสาวที่มีรูปทรงแคบๆ แบบทรงตรงนี้จะทำให้คุณเคลื่อนไหวค่อนข้างลำบากไม่ว่าจะนั่ง เดิน หรือเต้นรำ แนะนำให้ลองทำจีบไว้ด้านหลังของชุดซึ่งจะทำให้คุณเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้นนะคะ

4. แบบ ทรงสุ่ม (Ball Gown)

Ball Gown เหมาะกับเจ้าสาวมีมีรูปร่างผอมเพรียว หรือมีหุ่นทรงลูกแพร (pear shape) เพราะตัวกระโปรงจะช่วยทำให้ดูเอวคอดและอำพรางต้นขาที่ใหญ่ได้ และถ้าคุณเป็นเจ้าสาวที่มีหน้าอกใหญ่ ชุดลักษณะนี้จะช่วยทำให้หุ่นคุณดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้น เนื่องจากตัวเสื้อที่ฟิตลำตัวทำให้เน้นส่วนเอวให้ดูคอดขึ้นค่ะ

เจ้าสาวที่ค่อนข้างโรแมนติกหรือฝันอยากเป็นเจ้าหญิงในนวนิยายมักจะชอบชุดแบบนี้ ลักษณะของชุดจะมีตัวเสื้อที่พอดีตัวและกระโปรงจะบานออกและโป่ง ซึ่งเกิดจากการที่มีกระโปรงเป็นสุ่มใส่อยู่ข้างใน ชุดแต่งงานแบบทรงสุ่มจะเหมาะกับงานแต่งงานที่ค่อนข้างหรูหรา เป็นทางการ

เนื้อผ้าที่เหมาะจะนำมาตัดเย็บมีได้หลายเนื้อผ้า ถ้าใช้เนื้อผ้าซาติน หรือชีฟองที่นำมาซ้อนกันจะทำให้ชุดดูหรูหรามากขึ้น แต่ถ้าปักช่วงตัวเสื้อด้วยลูกปัดหรือลูกไม้คู่กับกระโปรงที่ใช้ผ้าซาตินพื้นๆ จะทำให้ผู้พบเห็นเบนความสนใจมาที่ตัวเสื้อมากกว่า ถ้าใช้เนื้อผ้าที่นุ่มฟูในการตัดกระโปรงช่วยให้ความรู้สึกนุ่มและเบา

เนื่องจากชุดลักษณะนี้จะค่อนข้างหนัก เจ้าสาวที่มีรูปร่างเตี้ยและบอบบางต้องระวังในเรื่องการทรงตัว สำหรับเจ้าสาวที่มีหน้าอกใหญ่แม้ว่าชุดนี้จะทำให้คุณดูมีทรวดทรงองเอวขึ้น แต่รูปแบบของกระโปรงจะทำให้คุณดูตัวใหญ่กว่าปกติด้วยนะคะ

5. แบบ ทรงหางปลา (Mermaid)

Mermaid เจ้าสาวที่มีหุ่นดีสมส่วนเท่านั้น สูงหรือเตี้ยไม่ใช่ปัญหา ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับเจ้าสาวที่มีหน้าท้อง หรือมีสะโพกใหญ่

ชุดเจ้าสาวรูปทรงนี้จะเน้นรูปร่างตั้งแต่ส่วนบนออกมาจนถึงบริเวณเข่า และจากนั้นก็บานออกจากเข่าไปจนถึงชายกระโปรง ชุดทรงนี้จะทำให้เจ้าสาวดูเซ็กซี่มากเพราะว่ามันโชว์สัดส่วนรูปร่าง ส่วนเว้าส่วนโค้งของคุณได้ชัดเจน ดังนั้นคุณต้องมีความมั่นใจในรูปร่างของคุณมากพอสมควรถ้าจะใส่ชุดลักษณะนี้นะคะ

ถ้าคุณอยากได้ความรู้สึกที่นุ่มลื่น และไม่ต้องการเน้นรูปร่างมากนัก ผ้าที่เหมาะจะนำมาตัดได้แก่ ผ้าไหมเนื้อเบา และผ้าซาติน ส่วนผ้าที่เนื้อหนาและมีน้ำหนักจะทำให้ชุดออกมาเน้นรูปร่างมากกว่า แต่ด้วยรูปแบบของทรงหางปลา ทำให้ชุดที่ออกมาดูน่าสนใจและเซ็กซี่ขึ้น

เนื่องจากชุดลักษณะนี้เป็นชุดที่รัดรูปและโชว์สัดส่วน คุณต้องระวังในเรื่องการเลือกใส่ชุดชั้นใน ลองนึกภาพดูนะคะว่ามันจะน่าเกลียดแค่ไหนถ้ามีขอบชุดชั้นในนูนออกมาจากชุดของคุณอย่างเห็นได้ชัด

ลองเลือกดูกันนะคะ ว่าคุณเหมาะกับ "ชุดแต่งงาน" รูปทรงไหนมากที่สุด เลือกให้ดีก่อนตัดสินใจใส่จริง งานสำคัญอย่าง การแต่งงาน มีเพียงครั้งเดียวในชีวิตนะคะ อย่าทำให้เจ้าบ่าวและตัวคุณเองผิดหวังกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเลือกใส่ชุดแต่งงานเด็ดขาด! 

ขอบคุณภาพประกอบ : รักแท้ สตูดิโอ