ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ผอม รู้ไว้! คุณอาจมีปัญหาระบบเผาผลาญเสื่อม

ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ผอม รู้ไว้! คุณอาจมีปัญหาระบบเผาผลาญเสื่อม

ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ผอม รู้ไว้! คุณอาจมีปัญหาระบบเผาผลาญเสื่อม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงที่ไดเอทเคยรู้สึกไหมว่า ทั้งที่กินน้อยและออกกำลังกายมากขึ้นแล้ว แต่น้ำหนักก็ยังไม่ลดลงสักที นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังมีปัญหา ”ระบบเผาผลาญเสื่อม” ก็ได้ ซึ่งสาเหตุของระบบเผาผลาญเสื่อมคืออะไร เรามาทำความเข้าใจกันเลย

สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญเสื่อม

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญเสื่อม ก็มีดังนี้


1.อายุ

เมื่อตอนวัยรุ่นหรือวัยกลางคน การออกกำลังกายและการควบคุมการกินจะทำได้ง่าย เพราะอัตราการเผาผลาญของเราอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่พอเราก้าวเข้าสู่วัยเลข 4 เท่านั้น ระบบการเผาผลาญของเราก็เริ่มไม่เหมือนเก่า แม้จะกินอาหารเหมือนเดิม ออกกำลังกายแบบเดิมๆ แต่กลับไม่ช่วยให้เราผอมลงเลย นั่นก็เพราะว่าอายุที่มากขึ้นทำให้ระบบเผาผลาญเสื่อมไปตามอายุด้วยนั่นเอง


2.ความเครียดสะสม

ด้วยสภาวะทางสังคม สภาพแวดล้อมการทำงาน การพักผ่อนไม่พอ ทำให้เราเกิดความเครียด นอนไม่หลับ วิตกกังวล ซึมเศร้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดปัญหาระบบเผาผลาญเสื่อมได้ทั้งสิ้น


3.การตกค้างของสารพิษในร่างกาย

ในอาหารหลายๆ อย่างย่อมมีสารพิษปนเปื้อนไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะผักผลไม้ที่เราใช้ทานเพื่อควบคุมอาหารหรือลดความความอ้วน แต่ในผัก ผลไม้เองย่อมมีสารพิษจากทั้งยาฆ่าแมลง ทั้งแว๊กซ์ที่เคลือบเพื่อให้ผลไม้สวย ซึ่งการล้างน้ำอย่างเดียวอาจไม่ช่วยให้สารต่างๆ เหล่านั้นหมดได้ ดังนั้นเมื่อเรากินผักผลไม้เหล่านี้จึงทำให้เกิดสารพิษตกค้างในร่างกายนั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าเลือกได้ก็แนะนำให้ทานผักที่ปลูกด้วยวิธีออร์แกนิคจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยสารพิษตกค้างก็ไม่มี และอย่าลืมดีท็อกซ์ร่างกายด้วย


4.การไดเอทแบบผิดๆ

เมื่อเข้าช่วงวัยรุ่น สาวๆ ย่อมอยากมีหุ่นที่สวยจนใครๆ ก็เหลียวหลัง หลายคนจึงลองไดเอททุกวิถีทางไม่ว่าจะใช้ยาลดน้ำหนัก ซึ่งทำให้ร่างกายเรามีโยโย่เอฟเฟกต์ หรือการเลือกรับประทานแบบผิดๆ เช่น ไม่ทานอาหารเช้าแต่ทานกาแฟดำ หรือไม่ทานอาหารเย็นเลย จนทำให้ระบบเผาผลาญพังไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นมาไดเอทอย่างถูกวิธีกันดีกว่า จะได้ไม่ต้องมีปัญหาระบบเผาผลาญเสื่อมนั่นเอง


วิธีการรักษา

การรักษาภาวะระบบเผาผลาญผิดปกติ ต้องรักษาให้ตรงจุดถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และจะต้องดูแลฟื้นฟูระบบเผาผลาญให้ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้แพทย์จะให้คำแนะนำ ซึ่งควรทำตามอย่างเคร่งครัดเพื่อฟื้นฟูระบบเผาผลาญอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

รู้แบบนี้แล้วก็ลองมาเช็คกันดูว่าคุณกำลังมีระบบเผาผลาญเสื่อมหรือไม่ ถ้าใช่ก็ควรรีบแก้ไขโดยด่วน ก่อนที่ระบบเผาผลาญจะพังไปมากกว่านี้นั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook