กินยาสีฟันอีกแล้วนะลูก

"อร่อยไหมล่ะลูก เดี๋ยวแม่ก็ให้กินยาสีฟันแทนข้าวซะนี่!" ใจเย็นๆ นะคะคุณแม่อย่าเพิ่งทำตามที่พูดนะคะ เพราะถ้ายอมให้ลูกกินครั้งแรกแล้ว ครั้งที่ 2 3 4 ก็จะตามมาอย่างแน่นอน แล้วการกินยาสีฟันนี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ เพราะอะไร และต้องหาทางแก้ไขอย่างไร เรามีคำแนะนำมาฝากค่ะ

ในยาสีฟันมีอะไร
อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าในยาสีฟันจะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ที่ช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ป้องกันโรคฟันผุ แต่ในทางกลับกันถ้าได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็จะเป็นอันตรายต่อฟันทำให้ฟันตกกระได้ นอกจากนี้ในยาสีฟันยังมีส่วนประกอบอื่นๆ อีก เช่น สารกันบูด สารขัดฟัน สารช่วยให้เกิดฟอง สารยึดเกาะ สารปรุงรสและกลิ่น สารคงความชื้น สารแต่งสี ที่อาจทำให้เกิดอันตราย หรืออาการแพ้เพราะฉะนั้นในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ "น้ำเปล่า" จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการทำความสะอาดฟัน การแปรงฟันด้วยน้ำเปล่าอย่างถูกวิธีหลังอาหารก็สามารถทำความสะอาดซอกฟันและเหงือกให้สะอาด ป้องกันฟันผุได้ ส่วนการใช้ยาสีฟันนั้นก็เพื่อช่วยให้การแปรงฟันสะดวกและรสชาติดีขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีสำหรับเด็กเล็กถ้าจำเป็นต้องใช้ยาสีฟันก็ไม่ควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์

ไม่มียาสีฟัน...หนูไม่ยอมแปรงฟัน
เด็กบางคนอาจจะติดกลิ่นและรสของยาสีฟัน เพราะยาสีฟันเด็กส่วนใหญ่จะมีกลิ่นหอม รสหวานอร่อย ทีนี้ถ้าคุณจะคิดหักดิบไม่ยอมให้ใช้ยาสีฟันเลย ปัญหาที่จะตามมาก็คือ ลูกของคุณจะไม่ยอมแปรงฟัน ดังนั้นทางทีดี่คือคุณควรใช้ยาสีฟันในปริมาณน้อย แล้วเกลี่ยให้เต็มแปรงลูกจะได้เลียกินไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิดเก็บยาสีฟันให้พ้นมือลูก และบอกให้ลูกเข้าใจว่ายาสีฟันมีไว้สำหรับทำความสะอาดฟัน กินไม่ได้ แต่ถ้าลูกของคุณยังคงพยายามดูดกินอยู่ ก็จำเป็นต้องใช้ไม้ตายยื่นคำขาดไปเลยว่า "ถ้าลูกยังกินยาสีฟันอีก ครั้งต่อไปจะไม่มีการใส่ยาสีฟันบนแปรงอีกแน่นอน"

บ้วนปากช่วยได้
เมื่อเจ้าตัวเล็กอายุประมาณ 2 ขวบ คุณก็สามารถสอนวิธีบ้วนปากได้แล้ว ด้วยการให้ลูกอมน้ำไว้ในปากแล้วกลั้วน้ำในปากจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งและบ้วนออกมา เพราะการบ้วนปากเป็นการทำความสะอาดชำระล้างเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ รวมทั้งเป็นวิธีป้องกันไม่ให้ลูกกลืนยาสีฟันลงไป ทีนี้ถ้าลูกบ้วนปากเป็นการใช้ยาสีฟันก็ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงอีกต่อไปแล้วค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก photos.com