การรับมือโควิด-19 ฉบับสาว Working Woman

การรับมือโควิด-19 ฉบับสาว Working Woman

การรับมือโควิด-19 ฉบับสาว Working Woman
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ณ เวลานี้ ไม่มีหัวข้อไหนที่ร้อนแรงเท่ากับโรค โควิด-19 อีกแล้วล่ะค่ะ การพกแอลกอฮอล์ทั้งแบบเจลหรือแบบสเปรย์ รวมถึงการใส่หน้ากากอนามัยก็กลายเป็นอวัยวะที่ 33 ไปแล้ว มีร้านค้าผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด

แต่เดี๋ยวก่อนค่ะสาวๆ Sanook Women มีคำแนะนำจาก ทันตแพทย์หญิง วรรณพร มรรคดวงแก้ว หรือ หมอเอย เกี่ยวกับ การรับมือโควิด-19 ฉบับสาว Working Woman

หมออยากจะมาเตือนทุกคนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดและช่วยได้มากที่สุดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค Covid 19 นี้ ก็คือ SOCIAL DISTANCE หรือ การมีระยะห่างทางสังคม สรุปง่ายๆ สั้นๆ คือ หลีกเลี่ยงการพาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือที่ๆ มีคนอยู่รวมกันมาก เช่น งานปาร์ตี้ต่างๆ งานแต่งงาน งานอีเว้นท์อะไรก็ตาม งดก่อนนะคะ

อีกคำคือ PERSONAL DISTANCE หรือ ระยะห่างระหว่างบุคคล ค่ะ อันนี้ก็สำคัญมากเช่นกัน แค่เราพูดคุยกัน เม้าท์แตกกันอย่างสนุกสนาน หรือมีคนไอหรือจาม ละอองฝอยของน้ำลายก็กระเด็นออกมาได้ไกลประมาณ 1-2 เมตรแล้วค่ะ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดโรคได้ น่ากลัวมั้ยล่ะคะสาวๆ

เพราะฉะนั้น อยู่บ้านเถอะค่ะ หมอขอร้อง! บางท่านไม่ชอบอยู่บ้านเพราะคิดว่าการอยู่บ้านน่าเบื่อ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ หมอจะมาแชร์ให้ฟังถึงความเริ่ดของการอยู่บ้าน(เพราะหมอได้อยู่มาหลายอาทิตย์แล้วจ้า) ที่สาวๆ อาจจะมองข้ามไปค่ะ เริ่มกันเลยนะคะ

อยู่บ้านแบบสวยๆ

1. สาวรักความสวยงามอย่างพวกเรา ควรจะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์นะคะ พักก่อนจ้ะ! งดแต่งหน้าก่อนจ้ะ ไปนอนจ๊ะ! พักผ่อนเยอะๆ ให้ผิวหน้าได้พัก​จากรองพื้นและเครื่องสำอางที่เราแต่งกันทุกวันบ้างเนอะ เวลาอยู่บ้านใช้แค่ผลิตภัณฑ์​บำรุงผิว​และกันแดดก็พอแล้วค่ะ ข้อนี้เป็นประโยชน์ต่อสาวๆที่มี​สิวอุดตันด้วยน้า เพราะจะได้พักผิวหน้าเต็มที่เลย แล้วพอหลังจบโควิด​ระบาด เรื่องสิวอุดตันจะดีขึ้น เราก็จะกลับมาสวยใสปิ๊ง แบบไม่มีสิวอุดตันค่ะ มีเวลามาดูแลตัวเองมากขึ้นค่ะ​ Working Woman อย่างเราไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ ดังนั้นช่วงนี้ว่างดีนักใช่มั้ย ได้จ๊ะ! หมักผม​ ขัดผิว​ ทำเล็บ​ มาสก์หน้า​ จัดเต็มไปเลยค่ะ

2. อยู่บ้านก็สวยได้นะจ๊ะสาวๆ นอกจากจะมีวันพักหน้าแล้ว วันไหนเบื่อๆ ก็ลองเปิด Youtube หรือนิตยสารต่างๆ เพื่อ Update เทรนด์แต่งหน้า เทรนด์แฟชั่นประจำปีนี้ดูสิคะ มี​ YouTuber​ หลายคนที่หมอชอบดูแล้วแต่งตาม ทั้งคนไทยและต่างชาติที่สอนได้ละเอียดและสนุกสนานมากๆค่ะ หรือถ้าใครเก่งไอที ชอบอัดคลิป หมอขอแนะนำว่า ทำคลิปไปเลยจ้ะ How to Make Up With Mask! หรือสำหรับสาวๆคนไหนที่แต่งหน้าไม่เป็น แนะนำว่า ไปค่ะหนู ไปค่ะ ไป Search คำว่า How to Make Up หรืออะไรก็ได้ที่มีคำว่า Make Up นั่นนี่​ มันก็จะขึ้นมาเยอะมากๆ​ รับรองไม่เบื่อแน่นอนค่ะ นอกจากนี้​ หากลองแต่งเสร็จแล้วเกิดสวย​ ก็ถ่ายรูปสวยๆ โพสต์ลง​ Facebook​ หรือ​ Instagram ไปเลยสิคะ​ ได้รูปสวยๆ​ แถมได้ยอดไลค์ด้วยน้า

3. มีเวลาออกกำลังกายมากขึ้น แหม ไหนๆ ก็เปิด Youtube แล้ว ก็ดูเรื่องการออกกำลังกายไปเลยสิคะ รออะไรจ๊ะ ​เห็นไหมว่า อยู่บ้านก็ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อสวยๆ ได้ง่ายๆ​ ตามคลิปเลย พอโควิดจบ กลับไปทำงานที่ออฟฟิศ รับรองว่า หุ่นเป๊ะจนเพื่อนตะลึงไปเลย แถมยังแข็งแรงขึ้นอีกด้วยน้า

4. มีเวลาทำอาหารทานเอง ไม่เร่งรีบ​ เราสามารถเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้​ง่ายๆ​ อาหารที่ดีคือ​ อาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด​ เพราะฉะนั้นทำอาหารเป็นหรือไม่เป็นไม่สำคัญอีกต่อไป​ ง่ายแค่​ ไข่ต้ม​ ไก่ต้ม​ ผักลวก​ หรือหากอยากทำอะไรที่อลังการกว่านี้ ก็สามารถสั่งหนังสือทำอาหารแบบออนไลน์ให้มาส่งที่บ้านหรือหาสูตรจากอินเทอร์เน็ตก็ง่ายดีนะคะ

5. ทิ้งของที่ไม่ใช้-เคลียร์ของเก่า ใครที่ยังไม่มี​ Inspiration หมอขอแนะนำไปดู​ How to ทิ้งค่ะ​ แต่ไม่ใช่ทิ้งของของเค้านะคะ​ เราทิ้งของของเราค่ะ​​ อะไรที่ไม่ใช้ อะไรที่เสีย อะไรที่เห็นแล้วทำใจไม่ได้ เสียใจหรือคิดถึงเค้า ก็ทิ้งมันไปค่ะ เอาออกไปให้หมด ไม่ต้องเก็บไว้นะจ๊ะสาวๆ​ ไม่ต้องเสียดายด้วยค่ะ นอกจากมันจะมากินพื้นที่ในห้อง ในบ้านเราแล้ว ยังอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอีกด้วย ดังนั้น ทิ้งเลยนะคะ บายค่ะ

6. มีเวลาให้ครอบครัว ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่เรารัก ปกติเราอาจจะไม่ได้เจอคุณพ่อคุณแม่ หรืออยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันมากมายนัก ดังนั้นนี่ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้อยู่กับท่านนะคะ
แต่ถ้ามีความ “จำเป็น” ที่ต้องออกจากบ้านจริงๆ ล่ะก็ หมอก็คงห้ามไม่ให้ไปไม่ได้ เพราะคนจะไป ก็ต้องไป รักเท่าไหร่ แต่ฉันคงทำได้เท่านี้.....ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงกันไปนะคะ

หมอก็มีวิธีมาแนะนำคร่าวๆ ที่อาจจะพอช่วยได้บ้างนะคะ


>> อัปเดตโควิด-19 ล่าสุด ยอดผู้ป่วยสะสมทะลุ 787,000 เสียชีวิต 37,846 รายทั่วโลก

ออกจากบ้านแบบสู้โควิด-19

1. แต่งตัวให้มิดชิดเรียบร้อย รัดกุม หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รุ่มร่าม หรือมีขน จะกักเก็บเชื้อโรคได้ง่าย

2. เก็บผมให้เรียบร้อย จะมัด จะรวบ จะถักเปีย หรือจะใส่หมวกก็ดีค่ะ เส้นผมของเราสามารถเป็นที่กักเก็บเชื้อโรคหลายชนิดได้เลย ซึ่งสาวๆอาจจะเผลอเอามือที่ปนเปื้อนเชื้อโรคไปลูบหรือจับผมตัวเองได้ ทำให้เป็นพาหะนำเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

3. ใส่หน้ากากอนามัย พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์เพื่อป้องกันตัวเอง ส่วนตัวหมอจะพกทิชชู่เปียกและคัตตอนบัดด้วย เพื่อเอาไว้ใช้เวลาทำความสะอาดตาระหว่างวันค่ะ เช่น ใช้เช็ดคราบมาสคาร่า อายไลเนอร์ หรือใช้เช็ดเวลามีฝุ่นเข้าตาแทนการใช้มือ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคที่อาจจะติดอยู่ตามมือเรา โดยเฉพาะซอกเล็บและนิ้วมือของเรา ติดเข้าไปตามดวงตา จมูกหรือปากได้ค่ะ

4. ลดการ Contact กับผู้คน ไม่ต้องไปคุยกับเค้าใกล้ๆนะคะ ยืนห่างหน่อยสัก 1-2 เมตร

5. เดินทางด้วยรถส่วนตัวหรือรถที่ไว้ใจได้ หลีกเลี่ยงรถสาธารณะที่แออัด หากทำธุระเสร็จแล้ว ควรรีบกลับทันที

6. ใช้ Application ในการจ่ายเงินแทนการใช้เงินสดเพื่อลดการสัมผัส ธนบัตรหรือเหรียญ เพราะในนั้นมีเชื้อโรคเยอะมากค่ะ

7. เมื่อกลับถึงบ้านแล้วควรถอดรองเท้านอกบ้าน อาบน้ำ สระผม ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน รวมถึงเช็ดทำความสะอาดรองเท้าด้วยนะคะ

8. เวลาขับรถเข้าอาคารที่ต้องแลกบัตรหรือรับบัตรจอดรถ ลองพกกล่องเล็กๆสำหรับใส่บัตรจอดรถ หรือธนบัตรและเหรียญต่างๆ เพราะเราไม่มีวันรู้ว่าของพวกนั้นจะมีเชื้อโรคมากแค่ไหน ส่วนสถานที่ที่มีระบบแบบอัตโนมัติ ก็สามารถใช้เป็นกระดาษทิชชู่ธรรมดาหรือถุงมือ ในการหยิบและกดบัตรได้ค่ะ หรือหากไม่ได้เตรียมพร้อมมาเลย ก็สามารถใช้นิ้วมือหยิบได้ตามปกติแหละค่ะ เพียงแต่ใช้สเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์เช็ดทีหลัง ก็จะสามารถทำความสะอาดได้เช่นกันค่ะ

9. หยุดนัดรวมตัวและหยุดเม้ามอยด์แบบเป็นกลุ่มก่อนค่ะ เราสามารถใช้เทคโนโลยีมาช่วยได้นะคะ Vdo Call สิคะทุกคน! ที่เริ่ดคือมันมี Filter หน้าเรียวและพวกรูปการ์ตูนต่างๆให้ใช้ได้ด้วยนะคะ ถือว่าได้คุยกันสนุกสนานแบบมีความรับผิดชอบต่อสังคมค่ะ

หมอเชื่อมั่นว่า การป้องกัน ดีกว่าการแก้ไขเสมอ!

อย่าลืมนะคะว่าไวรัสไม่ได้มีขาที่จะเดินจากประเทศจีนเข้ามาหาเราถึงที่บ้าน แต่จงตระหนักไว้ว่าทุกครั้งที่เราเดินออกจากบ้าน นั่นคือ เรากำลังเดินเข้าไปหามันค่ะ

>> วิธีทิ้ง “หน้ากากอนามัย” ใช้แล้ว ที่ถูกต้อง

สิ่งที่ควรทำในยามนี้

1. อย่า Panic ค่ะ สั้นๆ ง่ายๆ อย่าตื่นตระหนกและตกใจมากเกินไป รวมถึงอย่ากักตุนของโดยไม่จำเป็นนะคะทุกคน!! กรุณาเสพข่าวสารและรับข้อมูลอย่างพอดีและมี “สติ” ติดตามข่าวสารจากภาครัฐ หรือสื่อที่เชื่อถือได้ ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ เราอ่านทุกข่าวได้ แต่เราเชื่อทุกข่าวไม่ได้

2. ทำจิตใจให้ผ่องใส

3. ดูแลตนเองให้แข็งแรง หมั่นล้างมือบ่อยๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายของเราแข็งแรง ปฏิบัติตนตามข้อปฏิบัติที่พึงทำ เพื่อลดภาระของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์

4. ประชาชนปกติที่ไม่มีอาการใดๆและแข็งแรงดี ควรใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้า เพื่อสำรอง Surgical Mask ไว้ให้บุคลากรทางการแพทย์

5. บริจาคเงิน สิ่งของ ของใช้ เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ตามกำลังศรัทธา

สักวันหนึ่ง โรค Covid-19 นี้ ก็จะหายไป เหมือนโรคระบาดร้ายแรงอื่นๆ ที่ผ่านมาและผ่านไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อยากให้ทุกคนตระหนักว่า สิ่งที่จะยังคงอยู่และจะอยู่ตลอดไป นั่นคือ ตัวของเรา ทั้งอาชีพการงาน การดำเนินชีวิต ครอบครัว เพื่อนฝูง สังคมต่างๆ ทุกอย่างจะยังคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ ดังนั้นเราต้องมีความเข้มแข็ง อดทน มีความรับผิดชอบต่อสุขอนามัยของตนเองและคนรอบข้าง ตั้งสติเพื่อตั้งรับการระบาดอย่างถูกวิธี ร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อหยุดโรคระบาดนี้ หมอเชื่อว่า อีกไม่นานเราจะปรับตัวและอยู่กับมันได้อย่างปลอดภัยค่ะ 


**หมายเหตุ** หมอเป็นทันตแพทย์ค่ะ และอาชีพทันตแพทย์ เป็นกลุ่มเสี่ยง “อันดับหนึ่ง” ของโรค Covid 19 นี้ค่ะ เนื่องจากเราทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยค่อนข้างมาก จะเห็นได้ว่าคลินิกหรือโรงพยาบาลหลายแห่ง แจ้งหยุดทำการ หรืองดทำการรักษาบางประเภท เช่น การขูดหินปูน การอุดฟัน และการรักษาที่ไม่มีอาการและไม่เร่งด่วน หากไม่มีอาการปวดหรือมีเหตุฉุกเฉิน อาทิเช่น เกิดอุบัติเหตุฟันแตก ฟันหลุด มีอาการปวดฟันอย่างรุนแรงหรือมีเหตุสุดวิสัยต่างๆ หมอแนะนำให้เลื่อนการรักษาออกไปก่อนค่ะ เนื่องจากการให้บริการทางทันตกรรมนั้น จะมีการกรอฟัน มีการขูดหินปูนโดยใช้เครื่องขูดหินปูน มีการขัดฟันและอื่นๆ อีกมาก ซึ่งจะก่อให้เกิด ละอองฝอยและเกิดการฟุ้งกระจาย เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั้งต่อตัวคนไข้เอง ทันตแพทย์ รวมถึงบุคลากรทางทันตกรรมท่านอื่นด้วยค่ะ

ข้อมูลและ Tricks ต่างๆ บางอย่างหมอคิดเอง บางอย่างก็อ่านมา บางอย่างก็ได้รับความรู้จากอาจารย์ทันตแพทย์ อาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน หากข้อมูลมีความผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ



สำหรับใครที่อยากจะติดตามหมอเอย ตามไปที่ IG : xxvannyxxFollow FB: Dr. Aye Vanaporn, Vanaporn Makaduangkeo

>> อ่านข่าว COVID-19 ทั้งหมดเพิ่มเติม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook