Tinee Eatery Workshop

ล่วงเข้ากลางปี ฤดูฝนมาแล้ว แต่ชิคสเตอร์คงไม่แคร์กับแค่อากาศและฤดูกาลที่เปลี่ยนไปหรอกน่า เชื่อเถอะว่าสาวชิคหลายคนก็ยังคงกระตือลือล้นที่จะอัพเดทเทรนด์ในเรื่องต่างๆ อยู่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องอาหารการกิน วันนี้มีร้านที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานมาแนะนำให้ชวนก๊วน นัดเพื่อนไปแฮงค์เอ้าท์กันที่ ‘Tinee Eatery Workshop’
ด้วยความรักและหลงใหลในการทำอาหารมาตลอด ‘เชฟธินี’ หรือ ‘คุณสุทธินี สันติวัฒนา’ จึงตัดสินใจไปเรียนทำอาหารอย่างจริงจังที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แม้ว่าเธอจะเรียนจบมาทางด้าน กราฟิคดีไซน์มาก่อนก็ตาม เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในแวดวงอาหาร ทั้งจากการฝึกงานและทำงานในโรงแรมชื่อดังมาร่วมสิบปีแล้ว รวมไปถึงการร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ เปิดคาเฟ่ที่เซ้าท์เมลเบิร์น จนในที่สุดเธอกลับมาเมืองไทยปลายปีที่แล้ว และเปิดคาเฟ่ของตัวเอง ‘Tinee Eatery Workshop’
เชฟธินีอยู่เมลเบิร์นหลายปีทำให้ตัวร้านมีกลิ่นไอความเป็นคาเฟ่แบบเมลเบิร์นตั้งแต่รูปร่างหน้าตาของร้านในสไตล์ Industrial Loft รวมถึงบรรยากาศภายในที่ให้ความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเองคล้ายๆ กับเป็น Neighbor café ที่สามารถแวะมาได้เมื่อหิวหรือต้องการพื้นที่ทำงาน ทำการบ้าน หรือพูดคุย และยังเป็น Shared Table คือให้ลูกค้าเข้ามาแชร์ เข้ามาใช้พื้นที่ร่วมกันโดยไม่ต้องเกร็ง
สำหรับอาหารนั้นโดยรวมเป็น Comfort food เป็นเมนูที่ไม่ซับซ้อน ชูวัตถุดิบเป็นหลัก ไม่ปรุงแต่งมากเกินไป อาหารที่นี่ไม่เน้นไปที่อาหารชาติใดชาติหนึ่ง ซึ่งมีทั้งอาหารที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่แล้ว และยังมีอาหารหลายๆ อย่างที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นลิ้นนัก ซึ่งสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ได้ชิมกันในราคาเบาใจสบายกระเป๋า และสำหรับชิคสเตอร์ที่รักสุขภาพ ห่วงรูปร่าง ที่นี่มีเมนูมังสวิรัติให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารและขนม บางเมนูเป็น Gluten-Free คือ ไม่มีแป้งและน้ำตาลเลย รับรองอร่อยไม่แพ้กัน
ก่อนจะเริ่มชิมอาหารที่เชฟธินีเป็นคนลงมือทำ เชฟได้ส่งเครื่องดื่มสำหรับดับกระหายที่เหมาะกับช่วงบ่ายๆ ที่แดดร้อนจัดอย่างนี้มาให้ด้วย Lemon, Lime and bitter (80 บาท) เครื่องดื่มยอดฮิตที่ออสเตรเลีย น้ำมะนาวโซดาที่คุ้นเคยแต่รสชาติดีกว่าที่เคยคุ้นเพราะหอม ให้ความรู้สึกสดชื่น แม้จะไม่หวานจัด แต่เชื่อมั้ยว่าขนาดทิ้งไว้จนน้ำแข็งเริ่มละลายแล้วรสชาติยังดีอยู่เลย...คิดว่าแก้วเดียวคงไม่พอ
เริ่มชิมอาหารกันเลยกับ Salmon Quiche served with Salad and Vinaigrette (105 บาท) คีชแซลมอนที่ทางร้านเลือกทำแป้งพายเอง โดยรับประทานคู่กับผักสลัด เป็นเมนูเริ่มต้นได้อย่างดี รสชาติกลางๆ ไม่อ่อนจัด เนื้อแป้งพายอร่อย หอม มัน
ต่อกันด้วย Pasta with Salami, Olives and Grilled Vegetable (160 บาท) สปาเก็ตตี้สไตล์อิตาเลี่ยนที่เอาใจคนไทยด้วยรสชาติที่ผัดให้เผ็ดขึ้นมา โดยปกติจานนี้จะนำเบค่อนมาผัด แต่วันนี้เชฟธินีทำให้เป็นพิเศษด้วยซาลามี่ รสชาติถูกปากจริงๆ
ขอลองชิม Pork Stew served with Toasted (110 บาท) สตูว์หมูเบียร์ ที่นำเนื้อหมูมาหมักกับเครื่องเทศต่างๆ รวมถึงมะเขือเทศเข้มข้นและเบียร์ทิ้วไว้หนึ่งคืน จากนั้นนำมาอบ ให้รสชาติเข้มข้น นุ่ม หอมโดยทานคู่กับขนมปัง multi-grains ซึ่งทางร้านอบเอง
Chicken and Pasta baked (110 บาท) พาสต้าไก่ครีมซอส มีผักต่างๆ ทั้งข้าวโพด แครอท ถั่วลันเตา นำไปอบด้วยชีส ถือเป็นเมนูที่รับประทานง่าย อร่อย เนื้อไก่นุ่มมากๆ
ของคาวแล้ว ต่อด้วยขนมอร่อยๆ Rumbaba with Cream and hazelnut (85 บาท) ขนมปังอบใส่ลูกเกดแล้วนำไปแช่ในเหล้ารัม ทำให้ได้รสชาติฉ่ำ ชุ่ม หอม ออกหวาน รับประทานกับครีมและถั่วเพื่อเพิ่มความมัน ขอบอกว่าอร่อยและกินเพลินมากๆ
ตบท้ายด้วยกาแฟสักแก้วกับ Cappucino (70 บาท) นอกจากการตกแต่งและบรรยากาศโดยรวมภายในร้านจะคงความเป็นคาเฟ่แบบเมลเบิร์นไว้แล้ว สำหรับกาแฟก็เช่นกันที่นำสไตล์ของเมลเบิร์นมาไว้ด้วย โดยเลือกใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าออแกนิกจากดอยช้าง และมีบาริสต้าซึ่งมีประสบการณ์จากคาเฟ่ที่เมลเบิร์นคอยดูแลรสชาติ
ด้วยความที่หลงใหลเรื่องของอาหารมากขนาดนี้ นอกจากเชฟธินีจะมีอาหารและเครื่องดื่มให้ทานกันในคาเฟ่ด้านล่างแล้ว บนชั้น 2 ยังเปิดพื้นที่สำหรับการทำเวิร์คช็อป โดยมีคอร์สสอนทำอาหารให้เลือก โดยแต่ละคอร์สจะรับเพียง 4-6 คนเท่านั้นเพื่อให้ได้รับความรู้จากการลงมือทำอาหารอย่างเต็มที่
นอกจากนี้แล้วทางร้านยังมีบริการรับจัดเลี้ยง (Catering) อีกด้วย รวมไปถึงมี Homemade goodie ที่แค่เห็นบรรจุภัณฑ์ก็อยากซื้อไปลองชิมแล้ว ตอนนี้มีทั้ง Balsamic onion chutney, Lemongrass&ginger jam, Tangerine&vanilla bean jam, Feta Cheese และ Spiced pickle
Tinee Eatery Workshop
1213/45 ทาวน์อินทาวน์เพลส ลาดพร้าว 94
(ตรงข้ามทาวน์อินทาวน์การ์เด้นท์รีสอร์ต)
เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.
โทรศัพท์ 02 559 2475
www.facebook.com/cheftinee