ท้องนี้ต้องแฮปปี้! 5 วิธีรับมือกับความเครียดในคุณแม่ตั้งครรภ์

คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ จะเป็นช่วงร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ทั้งสรีระภายนอกและฮอร์โมนภายในร่างกาย เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นก็มักจะทำให้คุณแม่หลายคนเกิดความเครียดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเด็กที่อยู่ในครรภ์ด้วย ดังนั้นการกำจัดความเครียดให้ถูกวิธี จึงเป็นสิ่งที่คุณแม่ทุกคนต้องทราบ ดังนั้น ลองมาดูกันนะคะว่าจะมีวิธีการรับมืออย่างไรบ้าง

1.พักผ่อนให้เพียงพอ
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรจะละเลยเรื่องการพักผ่อน ยิ่งอายุครรภ์ที่มากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงมากกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเครียดได้ ยิ่งถ้าหากพักผ่อนไม่เพียงพอด้วย ก็จะส่งผลกระทบกับทางด้านร่างกายและจิตใจด้วย อีกอย่างการพักผ่อนให้เพียงพอยังทำให้ร่างกายสดชื่นอยู่ตลอดเวลา

2.ออกกำลังกายเป็นประจำ
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็สามารถออกกำลังกายได้เหมือนกับคนทั่วไป เพียงแค่ไม่ให้หักโหมเหมือนกับคนปรกติ เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการลดความตึงเครียดในสมองออกไปได้ด้วย หากคุณแม่ท่านใดที่ต้องการออกกำลังกาย แนะนำว่าให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก่อน ว่าท่าแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง แบบไหนที่ควรทำ

3.หากำลังใจ หาเพื่อนคุย
หากคุณแม่ต้องอยู่คนเดียวที่บ้าน ก็อาจจะทำให้รู้สึกเหงาและเครียดได้ การหาเพื่อนคุยเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สภาพจิตใจร่าเริงอยู่เสมอ อาจจะไปพบปกับเพื่อนซี้บ้าง หรือหาเพื่อนคุยตามกลุ่มคนที่ตั้งครรภ์ด้วยกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็ได้ เพื่อให้คุณแม่ไม่รู้สึกเหงามากเกินไป

4.วางแผนการเงินให้ดี
เรื่องที่คุณแม่หลายคนมักจะเครียดเวลาที่ตั้งครรภ์ก็คือ กลัวว่าจะไม่มีเงินใช้เพียงพอเพราะไม่สามารถออกไปทำงานได้ ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะตั้งครรภ์หรือก่อนที่จะหยุดงาน ในการวางแผนการเงิน จะช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องมาเครียดในภายหลัง เช่น ค่าใช้จ่ายในการคลอด ค่าใช้จ่ายในการซื้อของสำหรับลูกน้อย เป็นต้น

5.ทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับคนท้อง จะช่วยให้คุณแม่ห่างไกลจากความเครียดได้ ดังนั้นหากต้องการอยากจะทานอะไรก็ควรทานเลย เพื่อให้ร่างกายได้รับอาหารที่มีประโยชน์ แต่ต้องเลือกอาหารที่ทานแล้วไม่เกิดผลเสียกับการตั้งครรภ์ด้วย และการทานอาหารที่ดีก็ยังช่วยลดความเครียดในหัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

คุณแม่ท่านใดที่กำลังเผชิญกับปัญหาความเครียดในการตั้งครรภ์ ลองเอาวิธีดังกล่าวที่ได้แนะนำไป ไปทดลองใช้ได้เลย หรือถ้าอยากจะให้ดีควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบำบัดความเครียดที่ไม่เกิดผลเสียกับลูกน้อยในครรภ์