′แม่′ แบบ ′ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์′

′แม่′ แบบ ′ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์′

′แม่′ แบบ ′ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์′
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใกล้ถึงวันแม่เข้ามาทุกที ลูกๆ หลายคนคงวางแผนหาซื้อของขวัญหรือจัดโปรแกรมกลับบ้านไปหาแม่กันบ้างแล้ว แต่สำหรับครอบครัวของนางฟ้าตลอดกาล ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ที่เธอเคยสร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศมาแล้วเมื่อปี 2531 เมื่อเธอคว้ามงกุฎ นางงามจักรวาล มาครอง ในวันนั้นเธอก็ครองใจคนทั้งโลกไปด้วย

ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์

หลังจากพ้นตำแหน่ง ภรณ์ทิพย์ แต่งงานกับนักธุรกิจชาวอเมริกัน เฮิร์บ ไซมอน เจ้าของบริษัทพัฒนาไซมอน หนึ่งในหุ้นใหญ่ของธุรกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา และย้ายไปอยู่ที่อเมริกาเป็นการถาวร มีลูกชายที่น่ารักและลูกสาวคนเล็กวัย 3 ขวบ อีกทั้งยังรับอุปการะลูกของน้องสาวที่เสียชีวิตอีก 3 คนด้วย ทำให้ครอบครัวของผู้หญิงคนนี้กลายเป็นครอบครัวใหญ่

เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เธอและลูกสาวคนโต แจ็คคอรีน ไซมอน ได้กลับมาเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทยพร้อมสานต่อโครงการมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนโดย มูลนิธิปีกนางฟ้า ที่เธอเป็นประธาน เราจึงมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้หญิงสวยตลอดกาลคนนี้ถึงบทบาทความเป็น แม่ของลูกๆ ทั้ง 5 คน

ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ เล่าถึงชีวิตต่างแดนของเธอที่สหรัฐอเมริกาว่า ชีวิตที่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่มีบทบาทเป็นแม่ที่คอยดูแลลูกๆ ตื่นเช้ามาต้องช่วยลูกแต่งตัว ทำอาหารง่ายๆ ให้ทานก่อนไปเรียน เช่น ไข่เจียว ซุป ไข่ต้ม ผัดซีอิ๊ว ไก่ทอด และคอยขับรถไปส่งที่โรงเรียนทุกวัน ถือว่าเธอกลายเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัว เพราะดูแลทั้งลูกและสามี


เมื่อเราแต่งงานกันแล้วต้องพยายามเข้าใจประนีประนอมคอยสนับสนุนสามีด้วยแม้ว่าเราจะทำงานแทบทุกวันก็ตามพูดง่ายๆ ว่าทุกเช้าจนถึงบ่าย 3 โมงเวลาทั้งหมดจะเป็นของลูกๆ ส่วนที่เหลือเป็นของสามี


ส่วนวิธีการเลี้ยงลูกๆ ทั้ง 5 คน ภรณ์ทิพย์เล่าว่า ลูกแต่ละคนมีบุคลิกภาพแตกต่างกัน อย่างแจ็คคอรีนจะเป็นพี่สาวคนโตที่น่ารักและขี้อาย แต่ชอบเต้น อยากเป็นเชียร์ลีดเดอร์ จะช่วยแม่ดูแลน้องๆ ส่วนฌอนก็เป็นลูกชายที่น่ารักชื่นชอบพุทธศาสนา จะสวดมนต์ไหว้พระทุกคืน นิสัยเรียบร้อย มีกิจกรรมที่ชอบมากคือบาสเกตบอล ซึ่งเล่นเก่งมาก

ลูกๆ ทุกคนรักกัน เพราะทุกคนก็รู้ว่าปุ๋ยเสียน้องสาวไป เวลาพวกเขาทะเลาะกันก็จะมาขอโทษแม่เสมอ เพราะรู้ว่าเราคิดถึงพวกเขาตลอด พอทะเลาะกันเสร็จก็จะมาบอกว่าเขาขอโทษ พร้อมบอกพวกเขาจะรักกันให้มากกว่านี้ พอได้ยินก็รู้สึกปลื้มใจมาก เล่าถึงลูกๆ พร้อมรอยยิ้ม


แม้ว่าจะไม่ได้อยู่เมืองไทยนานกว่า 10 ปี แต่เธอยังไม่ลืมที่จะสอนความเป็นไทยให้ลูกๆ ด้วยการสอนให้เคารพผู้ใหญ่ รู้จักการไหว้ นอบน้อมถ่อมตน ซึ่งแตกต่างกันมากระหว่างวัฒนธรรมโรงเรียนไทยกับโรงเรียนอเมริกา

เรามีสายเลือดไทยเต็มตัว เราต้องสอนลูกๆ ให้รู้จักและเข้าใจความเป็นไทยมากที่สุด ง่ายๆ อย่างการไหว้ เคารพผู้หลักผู้ใหญ่และการพูดจาปราศรัยที่อ่อนน้อม เพราะพวกเขามีแม่เป็นคนไทย

ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์

เห็นความน่ารักของครอบครัวนี้แล้ว หลายคนคงอยากรู้วิธีการบอกรักภายในครอบครัว เธอบอกพร้อมยิ้มกว้างแล้วหันไปทางลูกสาวแจ็คคอรีน


ว่าง่ายที่สุดเลยคือต้องกอด ต้องจูบ และบอกรักลูกๆ ทุกวันก่อนนอน หาเวลาอยู่ด้วยกัน การบอกรักกันทุกวัน จะทำให้เขาซึมซับไปเรื่อยๆ และรับรู้ความรู้สึกเอง เพราะเธอคือครูของเขา สอนทุกอย่างตั้งแต่บุคลิกภาพ การใช้ชีวิต และเธอแน่ใจว่าลูกๆ ไม่เคยอิจฉากัน เพราะฉะนั้นเวลาเธอไม่อยู่แจ็คคอรีนจะเป็นพี่ดูแลน้องๆ

เราเป็นครอบครัวใหญ่ มีอะไรต้องพูดคุยกันเสมอ และบอกรักกันให้มากๆ เพราะการบอกรักเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด รับรู้ได้เร็วที่สุด แม้ว่าเขาจะเด็กขนาดไหนแค่อ้อมกอดและจูบก็รับรู้แล้ว ปุ๋ยเผยเคล็ดลับสร้างความอบอุ่นในครอบครัว


ส่วนกิจกรรมที่ทำร่วมกันในครอบครัว เธอบอกว่าด้วยความที่รักการเดินทางกันหมดทั้งบ้าน ชอบไปเที่ยวด้วยกัน เด็กๆ ก็ชอบไปสวนสนุกอย่างดิสนีย์แลนด์ ไปเที่ยวรัฐอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา เช่น ฮาวาย หรือไปดูการแข่งขันกีฬาด้วยกัน แค่นี้ชีวิตก็แฮปปี้แล้ว พ่อแม่บางคนคิดว่าการให้ของแพงๆ ตามใจเด็กตลอดเวลาจะทำให้เด็กมีความสุข จริงๆ แล้วไม่จำเป็น เพราะเด็กๆ นั้นต่างต้องการความรัก ความรู้ และความผูกพันจากพ่อแม่มากกว่า

เราให้ของขวัญได้ แต่ต้องสร้างความคาดหวังให้เขาก่อน อยากได้อะไรมาบอก เราก็จะจดเอาไว้บนปฏิทิน พอถึงวันพิเศษหรือลูกๆ ทำตัวน่ารัก เรียนดี หรือได้รางวัลอะไรมา ก็จะซื้อของขวัญให้ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือเสียงหัวเราะ เพราะเมื่อเครียดเด็กจะกดดัน หากเราสอนเขาเสร็จเรียบร้อย ก็กลับมาหัวเราะกันเหมือนดิม รักกันเหมือนเดิมแค่นั้นเอง

สุดท้ายภรณ์ทิพย์ฝากเคล็ดลับการดูแลลูกๆ ว่าต้องรักลูกให้เท่ากัน ไม่ว่าเขาจะทำดีหรือไม่ดี เพราะธรรมชาติของเด็กก็ต้องมีผิดบ้าง เราจะต้องเข้าใจว่าเขาเป็นเด็ก เพราะฉะนั้นเราเป็นผู้ใหญ่ต้องสอนเด็ก แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ดุลูกเลย โดยส่วนตัวไม่ชอบการพูดบ่อยๆ บอกซ้ำๆ ต้องบอกครั้งเดียวพอ ถ้าทำผิดซ้ำก็ต้องดุพร้อมอธิบายเหตุผลที่ดุเขา เพราะถ้าอธิบายด้วยเหตุผลแล้วเขาจะเข้าใจเอง เช่น เวลาเขาขอไปค้างบ้านเพื่อน ถ้าไม่รู้จักพ่อแม่เพื่อนหรือสนิทกันจริงๆ เราจะไม่ให้เขาไป พร้อมอธิบายด้วยเหตุผล เขาก็จะไม่เถียงเพราะรู้ว่าที่แม่ห้ามเพราะรักเขา


ครอบครัวจะดีต้องคุยต้องสื่อสารกันให้มากที่สุด ปุ๋ยทิ้งท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook