อยู่ไฟหลังคลอด เดลิเวอรี่ ทางเลือกสะดวกสำหรับคุณแม่มือใหม่

อยู่ไฟหลังคลอด เดลิเวอรี่ ทางเลือกสะดวกสำหรับคุณแม่มือใหม่

อยู่ไฟหลังคลอด เดลิเวอรี่ ทางเลือกสะดวกสำหรับคุณแม่มือใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การอยู่ไฟหลังคลอด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณแม่ส่วนมากนิยมทำกันทั้งในอดีต หรือปัจจุบัน ซึ่งในสมัยก่อนการ "อยู่ไฟ" ค่อนข้างจะทำได้ลำบากเพราะมีขั้นตอนมากมาย โดยคุณแม่จะต้องเข้าไปนอนผิงไฟในเรือนไฟที่สร้างขึ้นมา หรือคุณแม่จะต้องนอนบน "กระดานไฟ" เพื่อเป็นการปรับสมดุลให้ร่างกายหลังทำการคลอด แต่ในปัจจุบันมีทางเลือกให้คุณแม่หลังคลอดคือ "อยู่ไฟ เดลิเวอรี่" ที่นิยมกันอย่างมาก เพราะด้วยความสะดวก ประหยัดเวลา ไม่ต้องออกไปข้างนอก หรือหาอุปกรณ์มาทำเองให้ยุ่งยาก และมีตัวเลือกให้คุณแม่เลือกเยอะ หลายร้าน หลายราคา หลายขั้นตอนแล้วแต่ความสะดวก 


Sanook Women ได้คุยกับ คุณเต้ย-รินทรัตน์ พลอยศรี เจ้าของ Cafemombyrin คาเฟ่มัมบายริน อยู่ไฟเดลิเวอรี่ เปิดบริการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ถึงการอยู่ไฟหลังคลอด แบบเดลิเวอรี่ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คุณแม่

"ธุรกิจนี้ เริ่มต้นจากความชื่นชอบและสนใจในสมุนไพรไทยเพื่อใช้ในการดูแลต้วเองและผู้อื่น และค่อยๆ เรียนรู้คิดต่อยอด สร้างความแตกต่างจากเดิมให้เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณแม่ยุคใหม่ จึงได้ให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรี่ เราคิดเสมอว่า เราต้องการส่งการบริการดีที่ดีสุดให้กับคุณแม่ทุกท่าน ที่ให้โอกาสเราได้ดูแล เราปรับให้การอยู่ไฟที่คิดว่าเป็นเรื่องยาก ให้ง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เราใส่ใจทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์และการบริการให้คุณแม่ ซึ่งคุณแม่ไม่ต้องเตรียมอะไรให้เสียเวลา ทางเราเตรียมทุกอย่างให้คุณแม่ครบ ทีมงานของเราทุกคนผ่านการอบรมในมาตรฐานของทางร้าน ให้บริการโดยผู้ช่วยแพทย์แผนไทยที่มีความเชียวชาญ และผ่านการอบรมการดูแลมารดาหลังคลอดมาเป็นอย่างดี" คุณเต้ยกล่าวถึงธุรกิจที่ทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คุณแม่หลังคลอด


การให้บริการอยู่ไฟ หลังช่วงโควิค-19
เชื่อว่าช่วงแรกทุกคนมีความกังวล แต่ปัจจุบันเริ่มมีการปรับตัวและตั้งรับกับเหตุการณ์นี้ได้ดีขึ้น จะเห็นได้ว่าจากการแพร่ระบาดของไวรัส ประชาชนจะตื่นตัวเรื่องสุขภาพและมีความรู้ในการดูแลสุขลักษณะเบื้องต้นในการใช้ชีวิตประจำวัน
สำหรับการบริการของทางร้าน เรามีมาตรการการป้องกัน ตั้งแต่กระบวนการเตรียมอุปกรณ์ในการให้บริการลูกค้า มีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ที่ใช้ทุกครั้ง ทางร้านมีการกำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนในการดูแลสุขภาพอนามัยตนเองและมีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนการปฎิบัติงาน ในส่วนของกระบวนการทำงานเจ้าหน้าที่จะมีการป้องกันตนเองโดยการใส่ถุงมือนวด สวมหน้ากากอนามัยและเฟรชชิลตลอดเวลาการทำงาน ให้คำแนะนำคุณแม่ควรมีผู้ช่วยดูแลลูกน้อยแทนในช่วงเวลาที่อยู่ไฟ ถ้าเป็นไปได้แยกน้องออกจากห้องที่อยู่ไฟ


มาตรการทางร้านก่อนเข้าให้บริการ
มีการเตรียมการตามที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนั้น ทางร้านมีการคัดกรองลูกค้า โดยการส่งแบบฟอร์มให้คุณแม่กรอกเพื่อประเมินความเสี่ยงของฝั่งลูกค้าเช่นกัน หากทางเจ้าหน้าที่พบว่าทางบ้านลูกค้ามีความเสี่ยงทางร้านจะขอหยุดการให้บริการทันที และจะชดเชยให้ครบตามคอร์สในภายหลัง


ขั้นตอนการอยู่ไฟหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส กับช่วงสถานการณ์ปกติ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ขั้นตอนจะไม่ต่างกัน เพราะทุกขั้นตอนในแต่ละวันมีความสำคัญไม่สามารถตัดออกจากคอร์สได้ และคอร์สของทางร้านใช้เวลาไม่มากประมาณ 3-4 ชั่วโมงต่อวันอยู่แล้ว จากสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงนี้ ทางร้านขอความร่วมมือกับคุณแม่ ในการทำกิจวัตรประจำวันให้เรียบร้อยก่อนทำคอร์ส อย่างเช่นปั๊มนม หรือให้นม โดยปกติทางร้านจะมีเวลาให้พักปั๊มนม หรือให้นม หรือดูน้องได้ตลอด



คิดว่าการอยู่ไฟของทางร้าน มีความแตกต่างจากของที่อื่นอย่างไรบ้าง
การให้บริการของทางร้านจะเป็นการอยู่ไฟตามแบบโบราณวิถี ที่เน้นการปรับสมดุลฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอดให้กลับมาแข็งแรง โดยมีการนวดผ่อนคลาย มีการทับอิฐ ทับหม้อเกลือ ด้วยสมุนไพรสด เข้ากระโจม ประคบเต้าช่วยให้น้ำนมไหลเวียดได้ดีขึ้น ผสมผสานกับ การดูแลผิวพรรณแบบสปาเพื่อเพิ่มการผ่อนคลายและฟื้นฟูร่างกายที่ขาดการบำรุงอีกด้วย ในคอร์สเราใช้เวลา ประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น

จุดเด่นที่สำคัญทางร้านคือความสะดวกสบาย ทางเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเตรียมของ เหมือนยกสปาไปไว้ที่บ้าน และเจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นเจ้าหน้าที่ของทางร้านที่ผ่านการอบรมและทดสอบการปฎิบัติกับทางร้านเหมือนกันทุกคน จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะได้รับบริการจากผู้มีความชำนาญ



ทำไมคุณแม่หลังคลอดถึงต้องอยู่ไฟ
การอยู่ไฟหลังคลอดเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่ทำสืบต่อกันมานาน เป็นกระบวนการดูแลฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอด เหตุที่คุณแม่หลังคลอดต้องอยู่ไฟ อย่างแรกคือ เพราะการอยู่ไฟช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายและจิตใจ ทำคุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อน ผ่อนคลายร่างกายหลังจากอุ้มท้องมาถึง 9 เดือน ช่วยให้ร่างกายคุณแม่ได้ปรับสมดุล และฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอดได้ดี


ควรอยู่ไฟเมื่อใด ถึงจะดีที่สุด
การอยู่ไฟให้ดีที่สุดขึ้นอยู่กับร่างกายของคุณแม่
โดยคุณแม่คลอดธรรมชาติ ภายหลังคลอดเพียง 10 วัน ก็สามารถเริ่มอยู่ไฟได้เลย
ส่วนคุณแม่ที่ทำการผ่าคลอด ต้องรอหลังคลอดประมาณ 30-45 วัน จึงสามารถเริ่มอยู่ไฟได้


ประโยชน์ของการอยู่ไฟ
ช่วยให้ร่างกายฟื้นจากความเหนื่ยล้าให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว โดยใช้ความร้อนในการช่วยฟื้นฟูร่างกาย ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นบริเวณที่ถูกกดทับ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามตัว ช่วยให้เลือดลมและน้ำนมไหลเวียนดี ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายคุณแม่เข้าที่ ปรับธาตุต่างๆ ในร่างกาย ลดอาการหนาวสะท้านที่เกิดขึ้นจากภาวะการเสียเลือดและการเสียน้ำหลังคลอดให้ดีขึ้น ทำให้มดลูกที่ขยายตัวหดรัดตัวเข้าอู่ได้เร็ว ช่วยขับของเสีย ขับน้ำ ขับลม ขับน้ำคาวปลา ผิวพรรณสะอาด สดใส


คำแนะนำเรื่องการอยู่ไฟหลังคลอด
หลังคลอดหรือในช่วงที่คุณแม่อยู่ไฟ คุณแม่ควร อาบน้ำอุ่น ดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำในอุณหภูมิปกติ ไม่ควรอาบน้ำเย็นหรือทานน้ำเย็น ไม่ควรทานของหมักดอง หรืออาหารที่ทานแล้วแสลงต่อแผล แฮลกอฮอร์


การอยู่ไฟหลังคลอดสามารถทำได้ด้วยตัวเองไหม
การอยู่ไฟเองที่บ้านคุณแม่จะมีความยุ่งยากในการเตรียมอุปกรณ์ และสามารถทำได้ด้วยตัวเองได้ในเบื้องต้นเท่านั้น เช่น การอาบน้ำสมุนไพร การอบตัว หรือการประคบบางส่วนของร่างกายเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันจะมีการจัดเป็นชุดอยู่ไฟขายพร้อมแนะนำขั้นตอนและวิธีการที่สามารถทำเองที่บ้านได้ง่ายๆ แต่อย่างที่แจ้งไปแล้ววิธีการอาบน้ำสมุนไพรและการประคบร่างกายบางส่วนจะช่วยในเบื้องต้นเท่านั้น หากได้รับบริการจากผู้ที่มีความรู้และชำนาญโดยตรง จะได้รับการดูแลแบบถูกวิธี และเป็นการปรับสมดุลและผ่อนคลายอย่างแท้จริง



ในปัจจุบันการอยู่ไฟ แบบเดลิเวอรี่ มีร้านเกิดขึ้นมามากมาย แนะนำให้คุณแม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกทำ ควรเลือกร้านที่มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และลูกน้อยค่ะ


>> สมุนไพรอยู่ไฟมีอะไรบ้าง สมุนไพรอยู่ไฟหลังคลอดมีอะไรบ้าง การอยู่ไฟหลังผ่าคลอด
>> แม่หญิงกระเกด อยู่ไฟครั้งแรก ทรมานจริงไหม ออเจ้าต้องรู้!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook