Pancake Wallpaper : Beautiful Creature
ดูเหมือนว่าชีวิตช่วงนี้จะมีแต่เรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น ถึงแม้ก่อนหน้าจะเจอมรสุมข่าวอยู่บ้าง สำหรับนางเอกสาวสูงยาวเข่าดี "แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์" ล่าสุดเธอกลับมาเล่นละครให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันแล้ว ในเรื่อง "พรมแดนหัวใจ" ประกบคู่พระเอกน้องใหม่ "เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์" งานนี้แว่วๆ มาว่าสาวแพนเป็นเจ๊ดันอีกด้วย ส่วนจะดันขึ้น หรือไม่ขึ้นต้องรอลุ้นกันอีกที แต่ที่ไม่มีให้ลุ้นแน่ๆ ก็คือความรักนอกจอ เพราะตอนนี้สาวแพนขอแค่มีสารวัตรหมีก็พอแล้ว เรียกว่าลัคกี้อินเลิฟ แอนด์ ลัคกี้อินเกม จนน่าอิจฉาซะจริงๆ
นางเอกการกุศล
"ฉายาที่บอกว่าเราเป็นนางเอกการกุศล ก็ถือว่าโอเค ถ้าเรามีโอกาสได้ทำ เราก็ทำ แพนมองว่าการทำบุญ เราสามารถทำได้เรื่อยๆ ถ้าเราตั้งใจจะทำ มันก็เป็นบุญทั้งนั้น ถ้าใจคิดให้เป็นบวก ก็ถือว่าเป็นการทำบุญแล้วอย่างหนึ่ง ทุกคนสามารถทำแบบนั้นได้ ไม่ใช่แค่แพนคนเดียว อย่าไปมองว่าเราทำเพื่ออะไร มีเรื่องของผลประโยชน์ หรือการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องมั้ย บางคนคิดว่าเราสร้างภาพ ก็แล้วแต่คนจะมอง คนจะคิด จริงๆ แล้วเราทำ เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังสามารถทำประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง อะไรที่เราสามารถช่วยเหลือได้ เราก็ช่วยเท่านั้นเอง เรายินดีที่จะทำเท่าที่ทำได้ ตอนนี้มีโครงการหลายอย่างมาก ทั้งของตัวเองและคนอื่นที่เป็นโครงการต่อเนื่อง เช่น มอบทุนการศึกษาให้น้องๆ หรือไปออกงานการกุศล ซึ่งมีเข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ"
เก่าไป ใหม่มา ทุกอย่างมีความเปลี่ยนแปลง
"ตอนนี้มีดารานักแสดงรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แพนมองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะโลกหมุนไปตลอดเวลา เก่าไป ใหม่มา การทำงานทุกอย่างก็ต้องเดินไปข้างหน้า เด็กๆ ที่ก้าวเข้ามาก็ต้องมีเยอะขึ้น เป็นทั้งนางแบบ และนักแสดง ซึ่งเรามองว่าหลายๆ คนอยากจะก้าวเข้ามาทำงานในวงการนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างในเวลาอันรวดเร็ว ได้เห็นงานในวงการเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นด้านแฟชั่น ด้านการแสดง ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน กี่ปี ตอนแรกๆ ที่เราเพิ่งเข้ามาในวงการ ก็ยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ น้องใหม่ แต่เดี๋ยวนี้ถ้าถามว่ายังเป็นดาวรุ่งได้อีกมั้ย ก็คงไม่ได้แล้วล่ะ (หัวเราะ) แต่ถึงยังไงเราก็ยังต้องดูแลตัวเองในเส้นทางวงการบันเทิงต่อไป ถึงแม้อาจจะเปลี่ยนสถานะ เปลี่ยนบทบาทไปบ้าง แต่ก็ขอทำให้เต็มที่ในทุกๆ วัน และทุกๆ งาน บางทีการทำงานของเราอาจไม่เหมือนคนอื่น เราก็มีวิธีดูแลในแบบของเรา ซึ่งเรามีความสุขแบบนั้น อะไรที่อยากทำ เราก็ทำ ถ้ามีโอกาสเลือก เราก็เลือกและทำให้ดีที่สุดค่ะ"
เจ้าแม่ธุรกิจ ชอบคิดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ
"ตอนนี้ธุรกิจที่ทำอยู่มีหลายอย่าง ร้านตุ๊กตาหมี (TEDDY HOUSE) ที่สยามสแควร์ ซ. 11 ก็ค่อนข้างโอเคขึ้น แต่ยังต้องทำเพิ่มเติมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคาเฟ่คิทเช่นที่อยู่ชั้น 2 ซึ่งมีอาหารให้บริการลูกค้าที่เข้ามาในร้าน ยังต้องปรับปรุงบางอย่าง เช่น เมนูอาหารที่สามารถนำมาขายได้ ตุ๊กตาหมีก็ยังมีคอลเลคชั่นใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ส่วนโปรเจ็กต์อื่นๆ ตอนนี้มีเพิ่มขึ้นมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความชอบส่วนตัว และสนใจ อย่างวิตามินบำรุงผิวที่แพนอยู่ทำ ก็เกิดจากการที่เราดูแลตัวเองอยู่แล้ว และอยากให้คนอื่นดูดีด้วย ขายเสื้อผ้าในอินสตาแกรม ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ลองทำดู ใช้ชื่อแบรนด์ babyrose by pancake เราชอบชื่อนี้ เพราะน่ารักดี ความหมายก็โอเคแปลว่ากุหลาบหิน ซึ่งเหมาะกับตัวเองที่เป็นผู้หญิงซอฟต์ บางครั้งก็ดูแข็งแรงได้เหมือนกัน เป็นผู้หญิงที่น่าค้นหานิดนึง มีขายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และผ้าพันคอ ซึ่งจะทำเป็นคอลเลคชั่นพิเศษบ้าง ส่วนใหญ่ของทุกอย่างจะเน้นสีสันสดใสในแบบที่ตัวเองชอบ ลวดลาย แพทเทิร์นต่างๆ เราเป็นคนออกแบบเอง ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าที่ใส่สบายๆ ถอดง่าย ใส่ง่าย เน้นราคาที่สามารถจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป ตอนนี้ยังไม่มีหน้าร้าน แต่ตอนนี้ก็โอเค มีลูกค้าสนใจ และสั่งซื้อกันเยอะขึ้น ได้รับการตอบรับที่ดีค่ะ"
อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สนใจเรื่อง รัฐศาสตร์
"ตอนนี้แพนเรียนปริญญาโท รัฐศาสตร์ ที่ ม.รามคำแหง ก็ถือเป็นสาขาวิชาใหม่ที่เราไม่เคยเรียนมาก่อน เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่หมด เพราะตอนเรียน ป.ตรี ที่เกษตรศาสตร์ เราจบด้านมนุษยศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สาเหตุที่เปลี่ยน เพราะอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน เพราะในเรื่องของเหตุบ้านการเมืองอยู่กับเราตลอดเวลา เป็นสิ่งใกล้ตัว ถ้าเรารู้ไว้ก็เป็นสิ่งที่ดี แพนมองว่าเราไม่จำเป็นต้องนำความรู้รัฐศาสตร์มาใช้กับเรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว เราสามารถนำไปใช้ในเรื่องอื่นๆ เช่น การบริหารกลุ่มคนที่เรารู้จัก และทำงานด้วย แม้กระทั่งการบริหารคนที่บ้านก็เกี่ยวข้องกันหมด ถ้าเรารู้จักนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ตอนไปเรียนก็รู้สึกโชคดีที่ได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้จริงๆ เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันก็มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ บางคนเป็นนักธุรกิจ เป็นข้าราชการ หรือทำธุรกิจส่วนตัว พอได้มาเจอกันก็ได้แลกเปลี่ยนมุมมองความคิดและความรู้ใหม่ๆ ทุกคนน่ารักค่ะ"
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็น "เรื่องราวๆ ดี" ในชีวิต
"แพนเป็นคนมองโลกในแง่ดี เพราะรู้สึกว่าถ้าเรามองให้ดี เราก็จะมีความสุข แม้หลายครั้งจะมีเรื่องทุกข์ใจเข้ามา แต่ถ้าเราคิดให้มันเป็นมุมดีๆ เป็นเรื่องราวดีๆ ที่แพนมักจะพูดอยู่เสมอ ทุกอย่างก็จะดูดีไปหมด ถ้าเราคิดบวก ใจเราก็จะบวก บางทีคนที่อยู่รอบข้างเราก็รู้สึกบวกไปด้วย แพนว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่า แต่ถามว่าในชีวิตนี้มีมุมเศร้า ท้อ เหนื่อย หรือเครียดบ้างมั้ย ก็ต้องมีอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเทียบกับคนอื่น บางทีอาชีพที่เราทำอยู่อาจจะเหนื่อยน้อยกว่าอีกหลายๆ อาชีพที่คนอื่นทำอยู่ก็ได้ ฉะนั้นวันนี้ถ้ายังพอมีแรงทำได้ ก็ต้องเดินหน้าก้าวผ่านมันไปให้ได้ เวลาเราท้อ เครียด หรือไม่สบายใจ เราก็มีวิธีกำจัดอารมณ์เหล่านั้นออกไป โดยการหาอะไรที่ตัวเองชอบทำ แล้วไปทำ อย่างแพนจะมีน้องหมาที่บ้าน มีครอบครัวให้มานั่งคุยเล่นกัน ก็ทำให้เราหันเหไปสนใจเรื่องอื่น ทำให้คลายเครียดไปได้ ปกติครอบครัวของเราจะมีกิจกรรมทำร่วมกันอยู่แล้ว มีบางช่วงที่เราว่างตรงกันก็จะชวนไปออกกำลังกาย ไปตีเทนนิส ว่ายน้ำ เล่นกอล์ฟบ้าง แต่ช่วงนี้อาจะห่างๆ ไปบ้าง เพราะทุกคนก็มีกิจกรรมของตัวเอง มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบค่ะ"
มรสุมข่าวที่เข้ามา ทำให้โตขึ้น
"ที่ผ่านมาถึงแม้จะเจอข่าวค่อนข้างเยอะ บางข่าวก็ค่อนข้างแรง แต่แพนก็ยังเป็นแพนแบบนี้ อาจจะโตขึ้นในเรื่องของความคิด ถึงวันนี้ก็คิดว่าตัวเองสามารถรับมือกับตรงนั้นได้แล้วในระดับหนึ่ง เพราะเราเรียนรู้ว่าธรรมชาติของข่าวเป็นยังไง ทุกคนก็ทำงานของตัวเอง เราต้องเข้าใจว่าเรายืนอยู่ตรงนี้ แน่นอนหนีไม่พ้นข่าวเพราะฉะนั้นต้องเรียนรู้และเข้าใจกับมัน แต่ละข่าวที่ออกมา มีอะไรให้เราคิด ให้เราตอบ และต้องหาทางออกให้ตัวเองเสมอ ฉะนั้นเวลาที่เจอข่าวเยอะ เราก็ต้องรู้จักปล่อยวาง ข่าวที่ออกมาก่อนหน้านั้น อย่าเรียกว่าเป็นข่าวที่ไม่ดีเลย เพราะถ้าเราคิดดี เราก็จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หรือหนักหนาสาหัสอะไร เดี๋ยวทุกอย่างก็จะผ่านไป เป็นวงจรของข่าว ที่มีเข้ามาเรื่อยๆ พรุ่งนี้มีข่าวนี้ อีกวันก็มีข่าวใหม่ เป็นเรื่องธรรมดาของวงการบันเทิงที่ต้องสร้างกระแส เพื่อให้วงการอยู่ได้ นักข่าวกับดาราก็ต้องทำงาน ทำหน้าที่ของตัวเองไปค่ะ (ยิ้ม)"
3 พี่น้อง 3 สไตล์
"แพนเป็นคนที่โตมาแบบอิสระ จริงๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็เปิดโอกาสให้เราได้ลอง ได้ทำทุกอย่าง แต่ต้องอยู่ในสายตาพวกเขาตลอด ซึ่งแพนมองว่าเป็นสิ่งที่ดี เวลาเรามีปัญหาอะไร เราก็สามารถขอคำปรึกษา และพูดคุยกับพวกเขาได้ แพนไม่ได้รู้สึกอึดอัด หรือกดดันอะไร บางคนอาจคิดว่าเราถูกเลี้ยงมาให้อยู่แต่ในกรอบ ถูกบังคับ จริงๆ แล้วเราสบายใจที่เป็นแบบนี้มากกว่า เรายังสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้ด้วยตัวเองตลอดเวลา ส่วนน้องชาย กับน้องสาวก็น่ารัก มีความรับผิดชอบ และตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง ทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องมาเหนื่อยกับพวกเขามาก น้องชาย (พัตเตอร์) ตอนนี้ก็อยู่ในกรม เพื่อรับการฝึกเป็นทหารสังกัดกองทัพอากาศ เค้าก็โตขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น เราก็ภูมิใจในตัวเค้า ส่วนน้องสาวก็โตเกินอายุ สามารถดูแลตัวเองได้ทุกอย่าง เค้าชอบในเรื่องของดีไซน์ การวาดรูป การทำอาหาร เน้นไปทางด้านศิลปะ เป็นอีกหนึ่งแรงที่คอยสนับสนุนเรา เวลามีอะไรก็ขอความช่วยเหลือจากเค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฮเทค หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เค้าจะถนัด พวกเรา 3 พี่น้องเป็นคนละแนว คนละสไตล์กันหมด มีคาแรคเตอร์และความชอบที่แตกต่างกัน ในฐานะที่เราเป็นพี่คนโต เราก็คอยบอกคอยสอนพวกเขาในเรื่องของความรับผิดชอบ เวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องช่วยกันประคับประคองทุกอย่างให้ดำเนินต่อไปได้ น้องๆ ก็จะฟังเรา เวลาใครมีปัญหาอะไรก็จะให้คำปรึกษาและเป็นกำลังใจที่ดีต่อกันค่ะ (ยิ้ม)"
อารมณ์ดี เพราะมีน้องหมา
"น้องหมาของแพนตอนนี้มีหลายตัวมาก ล่าสุดเพิ่งได้มาจากเพื่อนคุณพ่อ เป็นพันธุ์ไซบีเรียน ตัวผู้ ตั้งชื่อว่าบราวนี่ เป็นพันธุ์ที่อยากเลี้ยงมานานแล้ว เพราะเป็นหมาในฝัน แต่แอบกังวลว่าจะอยู่บ้านเราได้มั้ย ต้องอยู่ในอากาศหนาว ต้องนอนห้องแอร์รึเปล่า พอได้มาเลี้ยงจริงๆ เค้าก็อยู่ได้ แต่จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นนักล่าเต็มตัว ใครที่ไม่ใช่พวกเดียว หรือพันธุ์เดียวกับเค้าจะเข้ากันยากนิดนึง เป็นหมาที่รักความสันโดษ มีโลกของตัวเอง ตอนนี้ก็ต้องแยกออกจากหมาตัวอื่นๆ แต่เราก็อยากให้เค้ามีเพื่อน ก็เลยได้ตัวเมียมาอีกตัวเป็นสีขาว ชื่อ คัพเค้ก ได้มาจากลูกเพื่อนคุณพ่ออีกที ตอนนี้ยังเด็กอยู่ จะขี้เล่นและซนมาก เวลานอนก็นอนด้วยกัน เวลาเราพูด เราสอนอะไร เค้าก็จะฟัง เวลากลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ เราก็จะเล่นกับเค้า ทำให้อารณ์ดีขึ้นเยอะเลย เป็นอะไรที่รักและหวงมากๆ เลยค่ะ"
เปิดใจกับรักครั้งใหม่ ค่อยๆ เรียนรู้กันไปก่อน
"ตอนนี้ก็โอเค ไม่มีอะไรหวือหวา เราก็ทำความรู้จักและเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ เราเริ่มต้นจากการที่ไม่มีใครรู้จักใคร พี่เค้าก็ไม่รู้จักแพนมาก่อน แพนไปเจอเค้าตอนที่ไปทำบุญ เค้าไปกับเพื่อน ตอนแรกก็ไม่ได้คุยอะไรกัน เค้าไม่ได้มาจีบเราด้วยซ้ำ พี่หมีเป็นคนมีคาแรคเตอร์ เป็นตัวของตัวเอง มีความเป็นผู้นำ ดูต่างจากคนอื่น เราก็คอยสังเกตเค้ามาเรื่อยๆ เค้าเป็นคนนิ่งๆ แพนว่าดีที่เค้าไม่รู้จักเราในมุมของการเป็นนักแสดง แต่มารู้จักกันในมุมที่เป็นตัวเรามากกว่า ทำให้รู้จักตัวตนเราอีกแบบ ปกติแพนเป็นคนง่ายๆ สบายๆ บางครั้งทำอะไรก็ไม่มีระบบบ้าง แต่พี่หมีเป็นคนที่รอบคอบ ทำอะไรมีระบบ เราก็ต้องปรับมากขึ้น ถามว่าตอนนี้ความสัมพันธ์อยู่ระดับไหนแล้ว หลายคนมองว่าเราเปิดตัวมากขึ้น จริงๆ เราก็ไม่ได้ปิดอะไร ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า ไม่อยากพูดว่าอยู่ระดับไหน เป็นแฟนกันหรือยัง เพราะทุกวันคือการเรียนรู้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีต่อกันมากกว่า แพนยังมองความรักเป็นสิ่งสวยงาม ถ้าวันหนึ่งเจอคนที่ใช่ ก็คงใช่ค่ะ (ยิ้ม)"
อยากสวยและดูดี ต้องรู้จักตัวเองให้ดีก่อน
"ช่วงนี้จะพยายามดูแลตัวเองมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอายุเพิ่มขึ้น ในเรื่องผิวพรรณก็ต้องดูแล ตอนนี้แพนกินวิตามินบำรุงผิวตลอด ก็ช่วยได้เยอะ ในเรื่องรูปร่าง ถ้าช่วงไหนมีเวลาว่างก็ไปออกกำลังกาย ไปว่ายน้ำ ตีกอล์ฟบ้าง อาหารการกินก็ต้องเลือกเหมือนกัน พยายามไม่กินแป้งเยอะ จริงๆ แพนว่าคนเราย่อมรู้สภาพร่างกาย และสุขภาพของตัวเองดีว่าเป็นแบบไหน ควรดูแลตัวเองยังไง อย่างแพนเองไม่ได้เข้มงวดเรื่องการกินมาก ถ้าวันไหนที่ต้องใช้พลังงานเยอะ แพนก็กินเต็มที่ ไม่ได้อด หรืองดเลย แต่ถ้าช่วงไหนที่รู้สึกว่าอ้วนขึ้น ก็คงไปหาวิธีเบิร์นด้วยการออกกำลังกาย ถ้าเรารู้จักตัวเอง ไม่ว่าจะทำอะไร จะแต่งหน้า แต่งตัว เราก็สามารถเลือกให้เหมาะกับตัวเองได้ ไม่ต้องไปตามแบบใคร ถ้าอยากดูดี หรืออยากสวย ควรสวยในแบบที่ตัวเองเป็นนี่แหละดีที่สุด ที่สำคัญพยายามคิดดี มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ค่ะ (ยิ้ม)"
Profile's Pancake
ส่วนสูง 174 ซม.
น้ำหนักปัจจุบัน 50 กก.
น้ำหนักมากสุด 55 กก.
น้ำหนักน้อยสุด 48 กก.
Menu To Slim
เช้า ข้าวต้ม
เที่ยง มะกะโรนีหมูสับ/ผัดซีอิ๊ว
เย็น สลัดผัก