เลิกด่วน 6 นิสัยทำลายสุขภาพ ที่คนทำงานอยู่บ้านมักเผลอทำ

เลิกด่วน 6 นิสัยทำลายสุขภาพ ที่คนทำงานอยู่บ้านมักเผลอทำ

เลิกด่วน 6 นิสัยทำลายสุขภาพ ที่คนทำงานอยู่บ้านมักเผลอทำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนที่ทำงานอยู่บ้าน มักจะมีพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่านะคะว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้าง เพื่อจะได้เลิกทำพฤติกรรมเหล่านี้โดยด่วน ก่อนที่จะทำให้สุขภาพพังนั่นเอง


1.นอนดึก ตื่นสาย
เมื่อทำงานที่บ้านหลายๆ คนก็จะติดนิสัยการนอนที่ผิดจากเดิมที่เคยนอนตอน 4 – 5 ทุ่มก็เลือกนอนเช้า คิดแค่ว่านอนให้ครบ 8 ชั่วโมงก็เพียงพอ แต่การนอนแบบนี้จะทำลายสุขภาพส่งผลให้การทำงานของร่างกายผิดเพี้ยน และทำให้เกิดเป็นความเครียดสะสมขึ้นได้


2.กินมื้อดึก
หลายคนที่ทำงานอยู่บ้าน มักจะทำงานจนดึกดื่น ซึ่งก็จะตามมาด้วยการกินมื้อดึกเป็นประจำ โดยการกินแบบนี้นอกจากจะทำให้อ้วนขึ้นแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก


3.ไม่ออกกำลังกาย
เมื่อได้อยู่บ้านหลายคนที่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกายอยู่แล้วก็ยิ่งไม่ออกไปใหญ่ เพราะต้องทำงานจึงไม่ได้แบ่งเวลาให้กับการออกกำลังกายอย่างจริงจัง จนทำให้ตัวเองนั้นอ้วนขึ้น


4.ทำทุกอย่างบนเตียง
การทำงานที่บ้าน ห้องนอนมักจะกลายเป็นทุกอย่าง ทั้งที่ทำงาน ที่กิน ที่นอน ซึ่งการที่ต้องลุกจากเตียงมีเพียงสองอย่างคือเข้าห้องน้ำกับหาของกินจนติดเป็นนิสัย ซึ่งการกระทำแบบนี้อาจทำให้ร่างกายเกิดการปวดเมื่อยหรือเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้ ดังนั้นคุณควรลุกขึ้นมาเปลี่ยนอิริยาบถบ้างเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ


5.คิดงานตลอดไม่ปล่อยให้สมองพัก
เมื่อตอนไปทำงานที่ออฟฟิศยังมีเวลาได้เดินผ่อนคลายด้วยการกินกาแฟ แวะคุยกับเพื่อนร่วมงาน แต่เมื่อต้องทำงานที่บ้านคุณไม่ได้ลุกจากจุดที่ทำงานและนั่งอยู่หน้าคอมตลอดเวลา สมองจึงไม่ได้พักทำงานหัวไม่ค่อยแล่นคิดงานไม่ออก หรือทำให้ได้งานที่ไม่ได้คุณภาพ

6.กินอาหารไม่เป็นเวลา
การไปทำงานที่ทำงานนั้นมีช่วงเวลาที่พักอย่างชัดเจนทำให้ต้องกินข้าวอย่างเป็นเวลา แต่พออยู่ที่บ้านแล้วบางทีก็กินข้าวบ้างไม่กินบ้างหรือกินควบสองเวลาบ้างทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบ ซึ่งอีกหนึ่งอย่างที่จะเป็นผลกระทบที่เกิดจากการทานอาหารไม่ตรงเวลาคือทำให้เกิดกรดไหลย้อน และโรคกระเพาะอีกด้วย


หากทราบดังนี้แล้วคุณควรเลิกพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะจะทำให้สุขภาพพังได้ ทางที่ดีควรหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ทานอาหารให้ตรงเวลา ออกกำลังกายบ่อยๆ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีความเหมาะสมและสมดุลมากขึ้น เท่านี้ก็จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้แล้ว แม้จะต้องทำงานอยู่ที่บ้านก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook