Shio Yoshoku Cafe & Restaurant

Eating out คราวนี้เอาใจสาวชิคที่ปลื้มอาหารญี่ปุ่นกันบ้าง แต่ไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นแบบที่คุ้นเคยอย่าง ชาบู ซูชิ ซาชิมิ ราเมน หรือ ยาคินิคุ แต่เป็น โยโชคุ (Yoshoku) อาหารฝรั่งสไตล์ญี่ปุ่น นั่นคือ คนญี่ปุ่นคิดและทำอาหารฝรั่งขึ้นมาในแบบของตัวเอง ข้อดีคือ ได้กินอาหารฝรั่งที่ไม่หนักเนย นม เพราะใช้วัตถุดิบ เครื่องปรุงและส่วนประกอบต่างๆ ในแบบญี่ปุ่นๆ ซึ่งอาหารแบบโยโชคุได้รับความนิยมอย่างมากประเทศญี่ปุ่น ส่วนในบ้านเราอาจยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ครั้งนี้เลยขอแนะนำร้านอร่อยๆ อย่าง Shio Yoshoku Cafe & Restaurant
คุณแก้ว-ญาดา เรืองสุขอุดม หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านชอบและอยากทำอาหารญี่ปุ่น โดยคิดว่าถ้าอยากรู้ต้องไปเรียนที่ต้นกำเนิด จึงตัดสินใจไปเรียนทำอาหารที่ประเทศญี่ปุ่นประมาณ 2 ปี และได้รู้จักกับโยโชคุ ติดใจในความอร่อยจึงกลับมาเปิดร้านอาหารฝรั่งแบบญี่ปุ่นๆ ขึ้นมา โดยคุณแก้วดูแลเรื่องอาหาร และหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งซึ่งเรียนทำอาหารที่ญี่ปุ่นด้วยกันดูแลเรื่องเค้กและขนมหวานสูตรญี่ปุ่น
แม้โยโชคุจะเป็นอาหารฝรั่งสไตล์ญี่ปุ่น แต่รสชาติบ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นมากกว่าความเป็นตะวันตก ซึ่งนอกจากจะถูกปากคนไทยได้ง่ายกว่าแล้ว ยังอร่อยและไม่เลี่ยนด้วย เมนูอาหารบางส่วนของที่ร้านจะเป็นเมนูโยโชคุดั้งเดิม และบางเมนูคิดขึ้นใหม่ วัตถุดิบบางส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นเพื่อคงรสชาติให้เหมือนต้นฉบับนั่นเอง
ประเดิมเมนูแรกกันด้วย Salmon Carpaccio (320 บาท) แซลมอน คาปาโช แซลมอนแล่บางๆ โรยด้วยผักหลากชนิด ราดด้วยซอสพอนสึ ซึ่งต่างจากของฝรั่งที่จะโรยเกลือและบีบมะนาว แต่ที่นี่เลือกใช้ซอสญี่ปุ่นเพื่อให้สดชื่น รับประทานง่าย
จานต่อมา Kurobuta Saute’ (440 บาท) สเต็กหมูคุโรบุตะ บอกได้สั้นๆ ว่า “อร่อยมาก!” เป็นความอร่อยแบบเรียบง่าย รสชาติอาหารไม่ได้ถูกปรุงแต่งมากนัก แต่ดึงความอร่อยจากวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี ทั้งเนื้อหมูที่กรอบนอกนุ่มชุ่มข้างใน ผักเคียงที่กรุบกรอบและยังได้รสชาติสด หวาน รวมไปถึงมันฝรั่งบดที่รสชาติอ่อนๆ เรียกว่าไม่บดบังรสชาติของเนื้อหมู โดยตัวซอสทำจากซอสซีอิ๊วญี่ปุ่น
Chicken Teriyaki Truffle Steak (440 บาท) สเต็กไก่เทริยากิทรัฟเฟิลซอส เนื้อไก่นุ่มๆ บวกกับซอสทรัฟเฟิลที่ให้ความหอมสดชื่นในปากยามเมื่อรับประทานเข้าไป มีมันบด เห็ดกับมะเขือม่วงนุ่มๆ และมีต้นหอมญี่ปุ่นซอยเป็นเส้นๆ ที่นำไปทอดเข้าจนหอมเข้ากันดีกับซอส และยังเพิ่มรสสัมผัสใหม่ๆ
Dried Curry Rice (270 บาท) ข้าวแกงกะหรี่ผัดแห้ง โปะด้วย Scramble Egg เป็นข้าวแกงกระหรี่ที่เลือกทำแบบแห้งเหมาะกับคนที่ไม่ปลื้มเครื่องแกงหนักๆ เพราะมีรสชาติเบาๆ กลิ่นอ่อนๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความสนใจจากลูกค้า
ตบท้ายมื้อนี้ด้วยของหวานกันสักหน่อยกับ Shio Caramel Rare Cheesecake (150 บาท) ชิโอะคาราเมลแรร์ชีสเค้ก ซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นชีสเค้กแบบไม่อบและสอดไส้คาราเมลเยิ้มๆ เนื้อเค้กทั้งเบา ทั้งนุ่ม ทั้งหอม อร่อยสดชื่น
นอกจากอาหารจะอร่อย (มาก) จนต้องบอกต่อแล้ว บรรยากาศภายในร้านยังน่าประทับใจอีกด้วย ตกแต่งอย่างเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์นผสานความเป็นญี่ปุ่นโดยสะท้อนผ่านวัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้และหิน โดยจัดที่นั่งไว้ทั้งด้านในซึ่งเรียบนิ่งแต่อบอุ่น และด้านนอกซึ่งมีสีเขียวของต้นไม้ล้อมรอบ ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย
ถ้าใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม อยากให้ลองมาชิมอาหารญี่ปุ่นแบบโยโชคุซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเองมีมานานเป็นร้อยปีแล้ว ถือเป็นการรับวัฒนธรรมการกินจากข้างนอก จากตะวันตกแล้วมาปรับให้เป็นแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งนอกจากจะอร่อยในเชิงรสชาติแล้ว ยังเปิดมุมมองในเรื่องประเภทอาหารที่หลากหลายอีกด้วย
Shio Yoshoku Cafe & Restaurant
สุขุมวิท 49/3
เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-22.30 น.
โทรศัพท์ 0-2662-8378
www.facebook.com/shiorestaurant