5 วิธีลดความอ้วนสุดง่าย แค่ตั้งใจก็ทำได้สำเร็จ

การลดน้ำหนักนั้นเป็นด่านสำคัญที่สาวๆ หลายคนมักต้องเจอปัญหา เพราะอาจลดได้ไม่เยอะอย่างที่ต้องการ เหนื่อยท้อ ขี้เกียจ วันนี้เราจึงมีวิธีลดน้ำหนักที่จะช่วยให้คุณได้หุ่นที่สวยแบบง่ายๆ มาแนะนำกัน ดังนี้ค่ะ

1.สร้างแรงบันดาลใจ
การสร้างแรงบันดาลใจนั้นมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสื้อผ้าที่เราอยากใส่มาแขวนเอาไว้เพื่อกระตุ้นให้ตัวเองอยากลดความอ้วน หรืออาจใช้รูปดาราที่ชื่นชอบเป็นแบบอย่างว่าจะทำให้ได้เท่าเขา ก็เป็นการสร้างแรงบันดาลใจได้ดีทีเดียว

2.เลือกทานอาหาร
การทานอาหารในช่วงที่กำลังลดน้ำหนักนั้นต้องเป็นการปรับเปลี่ยนเมนู แทนการอดข้าวในบางมื้อ เช่น ในช่วงเช้านั้นอาจเน้นเป็นโปรตีนจากนมหรือโยเกิร์ต เสริมด้วยไข่ดาว ขนมปังโฮลวีท กาแฟดำอีกหนึ่งแก้ว เท่านี้ก็พร้อมสำหรับการลุยงานช่วงเช้าแล้ว หากคุณเป็นคนที่ชอบทานจุกทานจิก แนะนำให้นึ่งบร็อกโคลี่ติดตัวไปด้วย หรือจะแวะซื้อกรีกโยเกิร์ตแล้วไปแช่ที่ตู้เย็นที่ทำงานก็ได้เพื่อใช้ทานในระหว่างพักเบรก เนื่องจากเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วหากคนที่เริ่มลดความอ้วนจะต้องมีอาการโหยหิวก่อนทานอาหาร ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยลดการหิวจัดที่อาจจะทำให้คุณเผลอกินหนักในมื้อต่อไปได้ดี

3.ออกกำลังกาย
คุณควรเลือกการออกกำลังที่เหมาะสมกับตัวเอง หากคุณเป็นคนที่ตัวใหญ่มากไม่ควรหักโหมการออกกำลังกายในช่วงแรก โดยควรออกกำลังกายเบาๆ เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง เมื่อออกกำลังกายเบาๆ ได้นานมากขึ้น จึงค่อยเริ่มท่าการบริหารร่างกายที่เหมาะสม โดยส่วนมากจะเป็นการเล่น Plank เพราะไม่กระทบกับข้อต่อมากนัก และเป็นการเน้นบริหารกล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ เน้นหนักที่บริเวณกลางลำตัว หากร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อที่มากกว่าไขมันจะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น

4.ดื่มเครื่องดื่มที่เหมาะสม
เครื่องดื่มที่เหมาะสมที่สุดในช่วงลดความอ้วนคือน้ำเปล่าในอุณหภูมิห้อง การจิบน้ำเปล่าตลอดทั้งวันจะช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื่นช่วยให้เลือดลมสูบฉีดได้ดียิ่งขึ้น แต่หากคุณยังติดทานเครื่องดื่มหวานๆ อยู่ แนะนำให้ลองทานชาเขียวชงร้อนแทน และอาจเพิ่มน้ำผึ้งนิดหน่อยช่วยให้ทานได้ง่ายขึ้นและไม่อ้วนอีกด้วย

5.เลือกขนมทานเล่นให้ดี
คนที่ชอบทานขนมหวานๆ ไม่ว่าจะเป็นเบเกอรี่ต่างๆ เค้ก หรือมันฝรั่งทอด จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตรงนี้เสียใหม่ด้วยการเลือกทานขนมทานเล่นที่ใช้การอบแทนการทอด หรือจะใช้ผักนึ่งทานเล่นแทนขนมต่างๆ ก็ได้เช่นกัน

วิธีทั้งหมดนี้ล้วนปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม แต่หากคุณกลัวจะไม่ได้ผลหรืออยากได้ตัวช่วย ลองมองหาบุคลากรที่มีความรู้ไม่ว่าจะเป็นนักเวทเทรนนิ่งที่จะช่วยในเรื่องการบริหารร่างกายและการทานอาหารอย่างเหมาะสม หรือตามโรงพยาบาลก็มีคลินิกที่ให้คำปรึกษาเช่นกัน