สายแฟห้ามพลาด! "หน้ากากผ้า" ดีไซน์เก๋จากแบรนด์แฟชั่นญี่ปุ่น

จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อเมื่อต้องออกไปข้างนอกบ้าน “หน้ากากอนามัย” จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในปัจจุบัน จนเกิดการขาดตลาด และมีราคาพุ่งสูงมากจนหน้าตกใจ ทำให้ใครหลายคนหันมาสวม “หน้ากากผ้า” ที่นอกจากจะช่วยป้องกันการกระจายของเชื้อได้ ยังสามารถซักแล้วนำมาสวมใหม่ได้อีกหลายครั้ง

ประเทศญี่ปุ่นก็เช่นกัน ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นได้ใช้หน้ากากผ้ากันมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มหันมาออกแบบหน้ากากผ้าออกวางจำหน่าย สำหรับดีไซน์นั้นก็มีหลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกซื้อ ตั้งแต่แนวเรียบๆ มินิมอล หรือสีสันสดใส ไปจนถึงแนวเท่ๆ สำหรับสายสตรีท และในวันนี้เราได้หยิบยกหน้ากากผ้าจากแบรนด์ญี่ปุ่นกว่า 10 แบรนด์มาแนะนำให้ผู้อ่านได้ลองชมกันค่ะ

1. シェリー(CHERIE)
 

เริ่มต้นด้วยหน้ากากผ้าจากแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงอย่าง CHERIE เป็นลายตาราง ดีไซน์เรียบๆ แต่แฝงด้วยความน่ารัก ทำจากผ้า Seesucker เนื้อผ้าทำมาจากผ้าไหมและฝ้ายผสมกัน จึงเหมาะกับเมืองร้อน ระบายอากาศได้ดี และยังมีความทนทานแข็งแรง สามารถนำไปซักแล้วใช้ซ้ำได้นาน จำหน่ายในราคา 2,700 เยน

2. ヨシオクボ (Yoshiokubo)

 
ต่อมาที่แบรนด์ผู้ชายอย่าง ヨシオクボ (Yoshiokubo) หน้ากากผ้าดีไซน์เรียบหรู ทำจากผ้าเจอร์ซี่ เนื้อผ้ามีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา สบาย นุ่มลื่น ให้ความรู้สึกสบายขณะสวมใส่ ไม่อึดอัด หน้ากากผ้าจากแบรนด์นี้ มีทั้งหมด 2 สีด้วยกัน คือ สีดำ และสีเนื้อ จำหน่ายในราคา 2,200 เยน

3.  アンデコレイテッド（UNDECORATED）
 

หน้ากากผ้าจากแบรนด์เสื้อผ้า アンデコレイテッド (UNDECORATED) เริ่มต้นผลิตหน้ากากผ้าออกวางขายภายใต้แนวคิด “อยากจะทำอะไรดีๆ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้” นี้จุดเด่นของหน้ากากผ้าแบรนด์นี้ เป็น Unisex ใช้ได้ทั้งชายและหญิง และสามารถปรับความยาวของสายคล้องได้ วัสดุที่นำมาใช้เป็นผ้าลินิน สามารถดูดซับเหงื่อและระบายความร้อนได้ดี อีกทั้งมีความทนทานต่อการซักรีด จำหน่ายในราคา 2,200 เยน

4. フィンガリン (PHINGERIN)

 
หน้าผ้าจากแบรนด์ フィンガリン (PHINGERIN) ทำจากผ้าฝ้าย 100% ให้ความนุ่มสบายขณะสวมใส่ อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้รับกับโครงหน้าของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี และสามารถปรับความยาวสายได้ ภายในมีช่องสำหรับใส่แผ่นกรองฝุ่น PM 2.5 หรือแผ่นกรองที่ใช้สำหรับหน้ากากอนามัยได้อีกด้วย จำหน่ายในราคา 2,970 เยน

5. ヴィーエル・バイ・ウィー (VL BY VEE)
 

หน้ากากผ้าจากแบรนด์ 「ヴィーエル・バイ・ウィー (VL BY VEE) ที่ออกแบบโดยคุณวี-ฮิโรกะ ลิมวิภูวัฒน์ ดีไซน์เนอร์ลูกครึ่งไทย – ญี่ปุ่น เอกลักษณ์ของสินค้าแบรนด์นี้คือ ลวดลายและสีสันที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน สดใส ทางแบรนด์ได้ทำการออกแบบหน้ากากผ้าภายใต้แนวคิด “อยากช่วยให้รู้สึกดีในยามที่ต้องออกไปข้างนอกบ้าน”  จำหน่ายในราคา 1,980 เยน

6. ジュン オカモト (JUN OKAMOTO)
 

ที่มาของการเริ่มผลิตและจำหน่ายหน้ากากผ้าของแบรนด์ ジュン オカモト (JUN OKAMOTO) มาจากการที่คุณแม่ของคุณ Okamoto Jun ได้ส่งหน้ากากผ้าทำมือมาให้เขา เขาจึงอย่างส่งต่อความรู้สึกของการเป็นผู้ได้รับแก่ลูกค้า จึงเกิดเป็นอีกหนึ่งสินค้าของแบรนด์ขึ้นมา จำหน่ายในราคา 1,1oo เยน

7.  ダン (dan)

 
หน้ากากผ้าดีไซน์น่ารัก สามารถใช้งานได้แบบ 2 in 1 เป็นทั้งหน้ากาก และเชือกมัดผมไปในตัว เพิ่มความเก๋ไก๋ให้กับการแต่งตัว อีกทั้งยังมีผ้าหลากหลายลวดลายให้เลือก นำไปแมทช์กับเสื้อผ้าได้หลายลุคเลยทีเดียว วัสดุทำมาจากผ้าบรอด จำหน่ายในราคา 4,200 เยน

8. ミントデザインズ (mintdesigns)

 

หน้ากากผ้าแฟชั่นนี้มีชื่อว่า “to be someone” เคยเปิดตัวไปในเทศกาลออกแบบ Milan Salone เมื่อปี 2009 และถูกเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก ทาง ミントデザインズ (mintdesigns) จึงได้ผลิตและนำออกมาจำหน่าย จุดเด่นของหน้ากากผ้าจากแบรนด์นี้คือ รูปทรงที่ไม่เหมือนหน้ากากผ้าทั่วไป เป็นรูปปากลิงชิมแปนซีและปากของมนุษย์ จำหน่ายในราคา 2,800 (2 ชิ้น)

9. キューポット (Q-pot.)

 
キューポット (Q-pot.) เป็นแบรนด์ Accessories สัญชาติญี่ปุ่น สินค้าจากแบรนด์นี้ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ ต่างหู แหวาน กระเป๋า มักถูกดีไซน์เป็นรูปร่างขนมหวานชนิดต่างๆ แม้แต่หน้ากากผ้าก็ยังเป็นลายช็อกโกแลตและสตรอว์เบอร์รี่ เหตุผลที่ดีไซน์ลายนี้ออกมาเพราะทางแบรนด์มุ่งหวังให้ลูกค้าสวมใส่หน้ากากผ้าเหมือนเป็น Accessories ชิ้นหนึ่งนั่นเอง จำหน่ายในราคา 2,200 เยน

10. ミュラーオブヨシオクボ (muller of yoshiokubo)

 
แบรนด์ผู้หญิงอย่าง ミュラーオブヨシオクボ (muller of yoshiokubo) ก็ได้ผลิตและจำหน่ายหน้ากากผ้าออกมาเช่นกัน สำหรับวัสดุที่ใช้ ส่วนนอกทำจากผ้าวูลที่ดูซับความชื้อได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนที่สัมผัสกับใบหน้าเป็นผ้าฝ้าย 100％ ให้สัมผัสที่สบายต่อผิว จำหน่ายในราคา 2,200 เยน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับแฟชั่นหน้ากากผ้าของญี่ปุ่น ดีไซน์จากแต่ละแบรนด์ล้วนมีความเก๋ไก๋ ลวดลายสวยงาม ทำจากวัสดุคุณภาพ และคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของตัวของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ผู้สวมใส่สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ และนำไปแมทช์กับสไตล์การแต่งตัวของตัวเองได้อย่างหลากหลายอีกด้วย