สง่างาม..เก๋แปลกตาแบบเลเวลอัพไปกับเรือนเวลาจาก PIAGET LIMELIGHT GALA

สง่างาม..เก๋แปลกตาแบบเลเวลอัพไปกับเรือนเวลาจาก PIAGET LIMELIGHT GALA

สง่างาม..เก๋แปลกตาแบบเลเวลอัพไปกับเรือนเวลาจาก PIAGET LIMELIGHT GALA
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Piaget LIMELIGHT GALA, THE MAGIC OF BEING EXTRAORDINARY PART II

อัพเดทเรือนเวลาครึ่งปีหลังกับคอลเลคชั่น ไลม์ไลท์ กาล่า จาก เพียเจต์ ที่นอกจากจะเก๋แปลกตาแบบเลเวลอัพ แต่ละเรือนยังแฝงศาสตร์ที่เมซงเชี่ยวชาญไว้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น

 

ศาสตร์แห่งการทำทอง (The Art of Gold)

เพียเจต์ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เมซงที่เชี่ยวชาญในการคิดค้นเทคนิคเพื่อนำเสนอประกายงามของวัสดุล้ำค่าอย่าง 'ทองคำ' ให้ดูเจิดจรัสมากที่สุด ดังลวดลายที่ปรากฏบนสายรัดข้อมือของคอลเลคชั่น ไลม์ไลท์ กาล่า ที่แบรนด์บ่มเพาะความเชี่ยวชาญมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ซึ่งแรงบันดาลใจของแพทเทิร์นต่างๆ มักถ่ายทอดต้นแบบมาจากธรรมชาติ ตลอดจนความมหัศจรรย์อื่นๆ อีกมากมาย 

 

·         PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS SAPPHIRE GRADIENT (Ref.G0A45163) ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ทำจากไวท์โกลด์ที่ผสานศาสตร์แบบดั้งเดิมอย่าง 'Palace Décor' ไว้ทั้งบนสายนาฬิกาและและพื้นหน้าปัด

ขณะที่การแสวงหาอัญมณีสีที่เข้ากับเรือนเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็ถือเป็นอีกความท้ายทายอันดับต้น ๆ ที่เพียเจต์ให้ความสำคัญเช่นกัน และเพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจที่สุด การสำรวจหินสีล้ำค่าจำนวนมหาศาลจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากสีจะตรงกับความต้องการแล้ว ขนาดและคุณภาพระดับสูงก็ต้องอยู่บนมาตรฐานที่เมซงรับรองด้วยเช่นกัน

เพื่อเสริมประกายงามให้ดูเด่นขึ้นอีกขั้น แบรนด์เลือกนำเสนออัญมณีด้วยเทคนิค 'Serti Descendu' ในสไตล์แบบโอเพ่นเวิร์ค โดยร้อยเรียงแต่ละเม็ดอย่างพิถีพิถันด้วยมือ ซึ่งเทคนิคดังกล่าวช่วยเพิ่มทั้งพื้นที่แสงตกกระทบ และยังเผยให้เห็นความงามของอัญมณีเม็ดใหญ่ได้ชัดเจนกว่าการฝังลงไปในเนื้อทองแบบที่ใช้ทั่วไปในปัจจุบัน

·         PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS SAPPHIRE GRADIENT (Ref.G0A45363) กับขอบตัวเรือนประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินบริลเลียนต์คัตรวม 22 เม็ด (ราว 4.01 กะรัต) ที่โอบล้อมหน้าปัดมุกสีขาวไว้อย่างเข้ากัน เข้าคู่สายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้ม ผลิตจำกัดเพียง 88 เรือน

 

 ศิลปะการเล่นแสง (The Art of Light)

นอกจากความเชี่ยวชาญในการใช้ 'ทองคำ' แล้ว เมซงยังหลอมรวมประกายงามอันไร้ที่ติจากอัญมณีและนวัตกรรมทางด้านดีไซน์ ซึ่งล้วนเป็นทักษะชั้นเลิศที่เหล่าช่างนาฬิกาและจิวเวลรี่บ่มเพาะและส่งต่อมากว่า 140 ปี ไว้อีกด้วย อาทิ

·         PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS ROSE GOLD (Ref.G0A45161)
หนึ่งในเรือนเวลาที่รังสรรค์โดยใช้เทคนิค 'Serti Descendu' ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 4.01 กะรัต) มาพร้อมสายรัดข้อมือสีแดงเบอร์กันดี ที่ตัดกับความขาวบริสุทธิ์ของพื้นหน้าปัดมุกได้อย่างลงตัว

 

ต่อด้วย 3 สุดยอดเรือนเวลาชั้นสูง PIAGET LIMELIGHT GALA HIGH-JEWELLERY กับดีไซน์โดดเด่นของหน้าปัดรูปไข่ประดับเพชรระยิบระยับ ที่แต่ละเม็ดถูกฝังอย่างประณีตด้วยเทคนิค Snow Setting ขณะที่สายรัดข้อมือ ขาตัวเรือนและรอบหน้าปัดรายล้อมด้วยอัญมณีทรงมาร์คีส์ ช่วยเสริมภาพรวมให้ดูเก๋แปลกตากว่าดีไซน์ยุคก่อน

โดยทรงมาร์คีส์นี้ถือเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของเมซง เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสมีประสงค์ให้ช่างฝีมือเจียระไนเพชรทรงใหม่ที่สะท้อนถึงรอยยิ้มงดงามของมาดามอันเป็นที่รักอย่าง 'Marquise de Pompadour' ซึ่งปัจจุบันซิกเนเจอร์คัตเลื่องชื่อดังกล่าว ยังคงมอบประกายงามได้อย่างแตกต่างและชวนหลงใหลเช่นเคย

 

·         PIAGET LIMELIGHT GALA HIGH-JEWELLERY ทั้ง 3 เรือนมาในขนาด 28x23 มิลลิเมตร;

(Ref.G0A45170) ประดับเพชรทั้งตัวเรือน ทั้งแบบบริลเลียนต์คัต และ ทรงมาร์คีส์ รวมทั้งสิ้น 364 เม็ด (ราว 12.42 กะรัต)

(Ref.G0A45171) ผสานความงามระหว่างเพชรและแซฟไฟร์สีน้ำเงินทรงมาร์คีส์

(Ref.G0A45168) ประดับเพชรรวม 237 เม็ด มาพร้อมสายซาตินหรูสีน้ำเงิน

 

 ศาสตร์แห่งสีสัน (The Art of Colour)

หากพูดถึงเรื่องสี...มนต์เสน่ห์แห่งท้องฟ้าสีครามถือเป็นหนึ่งในโทนซิกเนเจอร์ที่แบรนด์นิยมหยิบมาถ่ายทอดเป็นชิ้นงานนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะหน้าปัดอเวนเจอรีนสีน้ำเงินเข้ม ที่ชวนให้ระลึกถึงหมู่ดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า

ชื่อของ อเวนเจอรีน 'Aventurine' มาจากภาษาอิตาลี 'Avventura' ซึ่งก็คือ 'Adventure' ที่สื่อถึงการค้นพบ อเวนเจอรีนโดยบังเอิญในช่วงศตวรรษที่ 17 ระหว่างกระบวนการผลิตแก้วที่โรงงานบนเกาะมูราโน่ เมืองเวนิส โดยปัจจุบันสีน้ำเงินของอเวนเจอรีน เกิดจากการเติม Copper Oxide ลงไปในแก้วนั่นเอง

 


·         PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS AVENTURINE GLASS ตัวเรือนไวท์โกลด์ โดดเด่นด้วยหน้าปัดอเวนเจอรีนสีน้ำเงินเข้มที่เข้าคู่สายหนังจระเข้สีเดียวกัน;

(Ref.G0A45162) ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 63 เม็ด (ราว 1.76 กะรัต ขณะที่ (Ref.G0A45152) มาในขนาด 26 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 0.87 กะรัต) ทั้ง 2 รุ่นผลิตจำกัดเพียง 300 เรือน

(Ref.G0A45180) ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 4.80 กะรัต) ด้วยเทคนิค 'Serti Descendu' ผลิตจำกัดเพียง 200 เรือน

 

ปิดท้ายด้วยความสง่างามแบบที่ใครก็ยากจะลอกเลียนกับ เรือนเวลาชั้นสูงที่มาพร้อมหน้าปัดประดับอัญมณีหายาก อย่าง แบล็คโอปอล ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องปรากฏการณ์แห่งสีสันที่ทอประกายนับไม่ถ้วนยามต้องแสง ไม่ว่าจะเป็น สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม และ สีแดง โดยอัญมณีล้ำค่านี้พบได้เฉพาะแถบออสเตรเลีย และ เอธิโอเปีย เท่านั้น

ซึ่งแบล็คโอปอลที่มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 19  ขณะที่หินล้ำค่าจากเอธิโอเปียเพิ่งถูกค้นพบเมื่อประมาณ 15 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ปัจจุบันแบล็คโอปอลที่เมซงนำมาใช้คัดสรรจากแหล่งคุณภาพในออสเตรเลีย โดยเม็ดนี้เก็บรักษาไว้กว่า 5 ปีเพื่อรอประดับบนชิ้นงานที่คู่ควร

 

·         Piaget Limelight Gala High Jewellery Black Opal (Ref.G0A45007) โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบล็คโอปอลหายาก ประดับแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัต สีน้ำเงิน รวม 86 เม็ด (ราว 5.51 กะรัต) และแซฟไฟร์ทรงมาร์คีส์ เฉดสีอื่น ๆ อีกกว่า 58 เม็ด (ราว 6.23 กะรัต) ไล่โทนสีจากเหลืองไปส้ม ก่อนปิดท้ายด้วยทับทิม 14 เม็ดงาม ที่เสริมให้ผลงานชิ้นนี้สมบูรณ์แบบมากที่สุด

  

สัมผัสเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงจากเพียเจต์ (Piaget) ได้แล้ววันนี้ ณ เพียเจต์ บูติค โดย เอส ที ไดเมนชั่น ชั้น M สยามพารากอน โทร. 02-610-9678

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook