เมื่อสามีนอกใจตอนท้อง จะรับมืออย่างไรให้ก้าวผ่านจุดนี้ไปได้

การนอกใจไม่ใช่เรื่องเล็กเลยสำหรับผู้หญิงทุกคน แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณต้องเผชิญกับสภาวะสามีนอกใจทั้งที่ตั้งท้องอยู่ ลูกน้อยที่หวังไว้ว่าจะเป็นโซ่ทองคล้องใจกลับกลายเป็นบ่วงที่ทำให้ตัดสินใจยากขึ้น จะทำอย่างไรจึงจะก้าวข้ามผ่านจุดนี้ไปได้ การตัดสินใจอย่างละเอียดรอบคอบและใช้สตินำทาง คือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับใครที่เผชิญกับภาวะนี้อยู่ วันนี้เรามีข้อคิดดีๆ ที่จะนำพาคุณมาเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กันแล้วค่ะ

1.อย่าโวยวายหรือใช้อารมณ์
ผู้หญิงหลายคนเมื่อจับได้ว่าสามีนอกใจ มักจะโวยวายและใช้อารมณ์นำหน้า ยิ่งเมื่อบวกกับอารมณ์ที่แปรปรวนตอนตั้งท้องด้วยแล้วยิ่งทำให้แก้ปัญหาด้วยอารมณ์มากยิ่งขึ้น และผลลัพธ์ที่ตามมาคือสามีเบื่อหน่าย พาลอยากหนีไปหาหญิงอื่น จำไว้ว่ายิ่งใช้อารมณ์หรือใช้ความโกรธมากเท่าไร ยิ่งเป็นการผลักอีกฝ่ายให้อยากไปไกลจากเรามากขึ้นเท่านั้น

2.เอ่ยปากให้สามีรู้ว่าคุณไม่ต้องการเป็นเมียหลวง
ผู้ชายบางคนถือโอกาสทองที่จะให้ภรรยายอมรับกลายๆ ว่าตนเองมีบ้านเล็ก โดยไม่ยอมเลิกราเพราะคิดว่าภรรยายอมได้ แต่ในมุมมองของผู้หญิง เราทุกคนต่างรู้กันดีว่าไม่มีใครอยากได้ชื่อว่าเป็นภรรยาหมายเลขหนึ่งกันหรอกค่ะ ผู้หญิงทุกคนล้วนต้องการเป็นหนึ่งเดียว แนะนำว่าตอนนี้ให้เอ่ยกับสามีว่าคุณยอมไม่ได้ที่จะให้เขามีบ้านที่สอง เพื่อให้เขาได้ตัดสินใจและเลือกว่าต้องการอยู่กับใครกันแน่

3.อย่าเสียใจ หากอีกฝ่ายไม่เลือกคุณ
มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากที่อีกฝ่ายจะไม่เลือกคุณ ดังนั้นหากคุณต้องเลิกกับสามีในขณะที่ตั้งท้อง จงตั้งสติและนึกถึงลูกในท้องให้มาก ๆ พยายามคิดว่าเขาไม่ใช่เนื้อคู่ของเรา หากเขาเลือกที่จะไปก็จงปล่อยให้เขาไป เพราะตามนิสัยคนเจ้าชู้ หากมีการนอกใจครั้งแรกแล้ว ครั้งที่ 2-3  ก็จะตามมาอย่างแน่นอน สู้เจ็บแต่จบไปจะดีกว่าทนรับสภาพภรรยาหลวงและเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก

4.ทำจิตใจให้ผ่องใส
รู้หรือไม่ว่าความเครียดตอนตั้งท้องส่งผลให้เสี่ยงต่อการแท้งได้สูง หรืออาจทำให้ลูกน้อยเติบโตช้า ติดเชื้อในครรภ์ได้ง่าย ทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกและรกหดตัว ปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังลูกในท้องลดลง นอกจากนี้ยังทำให้ทารกที่คลอดมามีอารมณ์ซึมเศร้าและถูกกระตุ้นต่อสิ่งแวดล้อมรอบด้านได้ง่าย ดังนั้นพยายามทำจิตใจให้ผ่องใส และมีกำลังใจที่จะสู้เพื่อลูกน้อยจะดีที่สุด

สำหรับใครที่เผชิญกับภาวะสามีนอกใจเมื่อตนเองตั้งครรภ์ แนะนำว่าอย่าคิดแก้ปัญหาคนเดียวนะคะ แต่ให้มองหาคนใกล้ชิดที่ไว้ใจได้เพื่อช่วยในการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณและลูกรักอย่างมีสติ แล้วคุณจะผ่านวิกฤติชีวิตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน