แค่เปลี่ยนเวลากินก็เปลี่ยนประโยชน์ของกีวี่ได้อย่างน่าประหลาดใจ

แค่เปลี่ยนเวลากินก็เปลี่ยนประโยชน์ของกีวี่ได้อย่างน่าประหลาดใจ

แค่เปลี่ยนเวลากินก็เปลี่ยนประโยชน์ของกีวี่ได้อย่างน่าประหลาดใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในญี่ปุ่นกีวี่เป็นผลไม้ที่สามารถซื้อหามารับประทานได้ตลอดทั้งปี ทั้งจากการนำเข้ามาจากประเทศนิวซีแลนด์และผลผลิตกีวี่จากจังหวัดชิกะ เอฮิเมะ และมิยาซากิ กีวี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและอี โดยเป็นหนึ่งในผลไม้ที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทาน มารู้วิธีการรับประทานกีวี่เพื่อให้ได้ผลดีต่อร่างกายอย่างน่าประหลาดใจกันนะคะ

ประโยชน์และคุณค่าอาหารในกีวี่
กีวี่อุดมไปด้วยโพลีฟีนอลและวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง วิตามินซี ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณสวยงาม เส้นใยอาหาร โพแทสเซียมและกรดโฟลิค ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับผู้หญิง นอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารแล้วกีวี่เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ โดนกีวี่หนึ่งผลให้พลังงานเพียง 46-52 กิโลแคลอรี่


วิธีการรับประทานกีวี่ให้มีประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด

วิธีการรับประทานกีวี่ให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างน่าประหลาดใจตามที่คนญี่ปุ่นแนะนำคือ การรับประทานหลังอาหารเย็น ซึ่งจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. ช่วยป้องกันและบรรเทาอาหารท้องผูกได้อย่างเป็นผลดี
โดยทั่วไปลำไส้ของคนจะเริ่มเคลื่อนตัวประมาณเที่ยงคืน การรับประทานกีวี่หลังอาหารเย็นเป็นเวลาดีที่กีวี่จะถูกย่อยในตอนที่ลำไส้กำลังเคลื่อนตัวในขณะที่เรากำลังนอนหลับ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจากกีวี่ได้ดีแล้วเส้นใยอาหารจากกีวี่ก็ยังมีผลในการช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี

2. ช่วยในการลดน้ำหนัก
การรับประทานกีวี่หลังอาหารเย็นจะมีผลทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานได้อย่างเป็นปกติในตอนกลางคืน ซึ่งช่วยเสริมการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารในขณะที่นอนหลับ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อยู่ในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก


3. สร้างผิวพรรณที่สวยงาม

กีวี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี การรับประทานกีวี่หลังอาหารเย็นจะทำให้โกรทฮอร์โมนที่หลั่งมากในช่วงก่อนเที่ยงคืนทำงานร่วมกับวิตามินซีในการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผิวหนัง ส่งผลให้มีผิวพรรณที่งดงาม


แม้ว่าจะมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายแต่ก็ไม่ควรรับประทานกีวี่มากเกินไป เพราะอาจจะส่งผลตรงข้ามในการไปก่อให้เกิดอาการท้องผูกหรือเกิดอาการแพ้จากสารบางอย่างในกีวี่ได้ การรับประทานกีวี่วันละ 1-2 ผลหลังอาหารเย็นดูจะเป็นวิธีการที่ดีเพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายที่อยากแนะนำให้ผู้อ่านลองดู นอกจากกีวี่แล้วก็สามารถรับประทานผลไม้ที่ให้พลังงานน้อยแต่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่งและส้มก็ได้เช่นกันค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook