มาดู! 5 สาเหตุใต้ตาคล้ำ ตัวการทำลายความมั่นใจสาวๆ

มาดู! 5 สาเหตุใต้ตาคล้ำ ตัวการทำลายความมั่นใจสาวๆ

มาดู! 5 สาเหตุใต้ตาคล้ำ ตัวการทำลายความมั่นใจสาวๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาการใต้ตาคล้ำของทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หลายๆ คนอาจมองว่าเป็นเพราะการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ แต่ความเป็นจริงคุณทราบหรือไม่ยังมีสาเหตุอื่นอีกที่ทำให้ใต้ตาของคุณคล้ำ วันนี้เราจึงนำสาเหตุทั้ง 5 อย่างที่ทำให้ใต้ตาคล้ำมาบอกให้คุณได้ทราบกัน ไปดูกันเลยค่ะว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง


1.ใช้มือขยี้ตามากเกินไป
การขยี้ตาอาจจะทำให้เกิดรอยตีนกาก่อนวัยได้ง่าย แต่คุณก็เผลอลงมือทำไปเสียแล้ว หากคุณทำไปนานๆ เข้า ผิวหนังใต้ตาจะเกิดความหนามากขึ้น และยังทำให้รอยคล้ำใต้ตาเกิดขึ้นอย่างถาวร จนไม่สามารถรักษาด้วยวิธีธรรมชาติได้อีกด้วย


2.จากสรีระทางร่างกาย
โดยสรีระของโครงหน้าคนที่มีขอบตาลึกหรือโหนกแก้มสูง จึงทำให้เกิดปัญหาขอบตาดำได้ง่าย หากใครที่มีโครงสร้างใบหน้าลักษณะแบบนี้จะเข้าใจในปัญหาแบบนี้ได้ดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีทั่วไปอีกด้วย โดยอาจจะต้องใช้การทำเลเซอร์ หรือเทคโนโลยีอื่นๆ มาช่วยนั่นเอง


3.อาการภูมิแพ้
ใครที่มีอาการภูมิแพ้เป็นเหมือนโรคประจำตัว คุณจะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาภูมิแพ้นั้นให้หายเสียก่อน เพราะไม่ว่าคุณจะนอนอิ่มอย่างไร หากเกิดอาการแพ้ขึ้นมาบางคนก็จะแสดงให้เห็นที่ใต้ตา ซึ่งอาจขึ้นเป็นสีเขียวจนถึงขั้นคล้ำหรือเกิดเป็นสีม่วงเลยก็มี


4.ผิวใต้ตาแห้ง
ผิวใต้ตาแห้งนั้นเกิดจากร่างกายของคุณขาดน้ำ คุณจึงต้องดื่มน้ำให้มาก ด้วยการจิบน้ำตลอดทั้งวันจิบบ่อยๆ ให้ได้ปริมาณที่ควรดื่มใน 1 วัน นอกจากนี้ก็อาจจะมีปัจจัยภายนอก เช่น อากาศแห้งจากการอยู่ในห้องแอร์ ทำให้เกิดปัญหาผิวใต้ตาแห้งและดำคล้ำได้เช่นกัน ซึ่งหากคุณต้องอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ สิ่งที่จะช่วยคุณได้ก็คือการทาอายครีมเพื่อช่วยให้ดวงตาชุ่มชื่นและเป็นการป้องกันปัญหาผิวแห้งจนเกิดการหมองคล้ำนั่นเอง


5.เกิดถุงใต้ตาจากชั้นไขมัน
ปัญหาถุงใต้ตานั้นไม่ได้แค่เพียงคนอายุมากเพียงอย่างเดียว คนที่อายุน้อยแต่มีพันธุกรรมถุงใต้ตาเยอะอยู่แล้ว ก็จะเกิดการคล้ำใต้ตาขึ้นได้ ซึ่งทางเดียวที่จะรักษาถุงใต้ตาให้หายขาดได้นั่นคือการศัลยกรรมตัดถุงใต้ตาออก เท่านี้ก็จะหมดปัญหาแล้วล่ะ

และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพักผ่อนน้อยเลย ซึ่งการรักษาแต่ละอย่างก็ต้องดูแลกันไปตามเคส บางเคสคุณอาจต้องพบหมอเพื่อทำการศึกษา และบางเคสแค่เพียงทำการบำรุงก็สามารถช่วยให้ใต้ตาสดใสขึ้นมาได้แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook