นิสัย 10 ข้อที่ควรเลิกเพราะจะทำให้คุณไม่มีความสุข
เชื่อหรือไม่ว่าบางทีคนเราไม่มีความสุขเพราะนิสัยของตนเอง การปรับเปลี่ยนนิสัย และ ทัศนคติเพียงไม่กี่ข้อก็สามารถทำให้คุณพบกับความสุข และ ความพึงพอใจในชีวิตได้ ถ้าเช่นนั้นมาดูกันว่า นิสัยอะไรบ้างที่เราควรเลิกเพื่อให้ตนเองมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น
1. เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
ทุกวันนี้โซเชียลมีเดีย ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยกว่าคนอื่นได้ตลอดเวลา เพราะในโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ผู้คนมักจะโชว์ชีวิตดีๆผ่านภาพ หรือคลิป แต่เอาเข้าจริงแล้วคุณไม่รู้เลยว่าชีวิตจริงของพวกเขาสุขอย่างที่เห็นในภาพหรือไม่ ดังนั้นควรเลิกเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่นและหันมาโฟกัสกับเป้าหมายในชีวิตตนเองก้มหน้าก้มตาทำไป เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ถึงเวลานั้นคุณจะรู้สึกว่าชีวิตของคุณดีขึ้นเอง
2. รอเวลาที่คิดว่าพร้อม
ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งของคนทั่วไป เวลาจะลงมือทำอะไรสักอย่าง มักจะรอเวลาที่คิดว่าใช่รอเวลาที่คิดว่าพร้อม ทั้งที่ความเป็นจริงนั้น ถ้าคุณคิดจะทำอะไรก็ควรลงมือทำเลย เพราะตัวเราเองนั้นรู้ศักยภาพของตนเองดี ไม่มีช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอยู่จริง มีแต่ช่วงเวลาที่ลงมือทำจริง เมื่อทำไปแล้วผลที่ได้จะบอกคุณเองว่าต้องทำอย่างไรต่อไป มัวแต่รอมัวแต่เงื้อว่า “จะทำ” คุณจะไม่มีวันได้ทำ
3.เลือกงานโดยดูที่รายได้เป็นหลัก
สิ่งสำคัญในการเลือกงานที่จะทำไม่ใช่ตัวเลขเงินเดือน หรือ ค่าตอบแทน แต่ต้องดูด้วยว่างานที่จะทำนั้นทำให้คุณก้าวหน้าเพียงใด และ เมื่อคุณได้เข้าไปเป็นพนักงานแล้วคุณจะทำงานโดยที่ไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปทำงาน แต่รู้ว่าอยากไปทำงานทุกวัน ดังนั้นการเลือกงานโดยเอาเงินเป็นตัวตั้งอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการทำงานอย่างแท้จริง
4. เก็บเอาความรู้สึกด้านลบไว้มากเกินไป
ชีวิตไม่ได้มีแต่ความขมขื่นตลอดไป ชีวิตนั้นมีทั้งหวานและขม ดื่มด่ำไปกับทุกรสชาติจะดีกว่าปล่อยให้ชีวิตของคุณตกอยู่แต่ในความขมขื่น ความรู้สึกด้านลบไม่ว่าจะเป็น ความอิจฉา ความโกรธ หรือ ความไม่พอใจ อารมณ์แบบนี้เมื่อสะสมรวมกันมากเข้าจะทำให้คุณรู้สึกว่าทุกสิ่งรอบข้างไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลย แถมยังทำให้คุณกลายเป็นคนคิดมาก กลัดกลุ้มได้แม้เรื่องเล็กน้อย ดังนั้นอย่าไปเสพติดความคิดด้านลบเพียงด้านเดียว เอาความหวานเข้าชีวิตให้มีความสุขบ้างก็จะเป็นการดี
5. วิตกกังวล หรือ เครียดมากจนเกินไป
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่อความคิดมากของตนเอง คิดไปทั้งที่ยังไม่มีมูลเหตุให้เรื่องที่คิดนั้นเป็นจริงได้ ในภาพยนตร์เรื่อง สตาร์วอร์ส นั้นอาจารย์โยดาพูดไว้ว่า “ความกลัว นำไปสู่ความโกรธ ความโกรธ นำไปสู่ความเกลียด และ ความเกลียดนำไปสู่ความสูญเสีย” ดังนั้นการเก็บเอาความวิตกกังวล ไว้กับตัวเองมากเกินไป จะทำให้คุณไม่กล้าที่จะตัดสินใจ หรือก้าวไปสู่เรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าในชีวิต
6. ติดอยู่กับอดีต
การติดอยู่กับอดีตที่ผิดพลาด และ โทษตัวเองซ้ำๆ เป็นการกระทำที่จะทำให้คุณตกอยู่ในความทุกข์ตลอดเวลา ขณะเดียวกันความทุกข์ดังกล่าวจะส่งผลกับชีวิตในปัจจุบันของคุณด้วย
7. ลืมที่จะสร้างความสุขจากความเติบโตทางด้านจิตใจและศักยภาพของตนเอง
ในชีวิตคนเรา สามารถมีความสุขได้ง่ายๆ แต่หลายคนมักจะลืมไปคือการสร้างความสุขจากสิ่งเล็กๆน้อยๆรอบตัวไม่ว่าจะเป็นการได้สิ่งของ หรือ การได้รับน้ำใจ จากเรื่องที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก รวมไปถึงการประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเล็กๆในชีวิตประจำวัน ขณะที่ความสุขเล็กๆอีกรูปแบบหนึ่งคือความสุขแบบยั่งยืน เป็นความสุขที่เกิดจากการที่คุณได้พัฒนาจิตใจ และ ตัวคุณเองให้ดีขึ้นกว่าในอดีต ความสุขในลักษณะนี้จะส่งผลต่อการมองโลกที่ดีมากขึ้น ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะหลงลืมไป
8. พยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบทันทีทันใด
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาด้วยการเริ่มต้นที่ตัวคุณ และความเปลี่ยนแปลงนั้นต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่หลายคนไม่อยากอดทนรอ อยากให้เปลี่ยนไปเลยแบบพลิกฝ่ามือ ซึ่งมีความเป็นไปได้ยาก หรือ เป็นไปไม่ได้เลย เพราะแม้แต่คุณเองก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ทันที หากแต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นต้องใช้เวลา และ เริ่มต้นที่ตัวคุณเองก่อนเพราะถ้าคุณอยากเปลี่ยนแล้วรอคนอื่นมาเริ่ม ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้
9. ใช้เวลาอยู่กับคนที่มีความคิดด้านลบมากเกินไป
จะมีคนบางจำพวกที่คอยดูดเอาพลังบวกจากคุณไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว คนเหล่านั้นคือคนที่เต็มไปด้วยพลังทางด้านลบ พวกเขาไม่เคยเห็นว่าใครจะดีไปกว่าตัวเอง ไม่เคยคิดว่าคุณอื่นดีพอสำหรับตนเอง และมักจะนำเอาพลังด้านลบมาสู่คุณโดยที่คุณเองไม่รู้ตัว เมื่อคุณอยู่กับคนประเภทนี้นานๆ คุณอาจจะรู้สึกว่าได้รับมลพิษทางอารมณ์มากจนเกินไป
10. ให้ความสำคัญกับรูปกายภายนอกมากเกินไป
“อย่าตัดสินหนังสือที่หน้าปก” คือคำจำกัดความของพฤติกรรมที่ทำให้คุณไม่มีความสุขในข้อสุดท้าย หลายคนมองคนอื่นที่รูปลักษณ์ภายนอก หรือ ผ่านโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับตนเอง ให้ความสำคัญกับเปลือกที่เห็นมากกว่าทัศนคติ หรือ วิถีการใช้ชีวิตของคนคนนั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการให้ความสำคัญกับความงามที่อยู่ภายใน สำคัญมากกว่ารูปกายภายนอกมากนัก