4 วิธีกำจัดขน พร้อมข้อดีข้อเสียที่สาวๆ ควรรู้ ก่อนตัดสินใจทำ

ถ้าพูดถึงวิธีกำจัดขน เชื่อว่าการถอนและการโกน คือวิธีที่หลายคนนิยมใช้กัน นั่นเพราะเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกำจัดขนมีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็ให้ทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป มาลองดู 4 วิธีกำจัดขนที่เราอยากให้ทุกคนได้รู้เพื่อที่จะสามารถนำปรับไปใช้กันดูค่ะ

1.การถอน

วิธีกำจัดขนด้วยการถอนถือเป็นวิธีดั้งเดิมที่จะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงได้รับความนิยม ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการถอนมีทั้งแหนบ เส้นด้าย คีม และอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถใช้ถอนเส้นขนได้ แม้ว่าการถอนสามารถทำได้ง่าย แต่ก็มีข้อเสียที่เห็นได้ชัดมากที่สุดก็คือ เจ็บและไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร ผลลัพธ์จากการถอนจะทำให้เกิดจุดแดงๆ และมีอาการคัน อีกทั้งยังอาจทำให้เจ็บจนเกิดอาการอักเสบรูขุมขนอีกด้วย หากอุปกรณ์ที่ใช้ไม่สะอาดก็อาจทำให้เกิดอาการอักเสบและเป็นฝีตามมาได้

2.การโกน

การโกนคือวิธีการกำจัดขนที่ทำได้ง่ายมากๆ ในส่วนของอุปกรณ์ที่ใช้ในการโกนมีทั้งมีดโกนและเครื่องโกนไฟฟ้า วิธีนี้อาจเป็นวิธีที่สะดวกมากและช่วยให้ประหยัดเวลา แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกมีดโกนบาดได้ บางคนอาจมีอาการแพ้ครีมที่ใช้สำหรับโกน จนทำให้เกิดอาการอักเสบ และเป็นสิวหลังจากโกน บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อจากแผลได้อีกด้วย

3.การแว็กซ์

การแว็กซ์เป็นวิธีกำจัดขนที่มีความคล้ายกับการถอน ต่างกันเพียงการใช้อุปกรณ์เท่านั้น ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการแว็กซ์มีทั้งแบบเย็นและแบบร้อน ซึ่งจะใช้วิธีการทาแล้วดึงแว็กซ์ออกมา ขนจะหลุดออกมาพร้อมแผ่นแว็กซ์ที่ดึงออก แม้จะสะดวกและง่ายมาก แต่ก็ให้ผลเสียก็คือ ขนจะขึ้นใหม่เร็ว เพราะการแว็กซ์จะเป็นแค่การดึงขนขึ้นมาแต่ไม่ได้ทำลายการสร้างขนแต่อย่างใด อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเจ็บและอาจมีจุดแดงๆ พร้อมทั้งอาการคันตามมาด้วย

4.การใช้เลเซอร์

การใช้เลเซอร์เพื่อกำจัดขน เป็นวิธีที่สามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร ซึ่งการจี้เพียงครั้งเดียวก็ส่งผลทำให้ขนงอกน้อยกว่าเดิมประมาณครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นหากจี้หลายๆ ครั้ง อาจทำให้ขนไม่ขึ้นถาวรเลย แม้จะมีข้อดีในเรื่องของการกำจัดขนได้อย่างถาวร แต่ก็มีข้อเสียอย่างมากเช่นกัน นั่นก็คือ เจ็บในขณะที่ทำเลเซอร์ เกิดอาการระคายเคือง ผิวอาจไหม้ และอาจทำให้เกิดอาการอักเสบที่รูขุมขน

การกำจัดขนแต่ละวิธีล้วนให้ทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป แม้จะเป็นวิธีที่สามารถกำจัดขนได้อย่าถาวร แต่ก็ต้องลงทุนด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงและให้ทั้งความรู้สึกเจ็บเหมือนวิธีอื่นๆ ดังนั้นควรเลือกใช้วิธีที่ตัวเองมั่นใจว่าปลอดภัยต่อผิวมากที่สุด สำคัญที่สุดก็คือควรเน้นในเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ทุกชนิด เพราะอุปกรณ์ที่มีสิ่งสกปรกติดอยู่ อาจทำให้ผิวเกิดอาการอักเสบตามมาได้นั่นเองค่ะ