วิธีทำข้าวผัดกิมจิ อาหารเกาหลีเมนูแซ่บที่คนญี่ปุ่นต่างเทใจให้
แม้ว่าเป็นอาหารประจำชาติของเกาหลีแต่คนญี่ปุ่นจำนวนมากชอบรับประทานกิมจิ เพราะนอกจากจะเผ็ดอร่อยแล้ว กิมจิก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วย มารู้ประโยชน์ของกิมจิต่อสุขภาพ และวิธีทำข้าวผัดกิมจิที่อร่อยๆ ง่ายๆ ตามแบบคนญี่ปุ่นกันนะคะ
ประโยชน์ของกิมจิต่อร่างกาย
กิมจิ (Kimchi, キムチ) เป็นหนึ่งในห้าอาหารที่ได้ชื่อว่าดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก กิมจิมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายดังต่อไปนี้
ด้านความงาม
กิมจิอุดมไปด้วยวิตามิน B2 วิตามิน C และวิตามิน A ซึ่งเป็นวิตามินที่ทำให้ผิวพรรณสวยงาม อีกทั้งยังอุดมไปด้วยบีต้า แคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันการแก่ก่อนวัย ซึ่งใครๆ ต่างก็รู้ว่ากิมจิคือเคล็ดลับความงามของผู้หญิงเกาหลี
ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้แก่ร่างกาย
ในกิมจิมีแลคติกแอซิดแบคทีเรียในปริมาณที่เทียบเท่ากับในโยเกิร์ต แต่แลคติกแอซิดแบคทีเรียในกิมจิจะมีความทนทานต่อน้ำย่อยในระบบทางเดินอาหารมากกว่าแลคติกแอซิดแบคทีเรียในโยเกิร์ต แลคติกแอซิดแบคทีเรียช่วยปรับสภาพแวดล้อมในสำไส้ที่ซึ่งสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายประมาณร้อยละ 70 ของเซลล์ภูมิคุ้มกันทั้งหมดของร่างกาย การรับประทานกิมจิเป็นประจำจึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย
ช่วยปรับสภาพแวดล้อมที่ดีของลำไส้และช่วยป้องกันอาการท้องผูก
แลคติกแอซิดแบคทีเรียหรือแลคโตบาซิลลัสที่มีความทนทานต่อน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร จะช่วยปรับสภาพแวดล้อมของลำไส้ให้ดีขึ้น และเมื่อรวมกับเส้นใยอาหารจากผักกาดขาวและผักต่างๆ ในกิมจิก็จะช่วยส่งเสริมให้ร่างกายขับถ่ายได้ดีและท้องไม่ผูก
ช่วยให้หลับได้เร็วและดี
คนเราจะหลับได้ดีหากก่อนนอนอุณหภูมิของร่างกายลดลงประมาณ 1 องศาเซลเซียส การรับประทานกิมจิเป็นอาหารมื้อเย็นหรือก่อนนอนประมาณ 2 ชั่วโมงจะทำให้สารแคปไซซินในกิมจิเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายในตอนแรกและทำให้อุณหภูมิลดลงในเวลาต่อมา ซึ่งกลไกนี้จะทำให้นอนหลับได้เร็วและหลับได้สนิทขึ้น
วิธีทำข้าวผัดกิมจิ
วัตถุดิบ (สำหรับ 2-3 คน)
- ข้าวสวย 400 กรัม
- หมูสับหรือบด 120 กรัม
- กิมจิ 120 กรัม
- กุยช่าย 40 กรัม
- ไส้กรอกหมู 2 ชิ้น
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนชา
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. หั่นกุยช่ายให้มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร หั่นกิมจิให้มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตรและหั่นไส้กรอกหมูให้มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร
2. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันงาลงไปและใส่หมูสับหรือบดลงไปผัดจนสุก เติมไส้กรอกหมูและกุยช่ายลงไปผัดเล็กน้อย ใส่ข้าวลงไปผัด เติมเกลือและผงปรุงรสไก่ลงไปและผัดให้เข้ากัน จากนั้นจึงเติมกิมจิลงไปและผัดเพียงเล็กน้อย (การเติมกิมจิลงไปผัดเพียงเล็กน้อยจะช่วยป้องกันไม่ให้แลคติกแอซิดแบคทีเรียในกิมจิตายเนื่องจากความร้อน)
3. ตักเสิร์ฟตามชอบ
หากชอบรับประทานกิมจิก็ขอบอกว่ามาถูกทางแล้วค่ะ บ้านเราหาซื้อกิมจิได้ง่ายและราคาไม่แพง อีกทั้งยังสามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน แต่หากใครหาซื้อกิมจิไม่ได้ก็อาจจะทำผักดองน้ำซาวข้าวเองก็ได้ค่ะ อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายไม่แพ้กิมจิเลย