5 วิธีจัดการสิวเม็ดข้าวสาร ทำยังไงให้สิวหลุด?!

5 วิธีจัดการสิวเม็ดข้าวสาร ทำยังไงให้สิวหลุด?!

5 วิธีจัดการสิวเม็ดข้าวสาร ทำยังไงให้สิวหลุด?!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิวเม็ดข้าวสาร เป็นอีกหนึ่งชนิดของสิวอุดตันที่เกิดแบบตื้นๆ บนผิวหน้าและมีลักษณะเม็ดแข็ง ขนาดเล็กและเกิดได้ในทุกช่วงวัย ในบางคนอาจจะมีอาการคันร่วมด้วย เกิดจากการที่เซลล์ผิวที่ตาย สิ่งปรกแล้วไม่ยอมหลุดออก รวมถึงสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางตกค้างบนผิวหน้ารวมกับไขมัน พบได้บริเวณดวงตา สันแก้ม ทำให้ยากแต่การแต่งหน้าและยังดูผิวหน้าไม่เรียบเนียน

ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำ


สิวข้าวสาร เกิดขึ้นได้จากการที่มีเซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางที่อาจจะล้างออกไม่สะอาด ทำให้อุดตันตามรูขุมขนกับไขมันใต้ผิว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ซึมลึกเข้าทำความสะอาดรูขุมขนหรือที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำความสะอาดใบหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น  ก็จะช่วยรักษาสิวและทำให้สิวต่างๆ หลุดได้เร็วขึ้นค่ะ

 


สครับผิวอาทิตย์ละครั้ง


และด้วยสาเหตุที่มีสิ่งสกปรกอุดตันตามรูขุมขนและเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่หลุดออกจากผิวหน้า สาวๆ จึงควรใช้การสครับผิวหน้าช่วยนะคะ โดยอาจจะใช้น้ำตาลทรายหรือเบกกิ้งโซดาผสมกับสมุนไพรอย่างขมิ้นหรือมะนาวขัดบริเวณสิว 30 วินาทีอาทิตย์ละครั้ง ก็จะช่วยผลัดเซลล์ผิว จำให้สิวหลุดออกได้ง่ายขึ้นด้วย


เลือกใช้โทนเนอร์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว


โทนเนอร์ที่มีสาร AHA, BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวบนใบหน้าก็ช่วยลดสิวและช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวทำให้สิวข้าวสารหลุดได้เร็วขึ้น สาวๆ ที่ผิวมีปัญหาสิวข้าวสาร ก็ใช้โทนเนอร์เช็ดบนผิวหน้าหลังล้างหน้าเป็นประจำเช้าเย็น ก็ช่วยลดเรื่องปัญหาสิวได้เช่นกัน


ทายามิโนไซคลีน เพื่อให้สิวราบลง


ยามิโนไซคลีน เป็นยารักษาสิวแบบที่ช่วยฆ่าเชื้อ ทำให้สิวยุบลงได้เร็วขึ้น สามารถนำมาใช้ทาเพื่อรักษาสิวข้าวสารได้ โดยจะต้องทายาตามคำแนะนำของเภสัชหรือแพทย์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพของยาและให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนค่า


กดสิวออก


หนึ่งในการกำจัดสิวหัวข้าวสาร สาวๆ สามารถใช้อุปกรณ์กดสิวที่สะอาดกดสิวเองได้โดยใช้เข็มเจาะที่หัวสิว แล้วกดเอาหัวสิวออกก่อนทำความสะอาดอีกครั้ง แต่ถ้าหากสาวๆ มีสิวข้าวสารเยอะมากเกินกว่า 10 เม็ดขึ้นไป แนะนำให้หมอทำให้เพื่อความปลอดภัยและลดรอยสิวหลังการกดสิวจะดีกว่าค่ะ

ใครที่มีปัญหาเรื่องสิวข้าวสารก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันได้ แนะนำว่าถ้ามีเยอะเกินไป ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุในการรักษาจะดีกว่านะคะ เพื่อความปลอดภัยและลดรอยสิวปัญหาผิวหลังจากรักษาสิวกันค่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook