อาการสายตาผิดปกติในเด็ก และการเตรียมตัวก่อนวัดสายตาอย่างถูกต้อง

การมีสายตาที่ผิดปกติในเด็กนั้น เป็นเรื่องที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม โดยปกติแล้วเด็กเล็กจะมีค่าสายตายาว เพราะด้วยขนาดของลูกตาที่เล็กและมีกระจกตาที่เล็กกว่าผู้ใหญ่ แต่เมื่อเด็กมีอายุเพิ่มขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 8 ปี ค่าสายตายาวก็จะคืนสู่สภาวะปกติ ซึ่งความผิดปกติของสายตาในเด็กนั้นเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

ความผิดปกติของสายตาเด็ก

การเกิดความผิดปกติของสายตาในเด็กนั้น สามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบ ดังนี้

1.สายตาเอียง
สายตายเอียงในเด็ก เกิดมาจากสาเหตุของการโฟกัสของกระจกตาที่โฟกัสในแนวที่ไม่เท่ากัน ทำให้เด็กต้องเอียงหน้าหรือตะแคงมองเพื่อให้ได้จุดโฟกัสที่เท่ากันนั่นเอง

2.สายตายาว
การที่เด็กมีสายตายาวมากกว่าปกติ จะทำให้ภาพที่มองเห็นนั้นเบลอ ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งเห็นไม่ชัด บางรายมีอาการสายตาเอียงข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นอาการที่มีผลทำให้เกิดภาวะตาเข หากเด็กมีสายตาที่ยาวเกินกว่าปกติ

3.สายตาสั้นหรือสายตาสั้นเทียม
อาการสายตาสั้นนั้นจะพบมากในเด็กที่จ้องสิ่งต่างๆ เป็นเวลานาน เช่น โทรทัศน์ มือถือหรือจอคอม เพราะการจ้องมองวัตถุต่างๆ ในระยะใกล้ เป็นเวลานานจะทำให้เกิดสายตาสั้นได้ ดังนั้นจึงไม่ควรให้ลูกเล่นมือถือหรือดูโทรศัพท์มากเกินไป ทั้งนี้อาจให้ลูกนั่งอยู่ห่างจากหน้าจอโทรทัศน์พอสมควร

การวัดสายตาเด็ก

การมองเห็นของเด็กเล็กโดยทั่วไปแล้วนั้น มันจะเพ่งสายตามอง ทำให้เกิดสายตาสั้นได้ แนวทางแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดสายตาสั้นคือการหยอดยาเพื่อลดการเพ่งมอง และทำการวัดสายตาเพื่อทราบค่าสายตาที่แท้จริง จากนั้นจึงทำการรักษาหรือการตัดแว่นสำหรับเด็ก

การเตรียมตัววัดสายตาเด็ก

การวัดสายตาในเด็ก จะต้องมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้

1.ตรวจสอบอาการของเด็กว่ามีไข้หรือไม่ และสังเกตว่าเด็กไม่มีการใช้สายตาในการเพ่งมอง เช่น การเรียนการสอบต่างๆ เพื่อที่จะรอรับการตรวจสายตาในวันถัดไป เพราะหลังตรวจอาจจะมองอะไรไม่ชัดเจนประมาณ 1 วัน

2.เตรียมแว่นตาดำหรือหมวกสำหรับกันแสงจากการวัดสายตา

3.หยอดตาวัดสายตาทั้งสองข้างทุกๆ 5-10 นาที และรอไปอีก 30 นาที ก็จะสามารถตรวจสายตาได้

4.ตรวจสายตา จอประสาทโดยจักษุแพทย์

5.หลังจากตรวจสายตา ไม่ควรทำกิจกรรมกลางแจ้ง เน้นการพักผ่อนในบ้าน ลดการเจอแสงแดด

ค่าสายของเด็ก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรให้ความสนใจ เพราะหากเกิดการผิดปกติจะมีผลเสียต่อเด็กได้มากทีเดียว ดังนั้นควรสังเกตว่าลูกมีสายตาที่ผิดปกติหรือไม่ และหากพบความผิดปกติก็ให้รีบไปพบแพทย์ในทันที