ครั้งแรกของ Mulberry กับการเปิดตัวกระเป๋าหนังที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การรังสรรค์กระเป๋า Portobello นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Mulberry Green ซึ่งเป็นพันธกิจของแบรนด์ในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งเน้นการสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการออกแบบ การเลือกวัสดุ และขั้นตอนการผลิตสินค้าในแต่ละคอลเลคชั่น

กระเป๋า Portobello จะถูกตัดเย็บขึ้นอย่างประณีตในประเทศอังกฤษ ในโรงงานของ Mulberry ที่ Somerset ซึ่งจะมีการชดเชยปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์เพื่อช่วยลดภาวะเรือนกระจก (carbon-neutral) โดยการตัดเย็บจะเลือกใช้หนังวัวแบบ Heavy Grain มาเป็นวัสดุหลัก ซึ่งจะเป็นวัสดุที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตอาหาร การฟอกสีหนังของกระเป๋า Portobello จะเป็นไปตามมาตรฐาน gold-rated tannery ซึ่งได้รับการการันตีจาก Leather Working Group ว่าเป็นกระบวนการฟอกสีที่เป็นมิตรต่อโลก โดยประเมินจากการดูแลสิ่งแวดล้อมระหว่างการผลิตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการฟอกสีหนัง

กระเป๋า Portobello นั้นตัดเย็บอย่างประณีตโดยปราศจากการใช้วัสดุซับใน และปักด้วยด้าย Epic EcoVerde ซึ่งเป็นเส้นใยที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล กระเป๋า Portobello จะถูกนำเสนอในรูปทรงเพรียวบางและมาพร้อมกับหูหิ้วสองข้างและสายสะพาย ซึ่งผู้ใช้สามารถหิ้วหรือสะพายครอสบอดี้ได้ตามความต้องการ

“จุดเริ่มต้นในการรังสรรค์กระเป๋า Portobello คือการเฟ้นหาไอเทมที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน ในขณะที่ถุงพลาสติกนั้นมากไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน แต่ท้ายที่สุดแล้วเราต้องโยนทิ้งไป กระเป๋า Portobello จะมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว โดยจะถูกออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายกับถุงพลาสติก หากแต่ดัดแปลงให้เป็นกระเป๋าโท้ทที่มากไปด้วยความหรูหรา และตอบโจทย์เรื่องการใช้งานไปพร้อมกัน และที่สำคัญ Mulberry ยังได้ส่งต่อความตั้งใจในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านการผลิตกระเป๋าโท้ทในครั้งนี้” Johnny Coca, Mulberry Creative Director กล่าว

กระเป๋า Portobello จะมีให้เลือกในหลากหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็นสีดำ (Black), สีน้ำเงินเข้ม (Midnight), สีน้ำตาล (Chestnut), สีฟ้า (Nordic Blue), สีแดงเข้ม​ (Crimson), สีส้ม (Tangerine Orange) และสีเขียว (Mulberry Green)

Mulberry ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถส่งต่อความตั้งใจอันดีในครั้งนี้ ควบคู่ไปกับการนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์เครื่องหนังที่มีคุณภาพระดับโลก พร้อมทั้งตอกย้ำการให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุและใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อไม่ให้หน้าที่ในการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นของผู้ซื้อสินค้าเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ Mulberry ยังจะมอบยอดขายหลังหักค่าใช้จ่ายที่ได้จากการจำหน่ายกระเป๋า Portobello ทั้งหมดให้แก่ World Land Trust องค์กรอนุรักษ์ที่จะช่วยระดมทุนเพื่อดูแลและฟื้นฟูที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ป่าที่ถูกคุกคาม

ความตั้งใจที่จะพัฒนาให้สินค้าให้มีความคงทนและมีอายุการใช้งานยาวนานไม่ได้สิ้นสุดที่ขั้นตอนการขายสินค้าภายในร้านเพียงเท่านั้น หากแต่ Mulberry ยังได้ทำเสนอบริการพิเศษในการซ่อมสินค้าทั่วโลก เพื่อให้คนได้ซ่อมกระเป๋าใบโปรดแทนการซื้อกระเป๋าใบใหม่มาทดแทน

“ผมมีความยินดีที่ได้คอยดูแลการผลิตกระเป๋าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใบแรกของ Mulberry จากพันธกิจอย่าง Mulberry Green หรือตั้งใจในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของแบรนด์ เราได้สานต่อการพัฒนานวัตกรรมทั้งในด้านการออกแบบและการผลิต เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเราจะสามารถนำเสนอสินค้าลักซ์ชัวรี่เป็นมิตรต่อโลกอย่างแท้จริงให้แก่ลูกค้า” Thierry Andretta, Mulberry CEO กล่าว