5 เทคนิคลัดช่วยลดน้ำหนักให้สำเร็จไวขึ้น ทำตามนี้ หุ่นดีอยู่แค่เอื้อม
แน่นอนว่าการออกกำลังกายส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการเผาผลาญพลังงาน แต่ทราบหรือไม่ว่าการเผาผลาญพลังงานในร่างกายจะดียิ่งขึ้น ถ้าการออกกำลังกายของเราทำได้อย่างถูกต้อง มาลองปรับการออกกำลังกายให้ถูกต้อง เพื่อช่วยกระตุ้นร่างกายให้สามารถเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมกันดีกว่า โดยเฉพาะสาวๆ คนไหนที่ลดน้ำหนักอยู่ ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ
1.ขยับร่างกายทุกๆ 15 นาที
ทราบหรือไม่ว่าแค่เพียงขยับร่างกายก็เท่ากับเป็นการออกกำลังกายแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีผลการวิจัยหลายฉบับได้มีการสนับสนุนว่า การที่ร่างกายของคนเรานั่งทำงานเป็นเวลานานต่อเนื่องกัน สามารถทำลายสุขภาพได้มากกว่าการสูบบุหรี่เสียอีก ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ต้องใช้เวลาไปกับการนั่งทำงาน ควรแบ่งช่วงเวลาสำหรับการขยับร่างกายด้วย ซึ่งแนะนำให้ลุกขึ้นเดินเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถอย่างน้อย 5 นาที ในทุกๆ 15 นาทีของการนั่งทำงาน ซึ่งปัญหานี้ทางบริษัทชั้นนำในสหรัฐอเมริกาได้มีการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในองค์กร คือ การใช้วิธีเดินประชุม หรือ Walk Meeting แทนการนั่งประชุมแบบเดิมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของพนักงานอย่างมาก
2.หมั่นเดินให้ได้มากที่สุด
การเดินคือหนึ่งในวิธีออกกำลังกายที่จะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย และยังเป็นการกระตุ้นร่างกายให้สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรเดินในแต่ละวันให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเวลาของการทำงาน สามารถใช้วิธีการเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์บ้าง หรือเลือกใช้วิธีการเดินไปซื้อของที่หน้าปากซอยแทนการขี่มอเตอร์ไซค์ รวมทั้งเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการขับรถเองบ้างเป็นบางครา ทั้งนี้ก็ควรเลือกสวมรองเท้าเพื่อสุขภาพที่ใส่เดินได้สบาย เพื่อลดโอกาสการบาดเจ็บของข้อเท้านั่นเอง
3.ใช้โปรแกรมหลัก
ในส่วนของโปรแกรมหลักนั้นควรทำวันเว้นวัน หรือจะเป็น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ที่มีอยู่ในโปรแกรมหลักก็คือ อบอุ่นร่างกาย 5 นาที และต่อด้วยการออกกำลังกายที่ชอบ ซึ่งในส่วนของการออกกำลังกายที่ชอบนั้น ควรรักษาระดับความเร็วหรือความหนักประมาณ 1 นาทีต่อเนื่องกัน แล้วจึงลดมาที่ระดับปานกลางประมาณ 1 นาทีครึ่ง ถือเป็นการนับ 1 เซ็ต ทำให้ครบทั้ง 10 เซ็ตต่อเนื่องกัน เพื่อให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยและเหงื่อออก
4.ไม่ละทิ้งโปรแกรมเสริม
โปรแกรมเสริมนั้นจะใช้สำหรับปิดท้ายโปรแกรมหลัก ซึ่งวิธีออกกำลังกายสำหรับโปรแกรมเสริมก็คือ การยืดเหยียดร่างกาย อาจจะใช้รูปแบบของการโยคะ ชี่กง หรือไทชิ ก็ได้เช่นกัน แต่ควรทำต่อเนื่อง 20 นาที เพราะโปรแกรมเสริมนั้นจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลังออกกำลังกาย และยังช่วยรักษาความสมดุลในการทรงตัว แถมยังช่วยลดโอกาสล้มในกลุ่มผู้สูงอายุอีกด้วย
5.ทำต่อเนื่อง 20 นาที
การออกกำลังกายที่ดีและช่วยกระตุ้นร่างกายให้สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้นควรทำต่อเนื่อง 20 นาที ไม่ว่าจะเลือกออกกำลังกายด้วยรูปแบบใดก็ตาม ควรทำอย่างต่อเนื่อง 20 นาที เพราะจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกล้ามเนื้อ กระดูก หัวใจ และสมองนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าการปรับวิธีออกกำลังกายให้ถูกต้องนั้น มักเน้นในเรื่องของการทำอย่างต่อเนื่อง และควรแบ่งการออกกำลังกายเป็นเซ็ตอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ดี พร้อมทั้งให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น