เปิดวิธีดูแลและเติมพลังใจให้ห่างจากภาวะเสพข่าวมากเกินไป

เปิดวิธีดูแลและเติมพลังใจให้ห่างจากภาวะเสพข่าวมากเกินไป

เปิดวิธีดูแลและเติมพลังใจให้ห่างจากภาวะเสพข่าวมากเกินไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดวิธีดูแลและเติมพลังใจให้ห่างจากภาวะเสพข่าวมากเกินไป โดย ดร. เคนท์ แบรดลีย์ ประธานที่ปรึกษาด้านสุขภาพและโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น

เนื่องในโอกาสฉลองวันสุขภาพจิตโลกประจำปี 2563 ดร. เคนท์ แบรดลีย์ ประธานที่ปรึกษาด้านสุขภาพและโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยการฝึกระเบียบวินัยให้ตัวเอง และสร้างสมดุลจากภายในเพื่อช่วยให้จิตใจสงบนิ่ง หนักแน่นมั่นคง และพร้อมรับทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะปีนี้ที่เราต้องเผชิญกับหลากหลายปัญหาความท้าทาย หลายคนต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิตจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อช่วยให้ผู้คนหมั่นดูแลจิตใจให้แจ่มใสแข็งแรงอยู่เสมอแม้ในสถานการณ์เช่นนี้ 

·       เลิกเสพข้อมูลข่าวสารแบบไม่มีหยุดพัก
การเสพข้อมูลข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมงอาจทำให้สมองล้าและเกิดความวิตกกังวลได้ ลองจัดเวลาพักเบรคจากการรับชม อ่าน หรือฟังข่าวในแต่ละวันให้เป็นประจำ


·       คิดไว้ว่าข้อมูลไม่ตายตัวเสมอไป
ในช่วงเวลาหนึ่งเราอาจรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นเพียงด้านเดียว แต่เรามักเข้าใจและสรุปแค่เพียงจากชุดข้อมูลที่เราเสพ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจจะไม่สามารถใช้ข้อสรุปเดิมได้อีกแล้ว


·       ฝึกสมาธิสงบจิตใจ
เรามักพูดถึงการทำสมาธิอยู่บ่อย ๆ แต่น้อยคนนักที่จะลงมือปฏิบัติจริง ลองฝึกสมาธิและจำคีย์เวิร์ด “6R” ไว้ในใจ ได้แก่ พักผ่อน (Rest) ทำใจผ่อนคลาย (Relaxation) หากิจกรรมสนุก ๆ (Recreation) สร้างความสัมพันธ์ที่ดี (Relationships) มีกิจวัตรประจำวัน (Routine) และปรับทัศนคติใหม่ (Reframing) สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราจัดการความเครียดและความวิตกกังวลได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย


·       สนใจเรื่องราวอื่น ๆ บ้าง
หันไปสนใจหรือคิดเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ นอกจากเรื่องโควิด-19 บ้าง โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าและมีพลังใจ


·       หัดรู้สึกขอบคุณ
เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก ความรู้สึกขอบคุณคือทัศนคติที่เรามองหาและสังเกตสิ่งรอบ ๆ ตัวที่ทำให้เรารู้สึกขอบคุณ การหัดรู้จักขอบคุณทำให้เรามีกำลังใจและช่วยพาเราก้าวผ่านความยากลำบากต่าง ๆ ไปได้


·       เชื่อมั่นในตัวเอง
มันมากกว่าแค่คิดว่าเราทำได้ แต่เป็นมุมมองความเชื่อว่าเราสามารถทำในสิ่งที่ประสบความสำเร็จได้แม้ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ความเชื่อมั่นจะทำให้เรามีความหวัง


·       ฝึกคิดว่าชีวิตมีความหมายและมีเป้าหมาย
ฝึกทัศนคติที่มองว่าชีวิตของเรามีความหมาย มีคุณค่า และมีเป้าหมายในการทำสิ่งต่าง ๆ และเราต้องทำต่อไปแม้จะล้มเหลวหรือพบอุปสรรคก็ตาม 


·       เข้าใจว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว
เข้าใจว่าเราไม่จำเป็นต้องทำสิ่งต่าง ๆ เพียงลำพัง เพราะความจริงเราไม่ได้อยู่คนเดียว มีอีกหลายคนที่เผชิญเหตุการณ์เดียวกันกับเรา และเราจะผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยกัน


·       ฝึกมองโลกในแง่บวก
ฝึกมุมมองที่มาจากอารมณ์ความรู้สึกในเชิงบวก เช่น ความรู้สึกขอบคุณ การมีเป้าหมายในชีวิต และการที่รู้ว่าเราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เราต้องใช้ชีวิตด้วยการมองโลกในแง่ดีที่ช่วยให้เรามองสถานการณ์อุปสรรคอย่างไม่เลวร้ายจนเกินไปนัก


·       อย่าลืมเติมพลังให้ร่างกาย
ร่างกายเราต้องการพลังงานเหมือนกับรถยนต์ที่ต้องการน้ำมัน เพราะพลังงานสำคัญกับสุขภาพร่างกายโดยรวม เราต้องบริโภคสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายเพื่อบำรุงเซลล์และให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


สารอาหารสำคัญเหล่านี้จะพบในอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่น่าเสียดายที่เราอาจไม่ค่อยได้รับประทานกัน โดยอาหารที่คนส่วนใหญ่รับประทานยังขาดปริมาณแมกนีเซียมและวิตามินเอ ซี ดี และอีที่เหมาะสม ตามข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก

เราต้องให้ความสำคัญกับสารอาหารที่ร่างกายต้องการและเติมเต็มสารอาหารให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้พลังงานทั้งร่างกายและจิตใจ

กดไลค์เราที่เฟซบุ๊ค พร้อมพบอีกหลากหลายเคล็ดลับดีๆ เพื่อสุขภาพที่ดีและไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง ได้ที่ www.facebook.com/HerbalifeThailandOfficial  และ www.instagram.com/HerbalifeThailandOfficial

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook