Work For More เบนซ์ พรชิตา
อาจารย์สาทิส อินทรกำแหงกล่าวเสมอว่า การทำงานให้สมดุล ตามหลักการสร้างสมดุลของปัญจกิจทั้งห้า คือ กิน นอน พักผ่อน ออกกำลังกาย และทำงาน คือต้องทำงานด้วยความสุข แต่จะมีกี่คนเล่า ที่ปฏิเสธการทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม เอให้เสร็จตามคำสั่งของหัวหน้าไปวันๆ แล้วรอรับเงินค่าตอบแทน หากมุ่งมั่นทำงานด้วยความรัก และความสนุกท้าทาย
คุณเบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา คือ หนึ่งในคนที่กำลังกล่าวถึง เธอทำงานหลายอย่าง เช่น ละคร ผู้รายงานข่าวทางทีวี พิธีกร คณะกรรมการตัดสินการประกวดโชว์ ซึ่งแม้จะยากเย็นแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยย่นระย่อ
งานสบาย
เป็นตัวของตัวเอง
คุณเบนซ์บอกเราว่า ชอบงานทุกอย่างที่ทำ เพราะแต่ละอย่างมีเสน่ห์ในตัวเอง อย่างการรายงานข่าวในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางไทยทีวีสีช่อง3 นั้นเป็นงานสบายๆ ที่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ "ไม่ลำบากเลย เพราะทีมงานจะเลือกข่าวให้ แล้วเราก็เล่าไปตามนั้น สบายใจ ไม่ไปกระทบใคร" แต่ชีวิตหนึ่งๆ คงเลือกทำเฉพาะแต่งานง่ายๆ อย่างนี้ไม่ได้ ย่อมมีงานยากรออยู่ด้วยเหมือนกัน
งานท้าทาย
สร้างสีสันให้ชีวิต
เชื่อว่าหลายคนคงกำลังติดละครเรื่องสาปพระเพ็ง ทางไทยทีวีสีช่อง 3 อย่างงอมแงม และแอบชื่นชมบทบาทนักสืบสาว ที่เคยเป็นแม่ทัพในอดีตชาติ ของคุณเบนซ์ ซึ่งแน่นอนว่า เธอสามารถละวางตัวตนส่วนตัว และเข้าถึงความเป็นตัวละครตัวนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม เหมือนเช่นที่เธอเคยทำตลอดมาในละครทุกเรื่อง เธอเล่าถึงงานละครว่า
"เวลาถ่ายละคร เบนซ์เหนื่อยมาก แต่จะมีความสุขมาก ถ้าเล่นเต็มที่แล้ว คนดูชอบ
"ทั้งที่ละครแต่ละเรื่องสร้างปัญหาให้ชีวิตเยอะ (หัวเราะ) เพราะไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง เนื่องจากเบนซ์ไม่รับบทซ้ำ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย เช่น ถ้าเป็นนางเอก ต้องเล่นอย่างนี้ตลอด หรือถ้าเป้นตัวร้าย ต้องร้ายอย่างนี้ตลอด
"ซึ่งถือเป็นโชคดีค่ะ แต่ในความโชคดีก็มีความโชคร้ายอยู่ เพราะเบนซ์ต้องค้นหามันว่า จะต้องเล่นอย่างไร เพื่อให้คนดูดูแล้วเชื่อว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ถามว่าชอบไหม ยืนยันว่าชอบค่ะ แต่ก็ยากเหมือนกัน เพราะทุกครั้งที่มีละครเรื่องใหม่ ต้องทำทุกอย่างใหม่ ต้องศึกษาตัวละครใหม่หมดเลย"
ทั้งหมดที่เธอทำนี้ เพราะต้องการสร้างความบันเทิงใจให้กับคนดู ในฐานะนักแสดงละคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสอนคนให้เรียนรู้แง่มุมอื่นๆ ของชีวิต ตามบทประพันธ์นั่นเอง
งานยาก
คือบทเรียนชีวิต
เชื่อแน่ว่า ทุกคนย่อมรู้จักรายการไทยแลนด์สก็อททาเลนท์ (Thailand's Got Talent) โดยเฉพาะซีซั่น 3 ซึ่งเพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนนี้เอง และหนึ่งในสาม (ถ้าจะว่าไปก็คือผู้หญิงคนเดียว) ของคณะกรรมการการตัดสินการประกวดโชว์ต่างๆจากผู้มากความสามารถทั่วประเทศคือ สาวเบนซ์คนนี้
ผู้ชมทั่วไปอาจเห็นเธอแต่งตัวสวย อยู่ระหว่างคณะกรรมการอีกสองคน บางครั้งก็แสดงอารมณ์และความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ผู้เข้าร่วมประกวด ซึ่งบ้างก็ถูกใจ บ้างก็ไม่ถูกใจคนดู
แน่นอน เบนซ์รู้ว่าไม่สามารถปฏิเสธเสียงในทางลบที่มีต่อตัวเธอได้ งานนี้จึงยากแสนยาก
"กดดันมากค่ะ คนมาโชว์ก็กดดัน คนตัดสินก็กดดัน ต้องระวังคำพูดมากๆ จะทำเหมือนก็อตทาเล้นท์เมืองนอกไม่ได้ บางคนบอกว่าดูของเมืองนอกแล้วสนุกจัง ทำไมดูของเมืองไทยแล้ว ไม่ค่อยสนุกเลย กรรมการตนไทยใจดี
"คือแบบไม่ดีก็ต้องบอกว่าไม่ดี โดยต้องไม่ทำให้คนทางบ้านอึดอัด คนที่อยู่ข้างหน้าเราก็ไม่อึดอัด จึงยากมากค่ะ เพราะคำพูดที่จะพูดออกไปฟังดูง่ายๆ แต่ไม่ง่ายเลย ต้องเป็นตัวเองด้วย และทำให้ทุกคนถูกใจด้วย
"เช่นบางทีเจอเด็กบางคนตั้งใจมาก มาประกวดสามปีติดกัน แต่ฝีมือยังไม่ได้เลย ลำบากใจมาก ไม่รู้จะกลั่นอะไรออกมาพูดดี ครั้นพอจะพูด แต่ดูหน้าน้อง เหมือนจะร้องไห้แล้ว อธิบายไม่ถูกอ่ะค่ะ ทำยังไงจะพูดตรงๆออกไป โดยที่เขาไม่เสียกำลังใจ"
เธอเล่าว่า ที่ตัวเองได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ เพราะมีคุณสมบัติครบตรงตามที่เจ้าของรายการต้นสังกัดจากต่างประเทศต้องการ คือสามารถแสดงอารมณ์หลากหลายออกมาทางใบหน้าได้อย่างชัดเจน และทันทีที่ดูโชว์ เช่น ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้
"เป็นงานต้องทุ่มเทมาก เช่นรอบออดิชั่น (รอบคัดเลือก) ทีมงานนัดให้มาแปดเก้าโมงเช้า เริ่มถ่ายทำสิบเอ็ดโมง เสร็จตอนตีหนึ่ง ทำอย่างนี้อยู่เป็นอาทิตย์เลยค่ะ
"เบนซ์ไม่ได้พยายามทำอะไร ก็มันเป็นแบบนี้ ถ้าถามว่าทำอะไรให้ผ่อนคลายความเครียดไหม จะมีช่วงพักกลางวัน และช่วงกินอาหารเย็นที่ทีมงานกับกรรมการได้คุยกัน ซึ่งสำหรับเบนซ์การได้พูดคุยบ้างก็โอเคแล้ว จะว่าไปช่วงรอบออดิชั่นนั่นสามารถทำให้เครียดและไม่เครียดในเวลาเดียวกัน"
คุณเบนซ์เล่าว่า เธอไม่ได้ดูแลสุขภาพอะไรเป็นพิเศษในช่วงขึงเครียดอย่างนั้น นอกจากขอน้ำขิงร้อนจากทีมงานมาดื่มเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
การเป็นคณะกรรมการในรายการยอดนิยมเช่นนี้ ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาส ฉะนั้นเมื่อได้รับโอกาสแล้ว ยากแค่ไหน ย่อมต้องฝ่าฟันไป โดยเฉพาะจากสิ่งที่เธอเล่า และเรื่องราวทั้งในแง่บวกและลบที่มีต่อคณะกรรมการหญิงคนเดียวซึ่งเราได้ยินจากสื่อต่างๆ เราเชื่อว่า ย่อมสร้างบทเรียนต่างๆมากมายให้ชีวิตได้เรียนรู้
...เรียนรู้และยังก้าวต่อไปด้วยความทุ่มเทจริงจัง
มีแต่คนเก่งที่สามารถเข้าใจปรากฏการณ์รอบตัวในสังคม และสร้างสมดุลให้ชีวิตได้เท่านั้น จึงจะทำเช่นนี้ได้
Star Tips
"เมื่ออายุเพิ่มขึ้น จะรู้สึกเลยว่าร่างกายไม่ค่อยเผาผลาญ ต้องเลือกกิน เช่น งดของทอด ลดแป้ง ถ้าเป็นไปได้ ตอนเย็นเบนซ์จะกินแต่ผลไม้อย่างเดียว แล้วออกกำลังกายโดยการต่อยมวย ซึ่งดีนะ ทำให้ร่างกายฟิต เหงื่อเยอะ ช่วยให้สดชื่น คล่องแคล่ว สบายตัว"