ซูมชุดแต่งงาน "แก้ว จริญญา" 3 ลุค 3 สไตล์ อลังการ เรียบหรู และดูเท่

สละโสดเข้าสู่ประตูวิวาห์ไปอีกหนึ่งคู่ สำหรับคู่รักสุดชิคอย่าง แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล และ โทนี่ รากแก่น ที่ได้ถือฤกษ์ดีของวันที่ 11 ธ.ค. จัดพิธีมงคลสมรส ณ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยเจ้าสาวป้ายแดงมากับชุดแต่งงาน 3 ลุคสุดปังที่ทั้งอลังการ เรียบหรู และดูเท่ เป็นตัวเองสุดๆ

>> "โทนี่-แก้ว" แถลงวิวาห์รัก เปิดใจเคลียร์ดราม่าเรื่องสีผม ขอแล้วสามีอนุญาต

เป็นคู่รักที่มองแล้วต้องอมยิ้มตาม เพราะนอกจากความรักที่หวานลงตัว การแต่งตัวแต่ละลุคของทั้งคู่ ก็ยังถูกกดไลก์แบบรัวๆ อีกด้วย รวมทั้งในวันแต่งงานที่ "แก้ว-โทนี่" ก็สร้างความแตกต่าง และถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก Sanook Women เลยรวบรวมทั้ง 3 ลุค ชุดแต่งงานของ "แก้ว จริญญา" มาให้ได้ซูมแบบเต็มๆ กัน



เริ่มที่ลุคแรกกับพิธีมงคลสมรสแบบไทยๆ ในช่วงเช้า ที่จัดขึ้น ณ THE EYRIE CLUB HOUSE เขาใหญ่ เจ้าสาวสวมชุดไทยศิวาลัยสีทอง มูลค่ากว่าครึ่งล้านบาท จากแบรนด์ Finale Wedding

โดยชุดนี้เป็นชุดที่สองนักออกแบบเสื้อผ้าชั้นสูง คุณเกสินี กล่ำอยู่สุข และคุณสุดจิตร์ สุดจิตต์ ได้เป็นผู้รังสรรค์ ความสง่างามให้

เจ้าสาวสวมชุดไทยศิวาลัย ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดไทยพระราชนิยม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง โดยโปรดเกล้าฯให้บุคคลทั่วไปสวมใส่ในพิธีวันสำคัญ เป็นหนึ่งในชุดไทยพระราชนิยม โดยมีชื่อว่า ชุดไทยศิวาลัย ตั้งชื่อตามพระตำหนัก โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้หม่อมหลวงมณีรัตน์ บุนนาค เป็นผู้ตั้งชื่อชุดไทยพระราชนิยม ทั้งแปดชุดนี้

ชุดไทยศิวาลัย ชุดนี้ได้สั่งทอด้วยความพิถีพิถัน โดยรังสรรค์เส้นไหมแท้ สั่งทอพิเศษโดยใช้ระยะเวลากว่า 3 เดือน หลังจากนั้นได้มาตัดเย็บอย่างแสนประณีต โดยใช้ทีมงานช่างปักมืออาชีพกว่า 30 ยอดฝีมือ พร้อมวัสดุอย่างดีเยี่ยม อย่างคริสตัลเพชรสวาร๊อฟสกี้ ที่สั่งมาจากออสเตรเลีย

วัสดุที่ใช้ทั้งหมด อาทิ ปล้องอ้อย โลหะคริสตัล ลูกปัดขนาดเล็กระยิบระยับ และคริสตัลสวารอฟสกี้รูปแบบต่างๆ โดยชุดไทยชุดนี้เลือกใช้คริสตัลเพชรสวารอฟสกี้รุ่น Rose Montees กระเปาะสีโรเดียม ใช้ถึง 3 โทนสีด้วยกัน

บรรจงเสกปักลวดลายผ่านเส้นไหมทีละเส้น ที่สั่งทอไหม พร้อมย้อมสีพิเศษ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดอกบัวตองหรือดอกไม้ทางภาคเหนือ เรียกว่าดอกทานตะวันป่าเป็นดอกไม้ของชาวล้านนาที่จะผลิบานและมีเสน่ห์อวดโฉมบานโต้ลมในฤดูหนาว มีกลีบดอกสวยงามล้อมรอบด้วยเกสรหลายชั้น ผสมผสานถักทอล้อมเป็นวงขึ้นไป เสมือนการมีอายุยืนนาน

ทอยกดอกด้วยมือทั้งผืน ใช้กี่พื้นบ้านล้านนาแบบดั้งเดิมในการทอ ยกตะกรอลอยเพื่อยกเส้นไหมยืนขึ้นแล้วสอดด้วยไม้ขีดตามลวดลายของผ้า จากนั้นพุ่งด้วยเส้นไหม แล้วกระทบด้วยแรงมือ เป็นผืนผ้าที่สวยงาม เป็นผ้าไหมยกดอกลำพูนเชิงหัวท้าย เป็นผ้าผืนกว้าง1 โดยการใช้เส้นพุ่ง สีโอรส สอดด้วยเกสรดิ้นทอง ถักทอลวดลายผ่านเส้นไหมทีละเส้นบรรจงลงบนผืนผ้าใช้เวลาทอประมาณ 2-3 เดือน มาประยุกต์ใช้ในการประดิษฐ์ลวดลายลงบนผืนผ้าไหมเพื่อได้ลวดลายที่ประณีตงดงาม

ตัวสไบ บรรจงปัก วาดลวดลาย ดอกบัวตองหรือดอกไม้ทางภาคเหนือ ทอยกดอกด้วยมือทั้งผืนจรดชายสไบ แต่งแต้มความวิจิตร สุดพิถีพิถัน บรรจงปักด้วยวัสดุชั้นดีเยี่ยม คริสตัลเพชรสวารอฟสกี้รุ่น Rose Montees กระเปาะสีโรเดียม ใช้ถึง 3 โทนสี และปล้องอ้อยโลหะ พร้อมลูกปัดสีทองขนาดเล็กแบบละเอียดยิบ

มูลค่าชุดนี้เกินกว่าครึ่งล้านบาท



นอกจากชุดจะงดงามอลังการแล้ว ยังได้ Juu Desara (@juudesara) มาแต่งหน้าสุดละมุน พร้อมกับ (Nadia Banjaporn) @dnadia5 มาเสกทรงผมเข้ากับลุคให้

>> "โทนี่-แก้ว" กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ฉลองมงคลสมรสตอนเย็น รถส่งตัวเจ้าสาวเก๋มาก

ในลุคที่ 2 "แก้ว-จริญญา" เปลี่ยนลุคจากชุดไทยเป็นชุดแต่งงานแบบสากลจากแบรนด์ WHITE ASAVA โดย หมู-อาซาว่า พลพัฒน์

ลุคนี้เป็นชุดแต่งงานที่เรียบหรู แต่แอบมีรายละเอียดด้วยการเป็นลูกไม้ซีทรูแอบเปรี้ยวที่ด้านหลัง เพิ่มความเป็นเจ้าสาวที่สง่ามากขึ้นด้วยเวลล์สีขาวแบบยาวลากพื้น

และเปลี่ยนลุคการแต่งหน้า ทำผมให้มีความสวยแบบธรรมชาติ เป็นตัวของ "แก้ว" มากขึ้น กลายเป็นเจ้าสาวที่สวยละมุนลงตัวเป็นที่สุด

ปิดท้ายที่ลุคสุดท้ายในช่วง After Party เจ้าสาวสลัดลุคเป็นตัวของตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยลุคสบายๆ พร้อมลุยปาร์ตี้ ด้วยการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อยืด จับเข้ากับกระโปรงสั้นสีขาวแบบฟูฟ่อง พร้อมกับรองเท้าบูท ที่เพิ่มความเท่ให้เจ้าสาวในค่ำคืนแสนพิเศษ