หลุยส์ วิตตอง พลิกหน้าประวัติศาสตร์ ค้นพบเพชรขนาดใหญ่และคุณภาพดีที่สุดของโลก

หลุยส์ วิตตอง สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการจิวเวลรี่ถึง 2 ครั้ง ในปี 2020 กับการค้นพบและเป็นเจ้าของเพชรขนาดใหญ่ 2 เม็ด คือเพชร Sewelo และ เพชร Sethunya

เพชร Sewelo
ครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลุยส์ วิตตอง ได้เข้าซื้อเพชรดิบขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีขนาดถึง 1,758 กะรัตหรือเท่าลูกเทนนิส (352กรัม) ซึ่งได้รับการขนานนามว่า Sewelo มีความหมายว่า "หายาก" ในภาษาเซตสวานา ภาษาของประเทศบอตสวานา ในทวีปแอฟริกาที่ซึ่งถูกค้นพบ โดยจากการประเมินน่าจะมีอายุกว่า 2 พันปี

เพชร Sethunya
นอกจากจะมีขนาดใหญ่มากเป็นพิเศษ ยังโดดเด่นในเรื่องของคุณสมบัติเพชรที่มีรูปร่าง สี องค์ประกอบที่ไร้ที่ติ และผ่านเทคโนโลยีชั้นสูงในการขุดค้นพบเพื่อทำให้ไม่มีการแตกหักระหว่างขั้นตอน ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการร่วมงานระหว่างแบรนด์แฟชั่นอย่าง หลุยส์ วิตตอง และบริษัทเหมืองเพชร Lucara Diamond Corporation และบริษัท HB Antwerp ผู้เชี่ยวชาญในการเจียระไนเพชรจากประเทศเบลเยียม เพื่อนำไปสร้างสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงของหลุยส์ วิตตอง ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวล้ำโดยเฉพาะ

ส่วนหนึ่งของเครื่องประดับ หลุยส์ วิตตอง คอลเลกชั่น Stellar Times
และล่าสุดกับการสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการจิวเวลรี่ทั่วโลกอีกครั้งเมื่อหลุยส์ วิตตอง ซื้อเพชรเม็ดโตขนาด 549 กะรัตชื่อ Sethunya โดยเป็นเพชรดิบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก ประเมินว่ามีอายุราว 1 – 2 พันปี มีความโดดเด่นในเรื่องของความบริสุทธิ์ ความขาวใสไร้ที่ติ ราวกับก้อนหินน้ำแข็ง หากนำมาเจียระไนจะได้เพชรแบบ LV Cut ขนาดเม็ดละ 100 กะรัต เป็นจำนวน 2 เม็ด หรือเพชรคัตแบบคลาสสิคได้ใหญ่สุดถึง 200 กะรัตในเม็ดเดียว ชื่อของ Sethunya ยังมีความหมายว่า "ดอกไม้" ในภาษาเซตสวานา ซึ่งสอดคล้องกับสัญลักษณ์ดอกไม้จากโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตองอีกด้วย

ส่วนหนึ่งของเครื่องประดับ หลุยส์ วิตตอง คอลเลกชั่น Stellar Times
การเดินทางและการค้นพบของหลุยส์ วิตตอง กับเพชร 2 เม็ดขนาดใหญ่ Sewelo และ Sethunya นับเป็นหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ให้กับวงการเครื่องประดับชั้นสูง รวมทั้งยังตอกย้ำเรื่องศิลปะความประณีตในการรังสรรค์ชิ้นงานที่สามารถเจียระไนเพชรออกมาในรูปแบบ Made-to-order ให้กลายเป็นเพชรหลากขนาดและรูปทรงตามความต้องการ พร้อมทั้งนำไปผสานในการดีไซน์เครื่องประดับจิวเวลรี่ชั้นสูงต่อไปให้เป็นชิ้นงานที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น โดยทุกขั้นตอนของการทำงานของช่างฝีมือจะมีความโปร่งใส ลูกค้าจะได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบรังสรรค์ผลงานอันล้ำค่าเพื่อเป็นเรื่องราวน่าจดจำที่สำคัญของชีวิต

ส่วนหนึ่งของเครื่องประดับ หลุยส์ วิตตอง คอลเลกชั่น Stellar Times
ส่วนหนึ่งของเครื่องประดับ หลุยส์ วิตตอง คอลเลกชั่น Stellar Times
หลุยส์ วิตตอง ยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรรูปแบบการเจียระไนเพชร LV Cut และ Flower Cut ที่ได้เริ่มพัฒนานวัตกรรมมาตั้งแต่ก่อนการเปิดตัวของจิวเวลรี่ชั้นสูงของหลุยส์ วิตตองคอลเลกชั่นแรกในปี 2008 โดยเป็นเทคนิคพิเศษในการเจียระไนเพชรให้เป็นรูปดอกไม้จากลวดลายโมโนแกรมของหลุยส์ วิตตองเฉพาะเท่านั้น 

ส่วนหนึ่งของเครื่องประดับ หลุยส์ วิตตอง คอลเลกชั่น Stellar Times