5 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Hermès แบรนด์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศส

5 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Hermès แบรนด์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศส

5 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Hermès แบรนด์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในยุคเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์สัญชาติฝรั่สเศสที่โดดเด่นด้วยโลโก้รูปม้าและรถม้าที่อยู่บนถุงและกล่องสีส้มอย่าง Hermès หลังจากที่ก่อตั้งมานานนับ 183 ปี ผลงานฝีมือทั้งด้านเครื่องหนังและแฟชั่นของแฟชั่นเฮ้าส์นี้ก็ไม่เคยเป็นสองรองใคร นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้ออกผลิตภัณฑ์อย่างของแต่งบ้าน เครื่องประดับ ผ้าพันคอและคราแวตออกมาเอาใจสาวกแบรนด์อีกด้วย ถึงแบรนด์นี้จะอยู่คู่วงการแฟชั่นมายาวนาน แต่ก็มีหลายอย่างที่คุณอาจจะยังสงสัยเกี่ยวกับแฟชั่นเฮ้าส์แห่งนี้ บาซาร์จึงได้รวบรวม 5 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Hermès มาเสริฟ์ให้คุณถึงที่แล้ว




1. แบรนด์ที่สืบทอดในสายเลือด


เริ่มจากประวัติของครอบครัวที่เริ่มจาก Thierry Hermès ผู้ริเริ่มก่อตั้งเวิร์คช็อปในปี 1837 ก่อนจะส่งต่อให้ลูกชาย Charles-Émile Hermès และรับช่วงต่อด้วยหลานชาย 2 คน Adolphe กับ Émile-Maurice จากนั้นลูกเขย Robert Dumas ก็ได้รับช่วงต่อหลังจากที่ Émile-Maurice เสียชีวิต ซึ่งเขาเป็นผู้สืบทอดคนแรกที่ไม่ใช้สายเลือดโดยตรงจาก Hermès แต่ผ่านจากการแต่งงานแต่ เมื่อเขาได้คุมบังเหียนของแบรนด์นี้อย่างเต็มตัว เขาก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้ชื่อ Hermès ต่อไปและจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Dumas-Hermès แทน


2. จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
 

Hermès เริ่มต้นจากการก่อตั้งเวิร์คช็อป เครื่องเทียมม้าที่กรุงปารีสเมื่อปลายยุค 1800 ที่ทำขึ้นสำหรับลูกค้าเชื้อสายยุโรปชั้นสูงโดยเฉพาะ งานฝีมือสุดประณีตบรรจงของพวกเขาทำให้แบรนด์ได้รับรางวัลมากมาย 40 ปีให้หลัง พวกเขาก็ได้สร้างสรรค์อานม้าเพิ่มขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์อีกรายการ ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในหมู่จักรพรรดิรัสเซีย นั้นจึงเป็นที่มาของโลโก้รูปม้าและรถม้าที่ทางแบรนด์ยังใช้จนถึงทุกวันนี้


3. สิ่งที่ Hermès ทำเพื่อความรัก
 

กระเป๋าหนังคอลเลกชั่นแรกของ Hermès ถูกรังสรรค์ขึ้นโดย Émile-Maurice ด้วยฝีมือของเขาเมื่อปี 1922 หลังจากที่ภรรยาของเขาไม่สามารถหากระเป๋าที่เธอถูกใจได้ทั่วทั้งกรุงปารีส ถ้านั้นไม่ใช่ความรัก ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว!


4. เบื้องหลังของกระเป๋า Birkin และ Kelly
 

อย่างที่รู้กันว่ากระเป๋าสุดไอคอนิค 2 รุ่น ของแบรนด์ก็คือ ‘Hermès Birkin’ และ ‘Hermès Kelly’ ที่ตั้งชื่อตาม Jane Birkin และ Grace Kelly แต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะรู้ว่ากระเป๋ารุ่น ‘Kelly’ มีชื่อแบบนั้น หลังจากที่กระเป๋าหนัง ‘Sac à dépêches’ ได้ถูกเผยโฉมให้โลกได้รู้จักเมื่อปี 1935 ในปี 1956 ก็มีเหตุที่ทำให้ทางแบรนด์ต้องเปลี่ยนชื่อกระเป๋าหลังจากที่มีภาพอันโด่งดังของ Grace Kelly เจ้าหญิงแห่งโมนาโกถือกระเป๋า ‘Sac à dépêches’ ด้านหน้าเพื่อปกปิดการตั้งครรภ์ของพระองค์ ส่วน Birkin มี่เรื่องราวที่แตกต่างออกไป ไอเดียและคอนเซ็ปต์ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาโดย Jean-Louis Dumas กับ Jane Birkin ในขณะที่ทั้งคู่กำลังขึ้นเครื่องบินไปยังกรุงลอนดอน กระเป๋ารุ่น Birkin ที่ราคาแพงที่สุดก็คือรุ่นหนังจระเข้ในราคา $432,000 (12,887,424 บาท) ที่เป็นรุ่นสั้งทำพิเศษสุดๆ อย่างไรก็ตามกระเป๋ารุ่น Birkin และ Kelly ก็ได้กลายเป็นไอดท็มที่บ่งบอกระดับของคนที่ถือ ทั้งในแง่ชนชั้นและแฟชั่นได้อย่างชัดเจน และทั้งคู่ยังของเป็นรุ่นที่ขายดีของ Hermès ตราบจนทุกวันนี้


5. แพ็กเกจที่บอกเล่าเรื่องราว
 

หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของแบรนด์ก็คือบรรดากล่องสีส้มสุดไอคอนิคของ Hermès ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นสีครีมและขอบที่มัสตาร์ด ส่วนตอนนี้กล่องถูกสร้างขึ้นจากหนังหมูสีส้มและของสีน้ำตาล กล่องสีส้มใบแรกถูกเผยโฉมหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง (WWII) ด้วยเหตุผลที่ว่าทางแบรนด์ขาดวัสดุสำหรับทำกล่องสีครีม จากนั้นเจ้ากล่องสีส้มก็ได้รับรางวัลออสการ์ในปี 1994 ซึ่งปัจจุบันกล่องสีส้มเหล่านี้มีมากกว่า 188 ไซส์ 

กว่าจะมาเป็นแบรนด์ Hermès ได้อย่างทุกวันนี้ ก็ได้มีการลองผิดลองถูกและผ่านอุปสรรคหลายอย่างมาเช่นกัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและไม่ย่อถอย แฟชั่นเฮ้าส์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศสจึงได้แทนเป็นแบรนด์ระดับแถวหน้าในวงการแฟชั่นได้อย่างสง่างาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook