เทคนิคมาสก์หน้าให้ปังไม่ใช่พัง พร้อมแนะนำมาสก์ผักยอดฮิตจากญี่ปุ่น

แผ่นมาสก์หน้าเป็นนวัตกรรมด้านความงามที่สะดวกและง่ายสุดๆ เลยก็ว่าได้ แค่เอามาแปะบนหน้า ทิ้งไว้ไม่นานก็ช่วยบำรุงผิวหน้าได้ทันตาเห็น แต่ด้วยความที่มันง่าย ทำให้หลายคนอาจจะใช้มาสก์แบบผิดๆ ด้วยความเคยชินอยู่ จนทำให้มาสก์หน้าไปแบบเปล่าประโยชน์ก็ได้! ถ้าไม่อยากมาสก์หน้าแบบผิดๆ จนเคยชิน ลองมาดูเทคนิคการมาสก์หน้าที่ได้ผลและจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของเพื่อนๆ ได้กันดีกว่าค่ะ

ขั้นตอนการมาสก์หน้าให้ได้ประโยชน์สูงสุด

1. คลีนซิ่ง
ก่อนใช้มาสก์ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าหน้าของเราสะอาดจริงๆ เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดแล้วล้างหน้าให้สะอาดเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและความมันบนผิวหน้าออกไป

2. โทนเนอร์
เมื่อล้างหน้าสะอาดแล้ว จึงใช้โทนเนอร์บำรุงผิวขั้นต้น

3. มาสก์หน้า
มาสก์หน้าต่อจากโทนเนอร์ได้เลย โดยใช้แทนเอสเซนส์หรือเซรั่มที่เราใช้เป็นประจำเลยก็ได้ แต่ทั้งนี้ควรอ่านรายละเอียดการใช้มาสก์ประกอบด้วย เนื่องจากมาสก์บางประเภทจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากใช้หลังลงเอสเซนส์หรือเซรั่ม

4. ครีมบำรุง
ใช้ครีมบำรุงผิวปิดท้ายเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวเอาไว้ โดยเฉพาะคนที่ผิวแห้งต้องระวังไม่ลืมขั้นตอนนี้

ตอบคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการมาสก์หน้า


Q: ควรมาสก์หน้าบ่อยแค่ไหน

A: ปกติเพื่อนๆ มาสก์หน้ากันบ่อยแค่ไหนคะ สัปดาห์ละครั้ง สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือทุกวัน? ที่จริงแล้วความถี่ที่เหมาะสมสำหรับการมาสก์หน้านั้นขึ้นอยู่กับประเภทของมาสก์ที่เราใช้ ซึ่งปกติแล้วมักจะมีระบุไว้ที่ห่อแพ็กเกจ มาสก์บางประเภท เช่น มาสก์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดริ้วรอยหรือช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสมักจะมีปริมาณสารออกฤทธิ์สูง ใช้ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพราะหากใช้บ่อยๆ อาจทำให้ผิวหน้าได้รับสารเหล่านี้มากเกินไป และส่งผลให้สภาพผิวโดยรวมแย่ลงได้ ส่วนมาสก์ที่มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมักจะมีปริมาณสารออกฤทธิ์น้อยกว่า ทำให้สามารถใช้ได้บ่อยกว่านั่นเอง

Q: มาสก์ทิ้งไว้นานแค่ไหนดี?

A: บางคนอาจจะชอบแปะมาสก์ทิ้งไว้นานๆ บางทีก็นานกว่าที่ระบุไว้ที่แพ็กเกจ เพื่อหวังเพิ่มประสิทธิภาพของมาสก์ แต่การทำแบบนี้มีข้อควรระวังคือ ถ้าทิ้งไว้นานเกินไปจนมาสก์แห้ง แทนที่จะได้ความชุ่มชื้น หน้าเราอาจจะแห้งกว่าเดิมเพราะมาสก์จะดูดน้ำจากหน้าเรากลับไป มาสก์แต่ละประเภทและยี่ห้อมีเวลาในการใช้แตกต่างกันไป บางประเภทอาจให้ทิ้งไว้นาน 15-20 นาที แต่บางประเภทแค่ 5 นาทีก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นเราควรอ่านวิธีการใช้มาสก์ตามที่ระบุไว้ที่ห่อแพ็กเกจจะดีที่สุด

เผลอทำอยู่หรือเปล่า? ข้อควรระวังในการใช้มาสก์หน้า

เก็บมาสก์โดยการวางแนวตั้ง
สำหรับคนที่มาสก์หน้าเป็นประจำก็คงจะมีตู้หรือมุมเก็บมาสก์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยตั้งมาสก์ซ้อนๆ กันเป็นแนวตั้งเหมือนในร้านค้า แต่การเก็บมาสก์แบบนี้จะทำให้สารบำรุงต่างๆ ในมาสก์ลงไปกองด้านล่างหมด เมื่อแกะออกมาใช้จึงทำให้ผิวหน้าไม่ได้รับสารบำรุงอย่างทั่วถึง กลายเป็นว่าเสียมาสก์ไปเปล่าๆ อย่างน่าเสียดาย แทนที่จะเก็บมาสก์สวยๆ แบบในร้านค้า เปลี่ยนมาวางมาสก์แนวนอนราบไปกับพื้นดีกว่าค่ะ

เก็บมาสก์ไว้ในตู้เย็น
อากาศร้อนๆ อาจทำให้หลายๆ คนอยากมาสก์หน้าเย็นๆ เพื่อความสดชื่น แต่การเก็บมาสก์ไว้ในตู้เย็นมีข้อเสียอยู่ค่ะ การแปะมาสก์ที่เย็นจัดบนใบหน้าจะทำให้รูขุมขนของเราหดตัว ส่งผลให้สารบำรุงต่างๆ ในมาสก์ซึมซับเข้าสู่ผิวได้ไม่ดี กลายเป็นลดประสิทธิภาพของมาสก์ไปอย่างน่าเสียดาย

ไม่อ่านวิธีใช้เพราะคิดว่ามาสก์ไหนๆ ก็ใช้เหมือนกันหมด
ข้อนี้เป็นความเชื่อที่ผิดร้ายแรงเลยนะคะ เพราะมาสก์แต่ละประเภทจะระบุวิธีการใช้เอาไว้อย่างชัดเจน บางประเภทอาจให้ใช้หลังล้างหน้าได้เลย แต่บางประเภทก็ให้ใช้หลังลงโทนเนอร์ และก็มีมาสก์ที่ระบุวิธีใช้แบบเฉพาะเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงเวลาในการใช้มาสก์ที่ต่างกันอีกด้วย ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่การใช้มาสก์อย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะ

ใช้มาสก์ที่ไม่ตรงกับสภาพผิวของเรา
อาจจะไม่ได้ร้ายแรงเมื่อเทียบกับข้อควรระวังอื่นๆ แต่การใช้มาสก์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของเราก็อาจจะทำให้เราไม่ได้ผลลัพธ์ดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังจะทำให้เสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ด้วย ดังนั้นก่อนซื้อมาสก์ครั้งต่อไป ลองเช็คดูนะคะว่ามาสก์ประเภทไหนเหมาะกับสภาพผิวหรือตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด

เลือกมาสก์ให้เข้ากับผิวเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งกว่า

สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ใช่กูรูด้านความงาม การเลือกมาสก์ที่ตรงกับสภาพผิวของเราอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากเราจะต้องรู้สภาพผิวของตัวเองแล้ว ยังต้องรู้ด้วยว่ามาสก์แบบไหนที่เหมาะกับผิวของเรา ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่จะทำแยกประเภทออกมาให้เราเลือกแบบชัดเจน กลายเป็นความลำบากของผู้ใช้มาสก์แบบเราๆ ไป…

แต่มีมาสก์ยี่ห้อนึงที่ตอบโจทย์นี้ได้ดีสุดๆ เลยค่ะ เป็นมาสก์ผักของ @cosme ร้านเครื่องสำอางและสกินแคร์จากญี่ปุ่นที่มาเปิดสาขาในไทยแล้ว มาสก์เค้ามีหลายสูตรแบ่งเป็นผักชนิดต่างๆ ตามสภาพผิวที่แตกต่างกัน ลองมาดูรายละเอียดแต่ละสูตรกันเลย

สูตรมันม่วง (ROOT VEGETABLE FACE MASK SWEET POTATO)

ช่วยจัดการปัญหาผิวแห้งเสียปกป้องการเกิดริ้วรอยให้ผิวกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นพร้อมเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวนุ่มลื่นด้วยสารสกัดจากมันม่วงจากจังหวัดคุมาโมโตะ และมีไฮยาลูรอนที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิว

สูตรหน่อไม้ (ROOT VEGETABLE FACE MASK BAMBOO SHOOT)

ช่วยปกป้องการเกิดสิวเสี้ยนสิวอุดตันให้ลดน้อยลงผิวกลับมากระชับเรียนเนียนขึ้นยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและฟื้นฟูริ้วรอยให้กระชับด้วยสารสกัดจากหน่อไม้แห่งจังหวัดเอฮิเมะ และมีไฮยาลูรอนที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิว

สูตรรากบัว (ROOT VEGETABLE FACE MASK LOTUS ROOT)

ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย เหมาะกับคนผิวแห้ง

สูตรแครอท (ROOT VEGETABLE FACE MASK CARROT)

ช่วยกระชับรูขุมขน แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เหมาะกับทุกสภาพผิว มาสก์ตัวนี้ช่วยจัดการปัญหารูขุมขนที่แห้งกว้างให้กลับมากระชับเรียบเนียนและชุ่มชื่นขึ้นด้วยสารสกัดจากแครอทจากเกาะโอกินาว่า มีวิตามินซี ช่วยให้ผิวกระจ่างใสเนียนนุ่ม นอกจากนี้ยังมีไฮยาลูรอนที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวอีกด้วย

สูตรรากขิง (ROOT VEGETABLE FACE MASK GINGER)

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นอย่างเข้มข้นเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องผิวแห้งความหมองคล้ำและความเหนื่อยล้าบนใบหน้าด้วยสารสกัดจากขิงแห่งจังหวัดโคจิ ช่วยให้หน้าใสนุ่มชุ่มชื่นยิ่งขึ้นและมีไฮยาลูรอนที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่น

สูตรหัวไชเท้า (ROOT VEGETABLE FACE MASK WHITE RADISH)

ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยและมีไฮยาลูรอน เหมาะกับคนผิวมัน มาสก์ตัวนี้เป็นสารสกัดจากหัวไชเท้าจากจังหวัดเกียวโต ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ช่วยบาลานซ์ความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและมีไฮยาลูรอนที่ช่วยกักเก็บความนุ่มชุ่มชื่นให้แก่ผิว ไม่ใส่แอลกอฮอล์ ไม่ใส่พาราเบน จึงอ่อนโยนต่อผิวพรรณ

ตารางสรุปมาสก์ผักที่เข้ากับผิวประเภทต่างๆ


เป็นยังไงบ้างคะ พอจะได้ไอเดียคร่าวๆ แล้วเนอะว่าเราควรจะมาสก์หน้าอย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต่อจากนี้ไปเชื่อว่าเพื่อนๆ จะเป็นเทพด้านการมาสก์หน้าและได้รับประโยชน์จากมาสก์ที่ใช้อย่างสูงสุดแน่นอน!

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่มั่นใจว่าผิวตัวเองเป็นแบบไหน เหมาะกับมาสก์อะไร ก็สามารถไปตรวจเช็คสภาพผิวและเลือกมาสก์ผักที่เหมาะกับผิวของเราที่ร้าน @cosme store สาขาสยามเซ็นเตอร์ได้นะคะ มีสตาฟผู้เชี่ยวชาญด้านผิวรอต้อนรับและให้คำแนะนำทุกคนอยู่ค่ะ

*เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โปรดตรวจสอบกับทางร้านเกี่ยวกับกิจกรรมทดสอบสภาพผิวล่วงหน้า