6 สาเหตุที่ทำให้เลือดออกขณะตั้งครรภ์ เรื่องสำคัญที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้

6 สาเหตุที่ทำให้เลือดออกขณะตั้งครรภ์ เรื่องสำคัญที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้

6 สาเหตุที่ทำให้เลือดออกขณะตั้งครรภ์ เรื่องสำคัญที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาการเลือดออกในขณะตั้งครรภ์ถือเป็นอาการที่สร้างความกังวลใจกับคุณแม่ที่กำลังท้องเป็นอย่างมาก แม้ว่าอาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์จะมีทั้งก่อให้เกิดอันตรายและไม่อันตรายกับลูกในครรภ์ก็ตาม แต่สำหรับคนเป็นแม่ย่อมต้องกังวลเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้เราจึงนำ 6 สาเหตุที่มีส่วนทำให้คุณแม่มีเลือดออกขณะตั้งครรภ์มาฝากกันค่ะ โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่จำเป็นที่จะต้องรู้ เพื่อสามารถรับมือและเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์ได้


1.การฝังตัวของตัวอ่อน
สาเหตุแรกที่ทำให้คุณแม่เลือดออกขณะตั้งครรภ์คือเกิดจากการที่ตัวอ่อนไปฝังตัวที่โพรงมดลูก และอาจไปโดนเส้นเลือดฝอยจนทำให้เส้นเลือดฉีกขาดและมีเลือดไหลออกมา ซึ่งลักษณะเลือดที่ออกมาจะมีสีแดงอ่อนๆ ออกแบบกะปริดกะปรอย ไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด ซึ่งจะเกิดประมาณ 3 สัปดาห์หลังมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย อาการนี้ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นอาการที่ส่งสัญญาณบอกให้รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์


2.ช่องคลอดติดเชื้อ
ร่างกายที่อยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์นั้น ฮอร์โมนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยจะมีฮอร์โมนเพศหญิงสูงขึ้น จึงทำให้มีตกขาวมากขึ้นกว่าเดิม อาการนี้ทำให้ช่องคลอดเกิดการอับชื้นและอาจส่งผลทำให้ติดเชื้อจนเป็นแผลอักเสบได้ จากนั้นจะทำให้เลือดไหลออกมา ทั้งนี้สาเหตุเลือดออกที่เกิดจากช่องคลอดติดเชื้อไม่มีอันตรายต่อลูกในครรภ์แต่อย่างใด


3.รกเกาะต่ำ
เลือดออกในขณะตั้งครรภ์ที่เกิดจากการที่รกเกาะต่ำนั้น โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้ายหรือก่อนคลอด ซึ่งรกมาเกาะที่บริเวณส่วนล่างของมดลูก อยู่ใกล้กับปากมดลูกหรือไปปิดปากมดลูกจนทำให้เลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาการเลือดออกนั้นจะเริ่มไหลทีละนิดไปจนถึงออกมามาก หากรักษาไม่ทัน จะทำให้มดลูกเกิดการบีบตัวและทำให้ปากมดลูกเปิด จนเกิดปัญหาตกเลือดหรือคลอดก่อนกำเนิด


4.ท้องนอกมดลูก
สาเหตุนี้เกิดจากการที่ตัวอ่อนไม่ได้ฝังตัวที่โพรงมดลูก แต่กลับไปฝังตัวอยู่นอกโพรงมดลูกแทน อย่างเช่น ค้างอยู่ที่ท่อนำไข่ เมื่อตัวอ่อนเกิดการเจริญเติบโต ทำให้อวัยวะในส่วนนั้นไม่สามารถรองรับได้ จนส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องน้อยหนักมาก แต่อาการปวดจะมาเป็นระยะๆ พร้อมทั้งมีเลือดออกในช่องท้องปริมาณมากจนกดทับใต้กระบังลม ส่งผลให้คุณแม่มีอาการปวดร้าวหลัง วิงเวียนศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว ความดันต่ำ มีเลือดออกที่ช่องคลอด และแท้งจนเสียเลือดมากถึงขั้นเกิดอาการช็อกได้ แต่ภาวะนี้พบได้น้อยมากในกลุ่มคนตั้งครรภ์


5.แท้งคุกคาม
ภาวะแท้งคุกคามคือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เลือดออกขณะตั้งครรภ์ พบบ่อยในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก จะมีเลือดออกแบบกะปริดกะปรอยที่มาพร้อมกับอาการปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย และอาจทวีความรุนแรงถึงขั้นตกเลือดได้


6.ท้องลม
อาการท้องลมเป็นความผิดปกติที่เกิดกับการตั้งครรภ์ มักพบในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก อาการในขณะตั้งครรภ์เหมือนคนท้องทั่วไป เช่น แพ้ท้อง คลื่นไส้อาเจียน และคัดเต้านม หลังจากนั้นจะมีภาวะไข่ฝ่อเกิดขึ้น ซึ่งไม่มีตัวเด็ก ภาวะนี้จะมักนำไปสู่การแท้งเองตามธรรมชาติ และมีเลือดออกที่ช่องคลอด บางรายอาจมีอาการปวดที่ท้องน้อยก่อนที่เลือดจะออก


เมื่อคุณแม่ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เลือดออกขณะตั้งครรภ์กันไปแล้ว สิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรให้ความสำคัญมากกว่าการวิตกกังวลจนนำไปสู่ความเครียด ก็คือการรีบพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ เนื่องจากเลือดออกขณะตั้งครรภ์นั้นเกิดจากหลายสาเหตุ คุณแม่จึงไม่สามารถคาดเดาได้เองว่า อาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นกับตัวคุณแม่เองนั้นเกิดจากสาเหตุใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook