รักษามีลูกยาก IUI , ICSI และ IVF แตกต่างกันอย่างไร?
ปัญหาหนักใจสำหรับคู่รักที่ปล่อยมานานแต่ยังไม่ตั้งท้องสักที คือ การประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก แน่นอนว่าในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก อาทิ IUI, ICSI หรือ IVF แล้วแต่ละวิธีมีความแตกต่างกันอย่างไร เรามาศึกษากันเถอะ!
ปัญหาการมีบุตรยากเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาทางด้านสุขภาพ ช่วงวัย และไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น การรักษาปัญหาภาวะมีบุตรยากจึงเป็นการนำเอาวิธีการทางการแพทย์เข้ามาเพิ่มโอกาสของการปฏิสนธิ ทดแทนวิธีทางธรรมชาติที่ไม่ประสบความสำเร็จ
วิธีแรกคือการทำ IUI หรือ Intrauterine insemination คือ การฉีดอสุจิเข้าโพรงมดลูก วิธีนี้เป็นวิธีที่มีความใกล้เคียงกับวิธีธรรมชาติมากที่สุด เพราะ IUI คือนำอสุจิที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกในวันที่ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ เรียกได้ว่า เป็นการสร้างโอกาสให้อสุจิได้ผสมกับไข่ได้ง่ายกว่าปกติ เพิ่มเปอร์เซ็นต์การประสบความสำเร็จในการปฏิสนธิ แต่อีก 2 วิธีที่ได้รับความนิยมมากเช่นกันอย่าง IVF และ ICSI คือกระบวนการการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งข้อแตกต่างของทั้ง IVF และ ICSI มีดังนี้
IVF หรือ In-Vito Fertilization เป็นการคัดไข่ที่สมบูรณ์จากฝ่ายหญิงและอสุจิที่แข็งแรงจากฝ่ายชายมาผสมเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิกันเอง จากนั้นจะนำไข่หรือตัวอ่อนที่ผสมกันแล้วกลับเข้าไปในมดลูก เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป
แต่ ICSI หรือ Intracytoplasmic Sperm Injection เป็นการคัดเอาอสุจิที่มีความแข็งแรงที่สุด แล้วใช้เข็มเจาะ ฉีดอสุจิเข้าไปในเนื้อไข่ เมื่อเกิดการปฏิสนธิจนกลายเป็นตัวอ่อนจึงจะนำกลับเข้าไปในมดลูกอีกครั้ง โดย ICSI เป็นวิธีเหมาะสำหรับกลุ่มที่มี Sperm ไม่แข็งแรง
ทั้ง 3 วิธีที่กล่าวมาข้างต้น คือเทคโนโลยีที่ถูกผลิตคิดค้นเพื่อแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก ดังนั้น หากพบว่าตนเองกำลังประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลและแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที
บทความโดย : นพ.เสฐียรพงศ์ จารุสินธนากร
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : World ART Center ชั้น 4 โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) โทร. 02-836-9999 ต่อ 4706