เช็ก 5 สัญญาณเตือนจากร่างกาย ที่บอกว่าคุณควรลดน้ำหนักได้แล้ว
สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วหรือเป็นผู้ที่รักในการกินจนเพลิดเพลิน กลายเป็นน้ำหนักเพิ่มขึ้นจนไม่ทันตั้งตัว และเมื่อใดที่คุณต้องเผชิญกับสัญญาณเตือนจากร่างกายเหล่านี้ คุณไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะจะเป็นการบ่งบอกว่าคุณควรจะลดน้ำหนักลงได้แล้วก่อนที่สุขภาพจะพังจนอาจกลับมาแข็งแรงอีกครั้งไม่ได้ ซึ่ง 5 สัญญาณเตือนจากร่างกายที่คุณไม่ควรมองข้าม คือ
1.อึดอัดจนหายใจไม่คล่อง
เมื่อใดที่คุณเพลิดเพลินกับการกินอาหารแล้วรู้สึกร่างกายเริ่มหายใจไม่คล่อง มีความรู้สึกอึดอัด แน่นท้องและหน้าอก คุณควรหยุดการกินของตัวเองทันทีและเริ่มใช้วิธีการลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมลดและหลีกเลี่ยงอาหารทำลายสุขภาพให้มากที่สุด ปรับเปลี่ยนสู่อาหารใหม่ที่ปลอดภัยกว่าเดิม ซึ่งความอึดอัดนี้ไม่ได้บ่งบอกแค่เรื่องทานอาหารมากเกินไปเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตือนว่าคุณอาจเสี่ยงต่อโรคเลือดหลอดตีบอีกด้วย
2.มีอาการกรนขณะหลับ
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเริ่มมีอาการกรนในช่วงเวลากลางคืน พร้อมพัฒนาเสียงกรนที่ดังมากขึ้นเรื่อย ๆ จะถือว่าเป็นสัญญาณการบ่งบอกจากร่างกายว่ามีไขมันสะสมที่บริเวณรอบทางเดินหายใจที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ช่องทางเดินอากาศแคบลง การหายใจในช่วงนอนจึงมีความยากลำบาก ส่งผลให้เกิดเป็นเสียงกรนที่เป็นสัญญาณเตือนอันน่ากลัวว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
3.ปวดเมื่อยร่างกายบ่อยครั้ง
เมื่อน้ำหนักเพิ่มสูงขึ้นย่อมตามมาด้วยอาการเจ็บและปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย จะมีอาการเนื้อช้ำหรือผิวเกิดร่องรอยการช้ำขึ้นมาเอง รวมไปถึงอาการปวดกระดูกตามส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะช่วงหลัง, สะโพก, เข่า และส่วนที่รองรับน้ำหนัก อาการปวดนี้จะพัฒนาไปเรื่อย ๆ และจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณได้มากเลยทีเดียว
4.หิวเร็วผิดปกติ
ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มหรือกินจนพุงกางแล้วแต่ยังคงหิวเร็วและกินได้ตลอดเวลา จะถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนจากร่างกายที่ทำให้คุณได้รู้ว่าอาหารที่กินเข้าไปนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้สารอาหารที่ไม่เพียงพอ ร่างกายจึงหิวโหยอยู่ตลอดเวลา ยิ่งกินมากเท่าไหร่ก็ได้แต่เพิ่มน้ำหนักขึ้นมากเท่านั้น แต่กลับไม่ช่วยให้ประโยชน์ใด ๆ ต่อร่างกายเลยแม้แต่น้อย
5.เจ็บหน้าอก
อาการเจ็บหน้าอกถือเป็นสัญญาณเตือนขั้นสุดของร่างกาย ที่จะบ่งบอกให้คุณได้รู้ว่าคุณอาจเสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดหัวใจอุดตัน รวมไปถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติไปจากเดิมหรือบางคนอาจแทบไม่เคยได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเลยแม้แต่น้อย มาพร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกซ้ายช่วงเวลานอนอยู่เสมอ ดังนั้นคุณจึงไม่ควรมองข้ามปัญหานี้และรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
ถ้าคุณเริ่มได้รับทั้ง 5 สัญญาณเตือนนี้จากร่างกาย สิ่งที่คุณควรทำคือการปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต และการออกกำลังกายใหม่ทั้งหมด เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง พร้อมทำให้น้ำหนักอยู่ตัวอย่างยั่งยืน เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ที่จะตามมาในอนาคต