ย้อนรอยรองเท้า "LOVE" แรงบันดาลใจจากความรักอันขมขื่นของเจ้าหญิงไดอาน่า
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เรามักจะได้เห็นภาพถ่าย หรือคลิปวิดีโอของไดอาน่า สเปนเซอร์ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ในกิริยาที่ก้มหน้าลงต่ำมองพื้น ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างติดค้างอยู่ในใจ จนไม่อาจหาญกล้าที่จะสู้สายตากับ "ความจริง" ที่ต้องเจอได้ ไม่ว่าจะเป็นหลายครั้งที่มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ทั้งทางโทรทัศน์ หรืองานฉลองไหนๆ กระทั่งภาพถ่ายอันเป็นที่ลือเลื่อง เมื่อครั้งที่ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ สวมใส่ชุดสูทกระโปรงไอคอนิกสีแดง-ม่วง เข้าคู่กับสร้อยคอไข่มุก ในระหว่างการเยี่ยมชมทัชมาฮาลในปี 1992 กำลังนั่งอย่างโดดเดี่ยว โดยไร้เงาเจ้าชายชาลส์เคียงข้าง...
ภาพถ่ายแสนเศร้าที่ต่อมาได้กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ให้เหล่านักข่าวโหมกระพือเรื่องราวความรักอันแตกร้าวของเจ้าชาย และเจ้าหญิงแห่งเวลส์ในเวลานั้น ได้จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ของ Christian Louboutin เจ้าของแบรนด์รองเท้าพื้นแดงชื่อดัง ให้ได้ออกแบบรองเท้าคู่ใหม่ ครั้งนั้นคริสเตียนสังเกตเห็นว่าไดอาน่านั่งอยู่บนม้านั่ง ด้านหน้าสุสานทัชมาฮาลที่เป็นดั่งพยานรักของกษัตริย์แห่งอินเดียในอดีต โดยมีใบหน้าที่สิ้นหวัง พร้อมมองลงไปที่ปลายเท้าของเธอ และด้วยความที่เขาเป็นแฟนตัวยงของไดอาน่า เขาจึงรู้สึกได้ทันทีว่า ต่องมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นในชีวิตของเธอแล้วแน่นอน ก่อนที่ภาพถ่ายนั้นจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาได้สร้างสรรค์รองเท้าแฟลตสีดำคู่หนึ่งขึ้นมา โดยมีตัวอักษรคำว่า L และ O เขียนไว้บนรองเท้าด้านขวา และ V และ E บนด้านซ้าย
คริสเตียน ลูบูแตง ออกแบบรองเท้าแฟลตคู่นี้ ด้วยหวังใจไว้ว่า "ผู้หญิงคนไหนก็ตามบนโลกใบนี้ ที่ได้สวมใส่รองเท้าคู่นี้ หากเกิดต้องก้มหน้ามองพื้นอย่างหม่นหมอง เศร้า หรือสิ้นหวังในครั้งใด เธอจะยังพบว่า มี 'ความรัก' อยู่กับเธอเสมอ เฉกเช่นเดียวกับไดอาน่า สเปนเซอร์ ที่พยายามโหยหาความรักจากเจ้าชายชาลส์เสมอมา" ไม่เพียงเท่านั้นเพราะในภาพยนตร์กึ่งสารคดี "Chanel 4 Documentary" ในปี 2015 ลูบูแตงยังได้เปิดเผยเอาไว้อีกว่า "ที่เขาเลือกใส่คำว่า LOVE ไว้บนรองเท้าคู่นั้น ก็เพียงหวังว่า หากไดอาน่าได้สวมมัน และเมื่อเธอต้องหรุบตาลงต่ำอย่างที่ทำบ่อยๆ คำๆ นั้นอาจจะทำให้เธอยิ้มขึ้นมาได้บ้าง" แต่ก็นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะไดอาน่าไม่มีโอกาสได้สวมใส่รองเท้าคู่นั้ยเลยแม้แต่ครั้งเดียว อย่างที่ลูบูแตงตั้งใจ จนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตเธอในปี 1997...
ลูบูแตงยังเปิดเผยเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า "แท้จริงแล้วแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์รองเท้าคู่นี้ขึ้นยังมาจาก 'การเอาตัวรอดเหล่าหญิงแกร่ง' ดังที่เห็นไดอาน่าพยายามแก้ไขปัญหาชีวิตของเธอให้ถูกต้อง และพยายามเอาชีวิตรอดจากเรื่องราวที่เธอพบเจออยู่ ซึ่งผมชอบการเอาตัวรอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง อย่างเช่น Tina Turner ก็นับเป็นอีกคนที่ผมหลงรักตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ซึ่งเธอก็มีทัศนคติในการเอตัวรอดเก่งไม่ใช่น้อย หรือจะเป็น Cher ศิลปินชื่อดัง และอีกมากมาย ซึ่งผมขอย้ำอีกครั้งว่า ชอบทักษะอันทรงพลังนี้ที่มีอยู่ในตัวผู้หญิงทุกคนอย่างมาก”
ในปี 2018 แรงบันดาลใจจาก "ความรักอันขมขื่น" ของไดอาน่า ถูกพัฒนาไปอย่างหลากหลาย ทั้งรูปแบบ และดีไซน์ คำว่า "LOVE" โดดไปอยู่บนสินค้าไอคอนิกชิ้นอื่นๆ อีกมากมายตามแต่ที่ลูบูแตงจะนึกได้ แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่า LOVE ในครั้งนั้นจะถูกเปลี่ยนสีแต้มสันอย่างไร ก็ไม่อาจลืมความจริงที่ว่า ต้นกำเนิดของมันคือความสิ้นหวัง และแสนเศร้าของผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ตามหาความรักมาทั้งชีวิต แต่ก็ไม่เคยเจอเลยสักครั้งจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต...