รู้ไว้ใช่ว่า 44 ขาอ่อนกับเรื่องที่สุดของที่สุด

กระดาน (ที่สุด) รางวัลนี้ต้องบอกว่าขอถือวิสาสะแต่งตั้ง ผู้เข้าประกวดหมายเลข 20 ''น้องฟ้า'' นภิศา ป้อมเสน สาววัย 19 ปี จากโรงเรียนสตรีนนทบุรี และหมายเลข 40 ''น้องจ๋า'' รสธร เจียรากร ขาอ่อน วัย 23 ปี จาก ม.ศิลปากร ให้เธอทั้งสอง ดำรงตำแหน่ง ''นายกสมาคมกระดานโต้คลื่นแห่งประเทศไทย'' ส่วนเหตุผลอะไรคงจะไม่ต้องบอก เพราะวัดได้ 29 นิ้ว จบข่าว!! สูงที่สุด อย่างที่คุณๆ ท่านๆ ทราบกันเป็นอย่างดี ว่าเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เป็นเวทีที่ค้นหาตัวแทนสาวไทยไปชิงชัยมงกุฎนางงามจักรวาลกับสาวงามจากทุกทวีปทั่วโลก เพราะฉะนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าความสูงจึงสำคัญเอามั่กๆ ดูอย่าง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ''น้องกวาง'' ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2550 ที่มีมาก 179 ซม. และ ''น้องแก้ม'' กวินตรา โพธิจักร มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2551 ซึ่งวัดได้ 175 ซม. สำหรับการประกวดในปีนี้ ก็มีน้องๆ สาวงามที่เข้าข่ายประเภทสูงชะลูดเหมือนดั่งสองสาวที่ว่าอยู่เหมือนกัน โดยผู้ที่สูงที่สุดในปีนี้ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 17 ''น้องแพรว'' หรือชื่อจริงว่า แพรว แก้วทิพย์ สาวใสวัย 20 ปี แต่มีความสูงถึง 177.5 ซม. โดยปัจจุบันน้องแพรวกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ม.ศรีนครินทรโรฒ แต่เธอจะประสบความสำเร็จบนเวทีนี้หรือไม่ ต้องติดตาม อึ๋มที่สุดมาถึงข้อนี้ เชื่อแน่นอนว่าหนุ่มๆ หลายคนก็คงใจจดใจจ่อรอผลการตัดสินอยู่ใช่มั้ยล่ะ!! อิอิ!! ซึ่งสาวงามที่ผ่านเข้าสู่รอบ 44 คนสุดท้ายในปีนี้ เรื่องหน้าอกหน้าใจบอกได้เลยว่าสอบผ่านกันหลายคน ซึ่งสาวงามที่โนตม...เอ้ย...หน้าอกเอิบอิ่มที่สุดในการประกวดปีนี้ มีคะแนนเท่ากันถึง 3 คน คนแรกได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 ''น้องปีใหม่'' กนกกาญจน์ ฐิติภัทรประเสริฐ คนที่ 2 ได้แก่หมายเลข 4 ''น้องไข่มุก'' ชุติมา ดุรงค์เดช ส่วนอีกคนคือหมายเลข 12 ''น้องกี้'' รฐกร สถิรบุตร ซึ่งหนองโพของสาวงามทั้ง 3 คน ก็ไม่ได้ใหญ่ได้โตอะไรมากมาย แค่วัดได้ 34 นิ้ว เท่านั้นเอง!!

บังเอิญเหมือน (ที่สุด) บังเอิญเหมือนที่สุด คงต้องเป็นชื่อเล่นของสาวงามผู้เข้าประกวดในปีนี้ ที่ไม่รู้ว่าเกิดปรากฏการณ์ ''พลอย'' ฟีเวอร์ ขึ้นเมื่อครั้งที่พวกเธอเกิดหรือเปล่า เพราะไม่น่าเชื่อว่าจะมีสาวงามที่ชื่อเดียวกันว่า ''พลอย'' ถึง 4 คน ไล่มาจาก หมายเลข 3 ''น้องพลอย'' วริษา เจริญศักดิ์ธนกุล, หมายเลข 9 ''น้องพลอย'' อรพินท์ นาคสมบูรณ์, หมายเลข 41 ''น้องพลอย'' ธันชนก คล้ายคลึง และหมายเลข 43 ''น้องพลอย'' ณัฐณิชารัตน์ โหสุวรรณ์ ซึ่งการที่คนชื่อเหมือนกันต้องมารวมตัวอยู่ในที่เดียวกัน คิดดูซิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น!! การศึกษาสูงที่สุด สูงในที่นี้ มิใช่ว่าเธอเรียนอยู่ชั้นดาดฟ้าตึกใบหยก แต่เป็นดีกรีการศึกษาที่บ่งบอกถึงภูมิความรู้ที่ร่ำเรียนมาต่างหาก ซึ่งเรื่องนี้ต้องยอมรับกันว่าสำคัญมั่กๆ กับการประกวดความงามสมัยใหม่ เพราะผู้ที่จะก้าวขึ้นมาคว้ามงกุฎบนเวทีแห่งนี้ นอกจากจะหน้าตาสะสวยแล้ว ยังต้องเป็นสาวสมัยใหม่ มั่นใจในตัวเอง แถมต้องเก่งรอบด้านด้วย ซึ่งสาวสวยที่การศึกษาสูงที่สุดในปีนี้ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 4 ''น้องไข่มุก'' ชุติมา ดุรงค์เดช สาวอิมพอร์ตจากประเทศอังกฤษ ที่ลัดฟ้ามาประชันสวยด้วยดีกรีการศึกษาระดับปริญญาโท Msc.Business Management, City University, London, UK ซึ่งวุฒิปริญญาโทใบนี้จะช่วยให้น้องไข่มุกก้าวไปถึงฝั่งฝันหรือเปล่า เสาร์นี้ลุ้นกัน อารมณ์ดีที่สุด ไม่ใช่ซิ!! ต้องบอกว่าเข้าขั้นติงต๊องเลยก็ว่าได้ สำหรับผู้เข้าประกวดหมายเลข 2 ''น้องแย้'' นนทพร ธีระวัฒนสุข สาวขาอ่อนวัย 21 ปี จากคณะอักษรศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ม.ศิลปากร ซึ่งเธอคือเจ้าของทฤษฎีใหม่ นางงามเมืองไทยไม่จำเป็นต้องแอ๊บแบ๊ว หรือว่าสร้างภาพเป็นกุลสตรี เพราะน้องแย้ผู้นี้ เธอทำได้ทุกอย่างที่สาวงามคนอื่นหรือแม้แต่คนอย่างเราๆ ท่านๆ ไม่กล้าทำ แต่เธอคนนี้สามารถ!! โดยเฉพาะเสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ถ้าใครอยากจะรู้ว่าเวลาเธอหัวเราะจะเป็นยังไง เจอหน้าเธอเมื่อไหร่ ก็ขอฟังกันเอาเอง!! สุดท้ายท้ายสุด...สวยที่สุด!! ข้อสุดท้าย ''สวยที่สุด'' คงจะบอกไม่ได้ในเวลานี้ จนกว่าจะเสร็จสิ้นการประกวดรอบตัดสิน ซึ่งจะมีขึ้นในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 28 มี.ค. นี้ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จะถ่ายทอดการประกวดให้แฟนๆ คอนางงามได้รับชมพร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 22.30 น. รักใครชอบใคร ก็อย่าลืมตั้งหน้าตั้งตารอชมและรอเชียร์พวกเธอทางหน้าจอทีวีด้วยก็แล้วกัน!!