ลุกนั่งสิ แล้วชีวิตจะดี! 7 เหตุผลที่ออกกำลังกายแบบ "สควอท" ดีกว่าการวิ่ง เพื่อหุ่นเฟิร์มเป๊ะ สุขภาพดี

ลุกนั่งสิ แล้วชีวิตจะดี! 7 เหตุผลที่ออกกำลังกายแบบ "สควอท" ดีกว่าการวิ่ง เพื่อหุ่นเฟิร์มเป๊ะ สุขภาพดี

ลุกนั่งสิ แล้วชีวิตจะดี! 7 เหตุผลที่ออกกำลังกายแบบ "สควอท" ดีกว่าการวิ่ง เพื่อหุ่นเฟิร์มเป๊ะ สุขภาพดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ยุคนี้จะเป็นเทรนด์รักสุขภาพ ออกกำลังกายเข้าฟิตเนสกันเป็นล่ำเป็นสัน แต่สาวๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะเล่นเครื่อง elliptical หรือลู่วิ่งเพื่อคาร์ดิโอมากกว่า "สควอท" หรือเวทเทรนนิ่ง แต่ที่จริงสควอทนี่แหละควรทำมากกว่าวิ่งซะอีก เพราะอะไร มาดูกันค่ะ


ในหมู่คนรุ่นใหม่ ค่านิยม "รักสุขภาพ กินอาหารคลีน ออกกำลังกาย" ฮิตกันมานานหลายปีแล้ว และคิดว่าเทรนด์นี้จะไม่หมดกระแสไปง่ายๆ เพราะยุคนี้มนุษย์อายุยืนขึ้น ทุกคนก็อยากมีสุขภาพที่ดีเพื่ออยู่ใช้ชีวิตไปนานๆ อยากลดความอ้วน ลดไขมันส่วนเกินให้ให้หุ่นเป๊ะยิ่งขึ้น ฟินเมื่อส่องกระจกมองตัวเองในทุกเช้า เสริมความมั่นใจ บุคลิกภาพ และสำหรับบางคน หุ่นที่ดีขึ้น รูปร่างที่ผอมลงก็เพิ่มโอกาสทั้งความรักและหน้าที่การงานได้แบบพลิกชีวิตกันเลยทีเดียว

นอกจากอาหารคลีนที่ต้องกินกันอยู่แล้ว หากพูดถึงการออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วน สาวๆ แทบทุกคนก็มักจะนึกถึงการคาร์ดิโออย่าง "วิ่ง" ซะมากกว่า โดยละเลยการเวทเทรนนิ่งสร้างกล้ามเนื้อที่ช่วยปั้นหุ่นอย่าง "สควอท" ไปเสียสนิท ทั้งที่จริงๆ แล้ว หากต้องเลือกทำแค่สองอย่าง สายสุขภาพจะเลือกสควอทแบบไม่ต้องคิด เพราะมีข้อดีมากกว่าวิ่งเยอะมากๆ ถ้าอ่านถึงตรงนี้เธอตั้งคำถามว่า "แล้วมันดีกว่ายังไง ที่ฉันต้องเสียเวลาไปทำสควอท" คำตอบอยู่ที่นี่แล้วค่ะ

7 ข้อเน้นๆ เลื่อนลงมาอ่านโลด! 


1. การสควอทใช้เวลาไม่นาน แป๊บเดียวเสร็จ งานยุ่งแค่ไหนก็ทำได้
 

ข้อแรกที่คิดว่าสาวๆ ยุค 2021 ต้องชอบแน่นอนก็คือ การทำสควอท หรือเรียกง่ายๆ คือท่าลุกนั่งใช้เวลาน้อยมาก! ในขณะที่การวิ่งต้องให้น้ำหนักกับทั้งระยะเวลา และความทนทานในการวิ่ง ถึงเธอจะฟอร์มดีแค่ไหน แต่วิ่งแค่ 10-15 นาทีก็ไม่สามารถกระตุ้นร่างกายให้เผาผลาญไขมันได้อย่างเต็มที่ ขั้นต่ำก็ต้อง 45 นาทีขึ้นไปเตาเผาในร่างกายถึงจะทำงาน และยังต้องวิ่งให้ได้ความเร็วระดับที่กำหนดอีก ถ้าวิ่งเหยาะๆ หรือจ๊อกกิ้ง ร่างกายก็ไม่เบิร์นเท่าวิ่งเร็ว เป็นต้น

แต่ถ้าเธอทำสควอท ถึงจะทำเป็นเซต 10-20 ครั้ง ก็ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น เพราะมันไม่มีอะไรเลย แค่เกร็งท่า ยืดตัว ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ยืนตรงไหนได้ก็ทำตรงนั้นเลย ทำงานเลิกดึก ฟิตเนสปิดหมดแล้ว ลู่วิ่งในบ้านก็ไม่มี ก็สควอทนี่แหละช่วยปั้นหุ่นให้เฟิร์ม กล้ามเนื้อแน่นได้ อย่าปล่อยเวลาก่อนเข้านอนให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ สควอทสักหน่อยพอได้เหงื่อ ในระยะยาวหุ่นจะดูดีกว่าคนที่ไม่ทำอะไรเลยแน่นอน


2. การสควอท ส่งผลกระทบกับข้อเข่า "น้อยกว่า" การวิ่ง
 
 
เหตุผลหลักๆ ที่คนอ้วนมากมายต้องถอดใจจากวงการลดน้ำหนัก เพราะร่างกายรับความเหนื่อยจากการวิ่งไม่ไหว หลายคนน้ำหนักตัวเยอะเกินเกณฑ์มากๆ จนมีปัญหากับข้อเข่า หากตัดสินใจวิ่งในระยะเริ่มต้นเลย การวิ่งจะต้องลงน้ำหนักที่ขาและข้อเข่าเยอะ เท้าแตะพื้นแต่ละทีก็เข่ากระแทกที ถึงใจยังสู้ก็อาจจะเจอปัญหาเจ็บเข่า กระดูกลั่นกร๊อบแกร๊บจนต้องร้องโอดโอยได้เช่นกัน ( แต่ส่วนใหญ่ก็จะเลิกทำกันตั้งแต่แรกๆ แล้วแหละนะ )

หากยังเป็นมือใหม่ กลัววิ่งแล้วเหนื่อยหอบเกินไป หรือสุขภาพข้อเข่าไม่ดี แทนที่ด้วยการสควอทสัก 1-2 เซตแทนจะช่วยเซฟเข่าได้ในระยะยาวมากกว่า เพราะหนึ่งคือใช้เวลาน้อย การกระแทกหรือลงน้ำหนักที่เข่าก็น้อยตาม และสอง ท่าสควอทคือการที่เราเกร็งท่านั่งลงไปตรงๆ ไม่ได้กระแทกไปมาเหมือนการวิ่ง ดังนั้นจะเกิดอาการบาดเจ็บได้น้อยกว่า เอาง่ายๆ คือถ้าเธอไม่ได้สควอททั้งวัน ยังไงก็เจ็บเข่าน้อยกว่าวิ่งค่ะ 

 
3. ร่างกายของเราถูกสร้างมา เพื่อรองรับการ "สควอท" โดยธรรมชาติอยู่แล้ว
 

ข้อนี้หลายคนอาจไม่รู้ ( ก่อนเรามาเขียนเรื่องนี้ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ) นั่นคือร่างกายของเราเหมาะกับการสควอทตามธรรมชาติ นั่นหมายถึงถ้าทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง หุ่นก็จะเป๊ะและเฟิร์มสวยได้อย่างรวดเร็ว! นั่นเพราะตั้งแต่เกิดเป็นทารกจนเติบโต ร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาเพื่อการลุกนั่งอยู่แล้ว ทั้งการนั่งบนโต๊ะทำงาน ก้มลุกนั่งเพื่อเก็บของที่หล่น นั่งส้วมเพื่อเข้าห้องน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย

ถ้าพูดอีกอย่างก็คือ การสควอทเป็นสิ่งที่ไม่ได้ฝืนธรรมชาติ ชีวิตปกติเราก็ทำอยู่แล้วแค่อาจไม่ได้ลงน้ำหนักกล้ามเนื้อหรือตั้งใจฝืนท่าไว้นานๆ เท่านั้นเอง แต่ถ้าเธอไปวิ่งเยอะๆ อย่างเข้มข้นโดยไม่ได้ฝึกก่อน ร่างกายอาจจะรับไม่ไหว ความดันขึ้น ตะคริวกิน เป็นลม ช็อกหมดสติไปเลยก็ได้ ดังนั้นถ้ามือใหม่หรือไม่แข็งแรง สควอทก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ 


4. การสควอทกระตุ้น "กล้ามเนื้อหลายส่วน" มากกว่าการวิ่ง


การวิ่ง เป็นประเภทการออกกำลังกายที่สาวๆ หลายคนชื่นชอบ เพราะขึ้นชื่อว่าช่วยเผาผลาญไขมัน ให้หุ่นผอมลีน น้ำหนักลดฮวบได้อย่างรวดเร็ว และช่วยทำให้สุขภาพหัวใจและกล้ามเนื้อน่องที่ขาแข็งแรงขึ้น แต่มันก็เป็นการออกกำลังที่เน้นคาร์ดิโอมากกว่า คือไม่ได้กระตุ้นการใช้งานของกล้ามเนื้อสักเท่าไหร่ สังเกตนักวิ่งมาราธอนดูสิคะ ผอมทั้งตัวแต่น่องโป่ง เพราะการวิ่งก็กระตุ้นให้เฟิร์มแค่ส่วนน่องเสียมากกว่า

ในขณะที่การสควอทช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อส่วนขาหลายส่วนแบบเน้นๆ ทั้งส่วนเอ็นร้อยหวาย, glutes ( กลุ่มกล้ามเนื้อสะโพก ), hip flexors ( กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่หัก งอข้อต่อสะโพก ), adductors ( กล้ามเนื้อต้นขาด้านใน ), quadriceps ( กล้ามเนื้อกระดูกต้นขา ), กล้ามเนื้อช่องท้องและแผ่นหลังด้านล่าง ทำให้ขาและสะโพกสวยเฟิร์มได้รูปมากกว่า ถ้าอยากหุ่นแน่นๆ เป๊ะๆ ใส่กางเกงสวย ยังไงก็ทิ้งสควอทไปไม่ได้ค่ะ

 
5. สาวๆ ที่ทำสควอทเป็นประจำ จะเอ็นจอยกับการกิน "แป้ง" ได้เยอะกว่า
 

การวิ่งคือการออกกำลังกายแบบแอโรบิก จึงใช้ "ไขมัน" เป็นตัวเผาผลาญเพื่อให้พลังงาน แต่สควอทคือการออกกำลังแบบอนาโรบิก ซึ่งแหล่งพลังงานหลีกคือไกลโคเจนที่กักเก็บคาร์โบไฮเดรตเอาไว้ ดังนั้นถ้าสาวๆ ทำการสควอท ร่างกายจะเผาผลาญไกลโคเจนในกล้ามเนื้อมาใช้ และถ้าพลังงานนั้นหมดเมื่อไหร่ ก็ต้องหาเอาจาก "แป้ง" หรือพูดง่ายๆ คือคนทำสควอทบ่อย ก็จะกินแป้งได้บ่อยกว่าคนออกไปวิ่งนั่นเองค่ะ

สาวๆ หลายคนเข้าใจผิดว่า ถ้ากินแป้งเยอะยังไงก็จะถูกเก็บเป็นไขมัน แต่ถ้าเธอทำสควอทบ่อยๆ เมื่อกินคาร์โบไฮเดรตเข้าไป มันจะไม่กลายเป็นไขมันทันที แต่จะนำไปเพิ่มไกลโคเจนในกล้ามเนื้อที่สูญเสียไปตอนเธอทำสควอทนั่นแหละ แต่ก็ต้องย้ำว่า ต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะนะจ๊ะ! ถ้ากินโดนัทเป็นสิบชิ้น ครัวซองต์เป็นกล่องๆ แล้วคิดว่ายังไงก็ผอม อันนี้คิดผิดละ ไม่มีการออกกำลังกายไหนกินได้ไม่อั้นเด้อ รูปร่างจะดีได้ยังไงก็ต้องคุมอาหารน้า

 
6. ผู้หญิงที่ทำสควอท จะช่วยปั้น "บั้นท้าย" ให้สวยกระชับ เซ็กซี่
 

ข้อนี้น่าจะเรียกว่าเหตุผลหลักๆ ที่เรียกผู้หญิงเข้าสู่วงการสควอทเลย ซึ่งก็ต้องย้ำอีกครั้งว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง นั่นก็คือการทำท่าออกกำลังกายนี้บ่อยๆ จะช่วยปั้นบั้นท้ายให้กลมกลึง ได้รูป หรือที่บางคนบอกว่าก้นแบบนี้ ' เซ็กซี่ ' นั่นเอง ใครอยากสะโพกแน่น ใส่กางเกงยีนส์ กระโปรงรัดรูปแล้วสวยแบบละสายตาไม่ได้ แต่ไม่อยากไปศัลยกรรมเสริมสะโพกให้อันตราย ก็สควอทนี่แหละค่ะคำตอบ!

การวิ่งนี่ถือว่าเป็นขั้วตรงข้ามเลย เพราะอย่างที่รู้กันว่ามันเผาผลาญไขมันออก ซึ่งก้นก็นับเป็นบริเวณหนึ่งของไขมัน เมื่อวิ่งบ่อยๆ หนักๆ ก้นก็จะ ' แฟ่บ ' หรือเล็กลง ดูได้จากนักวิ่งอาชีพ เป็นเส้นตรงตั้งแต่ขาจนถึงแผ่นหลัง ไม่มีโค้งเว้าใดๆ เรียกว่าไม่มีก้นเลยก็ว่าได้ เลือกเอา ถ้าอยากก้นแบนเลือกวิ่งอย่างเดียว แต่ถ้าอยากก้นสวยได้รูป ก็สควอทควบคู่กับการวิ่งด้วยนะคะซิส


7. สควอทแล้วเอวเล็กกว่า / ได้กล้ามเนื้อเยอะ เผาผลาญดีกว่า
 

ข้อสุดท้าย น่าจะเป็นเหตุผลคาดไม่ถึงที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ คือการสควอททำให้เอวเล็กคอดลง และให้กล้ามเนื้อที่สวยเฟิร์มมากกว่าการวิ่ง! นั่นเพราะเวลาทำสควอท จะมีการลงน้ำหนักไปที่กล้ามเนื้อสะโพก เป็นการเวทเทรนนิ่งอย่างหนึ่ง ซึ่งการเวทเทรนนิ่ง แม้จะออกกำลังกายเสร็จแล้วก็จะยังมี after burn หรืออาการที่กล้ามเนื้อเผาผลาญต่อเนื่อง ทำให้ถ้าเธอมีไขมันพอกที่เอว เอวหนา การควอทก็เป็นหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยลดไขมันเอว ทำให้เอวเล็กลง หุ่นเป็นนาฬิกาทรายมากขึ้นค่ะ

อีกหนึ่งข้อดีที่สาวๆ น่าจะสนใจกัน นั่นก็คือการสควอท คือการขยับท่าทาง เกร็งกล้ามเนื้อค่อนข้างเยอะ ลงน้ำหนักกล้ามเนื้อส่วนขาและสะโพกเน้นๆ ซึ่งเวลาทำท่าที่ถูกต้อง ส่วนแกนกลางร่างกาย ( core ) และแผ่นหลังก็จะกระทบไปด้วย เมื่อทำท่าสควอทและยกน้ำหนัก ( deadlift ) เป็นประจำ เธอจะมีกล้ามเนื้อช่วงลำตัวที่แข็งแรง มีซิกแพคสวยกว่าไปวิ่งหรือว่ายน้ำด้วยซ้ำ อยากกล้ามสวย มีร่อง 11 บางๆ ผายมือไปที่สควอทโลด ไม่ผิดหวัง!

 
ที่ร่ายมาทั้งหมด 7 ข้อนี้ สาวซิสทุกคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า ออกกำลังกายด้วยการ "สควอท ( squat )" ไม่ใช่เรื่องเสียเวลา และไม่ใช่ท่าสำหรับคนที่อยากก้นเด้ง ปั้นก้นให้หุ่นเซ็กซี่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีประโยชน์ในอีกหลายด้าน เช่น ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี ทำให้เธอกินแป้งได้แบบไม่ต้องรู้สึกผิด, ใช้เวลาน้อย เหมาะกับคนไลฟ์สไตล์ค่อนข้างยุ่ง, ลงน้ำหนักข้อเข่าน้อยกว่า เหมาะกับคนที่น้ำหนักเยอะในระยะแรก เป็นต้นค่ะ

ไม่ว่าเธอจะเป็นมือใหม่หัดลดความอ้วน หรือน้ำหนักสมส่วนแล้วแต่อยากมีหุ่นที่สวยขึ้น เอวคอด สะโพกกลมกลึง กล้ามเนื้อหลายส่วนได้ใช้งานเต็มที่ สควอทคือคำตอบแบบไม่ต้องสงสัย ยิ่งทำคู่กับการวิ่ง ก็จะยิ่งเห็นผลลัพธ์ของรูปร่างที่ชัดยิ่งขึ้นค่ะ ยังไงวันนี้เราขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้า ขอให้หุ่นปั๊วะๆ กันทุกคนค่า #สควอทจงเจริญ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook