ธุรกิจความงามหยุด(คิด)ไม่ได้ "ฐิติพรรณ ภัควัฒน์ธเนศ" พัฒนาแบรนด์ไทยจนครองใจสาวๆ

ธุรกิจความงามหยุด(คิด)ไม่ได้ "ฐิติพรรณ ภัควัฒน์ธเนศ" พัฒนาแบรนด์ไทยจนครองใจสาวๆ

ธุรกิจความงามหยุด(คิด)ไม่ได้ "ฐิติพรรณ ภัควัฒน์ธเนศ" พัฒนาแบรนด์ไทยจนครองใจสาวๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับเป็นปีที่ทุกๆ ธุรกิจ ต้องเผชิญพิษโควิดทำยอดขายหดตัวแรงในรอบทศวรรษ ส่งผลกระทบแม้วงการอุตสาหกรรมความงาม หากสถานการณ์ระดับโลกครั้งนี้กลับกลายเป็นเป็นบิ๊กชาเลนจ์ ของผู้บริหารสาวสวย ฐิติพรรณ ภัควัฒน์ธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท คิสออฟบิวตี้ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและบำรุงผิวแบรนด์ไทย

“ความสวยไม่เคยชะลอตามสภาพเศรษฐกิจ” ฐิติพรรณ กล่าวย้ำอีกครั้งเปิดประเด็นสนทนาด้วยรอยยิ้มเชื่อมั่นเต็มร้อย


ปัจจุบัน “คิสออฟบิวตี้” นำเสนอผลิตภัณฑ์ 9 แบรนด์ 11 ประเภทสินค้า ครอบคลุมชีวิตประจำวันของผู้บริโภคตลาดความงาม ตั้งแต่โลชั่น-สเปรย์น้ำหอม เครื่องทำความสะอาดผิวหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไปจนนำเข้าผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมจากเกาหลี

ประกอบด้วยโปรดักส์กลุ่มโลชั่น-สเปรย์น้ำหอม และเจลว่านหางจระเข้ แบรนด์ มาลิสสา คิส (Malissa Kiss) โลชั่นน้ำหอม มุนอา เฮ้าส์ (MoonA House) โลชั่นน้ำหอม ทูซัมวัน (2Some1) ผลิตภัณฑ์น้ำหอม จูเลียต โคล (Juliet Cole) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สกินอ๊อกซี่ (Skinoxy) ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม แทงกีโมรี (Daeng Gi Meo Ri) เครื่องทำความสะอาดผิวหน้า คลารีน่า (Claryna) ตอบทุกโจทย์ไลฟ์สไตล์ความงาม หลายผลิตภัณฑ์สามารถคว้ารางวัลการันตีคุณภาพ


จากไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามก้าวสู่การขยายแบรนด์ ยูมะ (Yuma) นำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มเจลแอลกอฮอล์-ทิชชู่เปียกผสมแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค หน้ากากอนามัย และสินค้าในกลุ่ม New Innovative ผลิตภัณฑ์ฟองน้ำนาโน แบรนด์วิงค์เคิล (Winkel) ไม่หยุดพัฒนาสินค้าในช่วงปีที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด

ฐิติพรรณ กล่าวด้วยบุคลิกผู้บริหารหญิงลุคสมาร์ท คล่องแคล่ว เจ้าตัวรีบออกตัวว่าเป็นคาแร็คเตอร์คนทำงานมาทางด้านมาร์เก็ตติ้งโดยแท้



“หลังเรียนจบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดิฉันมีโอกาสเริ่มทำงานด้าน Sale/Marketing บริษัทเอสซีจี ทำอยู่ 4 ปีก็รู้สึกอยากเริ่มมองหาประสบการณ์ใหม่ จึงตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโทด้านมาร์เก็ตติ้ง แอนด์ แมเนจเมนท์ มหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตัน อังกฤษ จบมาได้ทำงานที่บริษัทซีพีเอฟ ด้านเทรดดิ้ง จัดหาสินค้าเข้าห้างสรรพสินค้า การรับผิดชอบงานตรงนี้ทำให้เราเห็นโอกาสทางธุรกิจ สอดคล้องกับแพสชั่น ดิฉันชอบความสวยความงามตามประสาผู้หญิงนะคะ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) จึงเริ่มลองสร้างธุรกิจของตัวเองโดยจ้างโรงงานผลิตครีมมาสก์ผิวหน้า และลองขายผ่านช่องทางอินสตาแกรม

ต้องบอกว่าโชคดีค่ะ ดิฉันได้ทำในสิ่งที่รักที่ชอบ แล้วครีมตัวแรกสร้างตลาดขายดีมาก จึงตัดสินใจลาออกจากพนักงานประจำ ขยายไลน์สู่โลชั่นน้ำหอม วันนี้มีผลิตภัณฑ์กว่า 80 เอสเคยูแล้วค่ะ”



ตลาดเครื่องสำอางจัดเป็น Red Ocean ธุรกิจมีคู่แข่งขันสูง ทุกกลยุทธ์ต้องงัดมาใช้ในสนามแข่งขันระดับที่ต้องใช้คำว่าดุเดือด หากการตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อเริ่มต้นธุรกิจนับเป็นก้าวย่างที่เปี่ยมความเชื่อมั่น

“ช่องทางขายทางโมเดิร์นเทรดต้องมีจุดแข็ง เพราะมีทั้งแบรนด์ในประเทศ ทั้งแบรนด์โกลบอลจากต่างประเทศ เอกลักษณ์ชัดเจนคือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างและอยู่รอดในธุรกิจนี้ได้ โดยไม่ติดกับดักสงครามราคา ดิฉันเน้นกลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่ม New Innovative ในราคาที่จับต้องได้ ผู้หญิงที่เลือกใช้เครื่องผลิตภัณฑ์ แบรนด์ มาลิสสา คิส นอกจากมีคาแร็คเตอร์ใสๆ ซนๆ แล้วอีกมุมก็คือผู้หญิงทันสมัยฉลาดในการเลือกใช้ของคุ้มค่าราคา

ดิฉันไม่เคยหยุดคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับโลชั่นน้ำหอมมาลิสสา คิส ทุกๆ ปีมีการนำเสนอซีรี่ส์กลิ่นหอมใหม่ ปีนี้สู่  ซีรีส์ที่ 5 แล้วค่ะ มีการติดตามกระแสหลักเทรนด์ล่าสุดทั้งฝั่งสหรัฐ และฝั่งเกาหลี ที่มีอิทธิพลต่อวงการเครื่องสำอางโลก ทีมเราก็จะติดตามเทรนด์ตลอด เพื่อนำมาปรับใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ความงาม ก็น่าตื่นเต้นนะคะที่มีอะไรใหม่ๆ มาให้ทดลองสร้างของใหม่ๆ ออกมานำเสนอผู้บริโภค”

ธุรกิจเครื่องสำอางเกาะอยู่กับกระแสเทรนด์ มาไว ไปไว "ฐิติพรรณ" กล่าวย้ำว่าการคิดค้นของใหม่ก้าวล้ำสมัย จึงเป็นเรื่องที่พลาดตกขบวนไม่ได้เลย ถ้าจะสร้างแบรนด์ให้ครองใจผู้หญิงรักความงาม

“ดิฉันกับทีมพัฒนาสินค้าทำงานหนักค่ะ Work Hard Play Harder คือสไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตในทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่เรื่องเรียนดิฉันก็ต้องทำให้ได้ระดับเกียรตินิยม (บอกด้วยรอยยิ้ม) พอมาทำงานก็เกินวันละ 10 ชั่วโมง แต่การทำงานหนักเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ได้ตอบทุกโจทย์การใช้ชีวิตนะคะ เหนื่อยแล้วต้องออกไปเติมไฟ ทั้งการออกกำลังกายดิฉันเล่นพีลาทีสเพื่อชาร์ตพลังกายแล้วยังสร้างสมาธิได้อีกด้วยค่ะ หรือการท่องเที่ยว ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่เราสามารถบริหารจัดการเวลาร่วมกับครอบครัวได้ด้วย ดิฉันมีลูกเล็กวัย 1 ขวบครึ่งก็ต้องดูแลเขาให้เต็มที่โดยในแต่ละสัปดาห์จะต้องหาเวลาไปทำกิจกรรมไปเที่ยวไปพักผ่อนด้วยกัน

อีกมุมคือเวิร์คกิ้งวูแมน ซึ่งสินค้าความงามจัดอยู่ในกลุ่มเทรนดี้โปรดักซ์ มันหยุดนิ่งไม่ได้เลย เราจึงต้องคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ไปแข่งขันบนชั้นวางขายแล้วต้องให้รู้สึก ว้าว! ให้ได้ค่ะ จากสกินแคร์ดิฉันไม่หยุดแค่นี้แต่จะคิดต่อไปว่ามีผลิตภัณฑ์กลุ่มใดอีกที่จะตอบโจทย์ความงามได้อีก กลุ่มอุปกรณ์ล้างหน้ามีเทคโนโลยีเพื่อความงาม Device จึงกลายเป็นก้าวต่อไปที่ไม่หยุดเพียงครีม จึงเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย

สอดคล้องกับ Vision and Mission ของบริษัท คือมุ่งพัฒนาและผลิตสินค้าเพื่อให้หญิงสาวเข้าถึงความสวยงามได้ในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ ดิฉันขอยกตัวอย่างล่าสุด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ New product development ในสถานการณ์โควิดที่ทุกคนต้องใส้มาสก์ ทำให้ผู้หญิงแต่งหน้าน้อยลงการซื้อเครื่องสำอางเมคอัพลดลงไปด้วย แล้วหลายคนก็เริ่มมีปัญหาสิว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สกินออกซี่ (Skinoxy) จึงออกสู่ตลาดรองรับกระแสนี้ค่ะ ส่วนผสมแอดวานซ์ วิตซี เปปไทด์ บูสเตอร์ เซรั่ม มีคุณสมบัติหน้าใสและลดสิว คีย์โปรดักซ์ของคิสออฟบิวตี้จึงไม่ได้หยุดแค่โลชั่นน้ำหอม


สถานการณ์โลกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากเหลือเกิน ถ้าเราหยุดนิ่งไม่แค่ตามกระแสไม่ทันนะคะ แต่จะล้าหลังไปเลยค่ะ ผู้บริหารที่ดีจึงต้องนำพาองค์กรไปให้ทัน ด้วยแนวคิด Drive Change เพื่อก้าวสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดิฉันย้ำพนักงานเสมอ เปลี่ยนไวไปให้ไว และนำมาปรับคิดเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อแข่งขันคนอื่นให้ได้ โดยใช้ความได้เปรียบของบริษัทที่มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง ผลิตของใหม่ๆ ออกมา สินค้าเราส่งออกไปจำหน่ายหลายๆ ประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมทั้งประเทศจีน และในปีนี้กำลังจะสร้างโรงงานใหม่ในประเทศเวียดนามเพราะตลาดเครื่องสำอางที่นั่นตามเทรนด์บ้านเราประมาณ 5 ปี ดิฉันมองว่าสามารถโฟกัสสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ไม่ยาก อีกทั้งประชากรกลุ่มใหญ่ของเขาอยู่ในวัยทำงาน มีกำลังจ่ายสูง การขยายธุรกิจจึงก้าวออกนอกประเทศเพื่อรองรับโอกาสเหล่านี้ค่ะ”

กว่า 8 ปีในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องสำอางที่จะว่าไปนับเป็นความใฝ่ฝันของหญิงเก่งหลายๆ คนที่อยากก้าวเข้ายืนอยู่แถวหน้า ณ จุดประสบความสำเร็จแบบนี้ ฐิติพรรณ เล่าย้อนไปในวันแรกที่ก้าวเข้ามาทำธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ พนักงานมีเพียง 7 คน และมาถึงวันนี้ที่มีพนักงาน 100 กว่าคนขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมบิวตี้สร้างสรรค์แบรนด์ไทยได้อย่างงดงาม



“ดิฉันใช้ความรักสวยรักงามของตัวเองเป็นแพสชั่น ผู้หญิงเรามีไม่กี่อย่างหรอกนะคะที่ใส่ใจอยากสวย ผิวสวย ผมสวย บุคลิกดึงดูดน่าประทับใจ ดิฉันใช้สิ่งเหล่านี้มาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เราเองก็อยากใช้ด้วย ทุกวันนี้ดิฉันใช้เครื่องสำอางของตัวเองตั้งแต่เส้นผมก็ใช้แชมพูและครีมนวดแทงกีโมรี นำเข้ามาจากเกาหลีเพราะตอนที่เรามีลูกปัญหาผมร่วงก็ตามมา เมื่อได้ไปท่องเที่ยวได้ไปลองใช้สัมผัสสินค้าระดับพรีเมี่ยม พอประทับใจ ดิฉันก็มั่นใจสร้างช่องทางการวางขายลุยตลาดเลยค่ะ 

หรือครีมน้ำหอมก็มีหลายกลิ่นโปรดต้องใช้ประจำวัน ครีมบำรุงดิฉันเลือกใช้สิ่งที่เหมาะกับผิวหน้าของเรา ไม่จำเป็นต้องราคาแพงลิ่ว เรียกว่าแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจมาจากแพสชั่นของตัวเองล้วนๆ เลยก็ว่าได้ค่ะ” ฐิติพรรณ กล่าวย้ำทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มสวยงาม กับความภาคภูมิใจในการสร้างเครื่องสำอางแบรนด์ไทยที่กำลังก้าวสู่ตลาดระดับอินเตอร์ฯ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook