นิศารัตน์ เพิ่มสุข : ออกจากงานเพราะไทรอยด์เป็นพิษ แต่ฟิตเฟิร์มมีกล้ามในวัย 59 ปี

นิศารัตน์ เพิ่มสุข : ออกจากงานเพราะไทรอยด์เป็นพิษ แต่ฟิตเฟิร์มมีกล้ามในวัย 59 ปี

นิศารัตน์ เพิ่มสุข : ออกจากงานเพราะไทรอยด์เป็นพิษ แต่ฟิตเฟิร์มมีกล้ามในวัย 59 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"มีคนเคยบอกว่า ป่วยเป็นไทรอยด์ ต้องกินยาตลอดชีวิต คุณย่าไม่อยากเป็นแบนนั้น จึงหันมาออกกำลังกาย โดยเริ่มฝึกหัดปั่นจักรยาน 3 ล้อ ตอนอายุ 55 ปี"

นิศารัตน์ เพิ่มสุข หรือที่เธอเรียกแทนตัวเองว่า "คุณย่านิ" คือ สุภาพสตรีวัย 59 ปี ที่รูปร่างดูฟิตเฟิร์มทำเอาคนวัยหนุ่มสาวยังอาย ในอดีตเธอเคยป่วยหนักจนต้องลาออกงาน มารักษาตัวนาน 3 ปี ไม่สามารถทำอะไรเลย เพราะร่างกายอ่อนแอมาก

แต่การปั่นจักรยาน และเล่นลูกกลิ้งเปลี่ยนชีวิตเธอไป จนอาการเจ็บป่วยเหล่านั้นหายไป และสิ่งที่ได้คืนกลับมาคือสุขภาพที่แข็งแกร่ง และความสุขในวัยเข้าใกล้เลข 6 

 

พิษจากการโหมทำงาน
"ชื่อ นิศารัตน์ เพิ่มสุข หรือเรียกว่า ย่านิ ก็ได้นะคะ" สุภาพสตรีท่านนี้ แนะนำตัวกับเรา ด้วยอัธยาศัยที่เป็นกันเองรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า


เราดูแทบไม่ออกเลยว่า นี่คือคนคนเดียวกับที่เคยผ่านอาการป่วยหนัก "โรคไทรอยด์เป็นพิษ" จนต้องเกษียณออกจากการทำงานก่อนถึงวัยรีไทร์ เพราะรูปร่างของ นิศารัตน์ กระชับฟิตเฟิร์ม ดูไม่เหมือนคนอายุใกล้แตะเลข 6 เลยแม้แต่น้อย 

"เมื่อก่อน คุณย่า (เรียกแทนตัวเอง) ก็เป็นพนักงานออฟฟิศทั่วไปนี่แหละ อยู่กับบริษัทมาตั้งแต่ก่อตั้งเป็นพนักงานคนแรก นิสัยส่วนตัวที่เป็นคนที่รักการทำงานมาก เวลาเข้างาน 8 โมงเช้า คุณย่าไปถึงออฟฟิศตั้งแต่ 7 โมง เลิกงาน 5 โมงเย็น ก็อยู่ถึง 6 โมงเย็น - 1 ทุ่มตลอด"

"กว่าจะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นไทรอยด์ก็ผ่านไปนานถึง 2 ปี เพราะมัวแต่สนใจเรื่องงาน ตอนแรกรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติไป เวลายกช้อนกินข้าว มือสั่นไปหมด บวกกับข้อเข่าเริ่มเสื่อม ต้องไปฉีดยาเข้าหัวเข่า หมอเคยบอกไม่ให้ฉีดเกิน 3 ครั้ง แต่ว่าคุณย่าฉีดไปแล้ว 2 ครั้งก็ยังไม่ดีขึ้น ไม่สามารถนั่งยองได้เลย" 



"เจ้านายจึงพาไปตรวจสุขภาพ อย่างอื่นปกติหมด แต่พอคุณหมอบอกให้ไปลองเดินบน (ลู่วิ่ง) สายพานสัก 5 นาที เชื่อไหมว่า ขาสั่น มือสั่นไปหมด เดินได้ไม่ถึง 5 นาที รู้สึกเหนื่อยมาก หมอจึงแนะนำให้ตรวจไทรอยด์เพิ่มอีกตัว"

"สรุปป่วยไทรอยด์เป็นพิษระดับที่หนักมากชนเพดาน เขาบอกว่าสาเหตุมาจากความเครียด ซึ่งตอนทำงานคุณย่าไม่เคยรู้มาก่อนว่า สมองเราสะสมความเครียดไว้ เจ้านายจึงให้ออกจากงานไปรักษาตัว โดยที่ยังคงให้ค่าจ้างทุกเดือนเหมือนเดิม จนถึงทุกวันนี้ก็ผ่านมา 6 ปีได้แล้วค่ะ เจ้านายก็ยังดูแลอยู่ตลอด"

 
อาการเจ็บป่วยไทรอยด์เป็นพิษในวัย 52 ปี ส่งผลให้ นิศารัตน์ ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนคนปกติ เนื่องจากร่างกายเหนื่อยง่าย เรี่ยวแรงไม่มี รวมถึงข้อเข่ายังเสื่อมประสิทธิภาพไปมาก 

สิ่งเดียวที่เธอทำได้สุดตอนนั้น คือ พยายามดูแลตัวเอง, เลือกอาหารการกิน, พักผ่อนให้เพียงพอ ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

นิศารัตน์ ใช้เวลาถึง 3 ปี ต่อสู้กับโรคไทรอยด์เป็นพิษ จนร่างกายตอบสนองดีขึ้น คุณหมอจึงหยุดจ่ายยา นั่นจึงทำให้เธออยากออกกำลังกาย โดยเริ่มจาก ฮูลาฮูป, โยคะ, ยกขวดน้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนั้นเริ่มเข้าไปเล่นเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนส 


"มีคนเคยบอกว่า ป่วยเป็นไทรอยด์ ต้องกินยาตลอดชีวิต คุณย่าไม่อยากเป็นแบนนั้น พอคุณหมอสั่งให้หยุดยา คุณย่าจึงมีความต้องการอยากออกกำลังกาย เพื่อที่จะได้มีสุขภาพดีขึ้นบ้าง เริ่มต้นจากออกกำลังง่าย ๆ ไม่หนักมาก จากนั้นก็หันมาฝึกหัดปั่นจักรยาน 3 ล้อ ตอนอายุ 55 ปี"

 

จากจักรยาน 3 ล้อสู่นักปั่น 30 กิโลฯ 
ใช่แล้ว ! คุณอ่านไม่ผิด นิศารัตน์ เริ่มต้นปั่นจักรยานครั้งแรก ตอนอายุ 55 ปี แถมยังเป็นจักรยานสามล้ออีกด้วย 

สายตาคนภายนอกคงมองว่า "น่าประหลาดใจ" ที่คนอายุมากขนาดนี้ เพิ่งมาเริ่มฝึกปั่น แต่เธอก็ไม่สนใจ เพียรพยายามนานนับปี กว่าจะถีบจักรยานได้แข็งแรง จนในที่สุดก็ขยับสู่สองล้อ

 

"ตอนที่ฝึกปั่นจักรยาน 3 ล้อครั้งแรก เหงื่อออกเต็มมือเลย กลัวล้ม ไม่กล้าปั่นไกล ๆ เพราะคุณย่าอายุมากแล้วไม่เหมือนเด็ก ๆ ที่ยังมีอะไหล่เปลี่ยน (หัวเราะ) แต่ก็ปั่นมาตลอด จนขยับมาปั่นสองล้อได้" 

"คุณย่าชอบเวลาที่เหงื่อมันออก เพราะตอนป่วยเหงื่อไม่ค่อยไหล เหมือนรูขุมขนมันปิด พอออกกำลังกายได้ มีเหงื่ออกมา รู้สึกดีมากเลย"

 

จากจุดเริ่มต้นที่ขี่สองล้อและงอเข่าไม่ได้ ปัจจุบัน นิศารัตน์ ในวัยย่าง 59 ปี สามารถปั่นจักรยานได้ครั้งละ 30 กิโลเมตร อาการเจ็บปวดเข่าที่เคยสร้างปัญหาให้กับการดำเนินชีวิตก็หายไป กลายเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงขึ้นกว่าตอนอายุน้อย 


เคล็ดลับของ นิศารัตน์ อยู่ตรงที่การพักผ่อน, ดูแลตัวเอง, เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยจะดื่มน้ำผักทุกวัน 

ส่วนการออกกำลังกายนั้น เธอเลือกที่จะออกไปปั่นจักรยานแบบวันเว้นวัน เพราะไม่ต้องการโหมหนักเกินไป แต่เน้นการทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง 

 

รักงานได้ แต่อย่าลืมรักตัวเอง 
ระหว่างการสัมภาษณ์ เราเหลือบไปเห็นวงแขนของ นิศารัตน์ มีมัดกล้ามที่สวยงาม จนผู้เขียนที่เป็นคนวัยหนุ่มแท้ ๆ ถึงกับต้องอาย

ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังเล่าด้วยภาคภูมิใจอีกว่า ตัวเองสามารถสร้างกล้ามท้องได้ ตอนอายุใกล้หลัก 6 จากการเล่นลูกกลิ้ง  

"เมื่อก่อนเวลาออกกำลังกายอื่น ๆ ก็ยังรู้สึกว่ามีพุงอยู่ จนมาเจอลูกกลิ้ง" คุณย่านิ กล่าวเริ่ม 

"ไม่จำเป็นต้องเล่นหนักมาก อย่างคุณย่าเล่น 5 เซ็ต เซ็ตละ 20 ครั้ง เริ่มแรก ๆ ก็อาจไถไปไม่ไกลมาก ถ้าทำได้คล่องแล้ว ค่อย ๆ ยืดออกไปเต็มที่"

 
"ไม่คิดเหมือนว่าตัวเองจะมีกล้ามท้อง 4 แพ็คแล้ว ตอนอายุ 58 ย่าง 59 ปี ตั้งแต่มาเล่นลูกกลิ้งด้วยเหมือนร่างกายมันเฟิร์มขึ้น มีกล้ามแขน กล้ามท้อง รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงขึ้น คุณย่าไม่มีหรอกค่ะพรสวรรค์ มีแต่พรขยัน" 

ความมหัศจรรย์อีกอย่างที่ นิศารัตน์ ได้ค้นพบจากการออกกำลังกาย คือ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น จนเธอไม่เคยรู้สึกเลยว่าตัวเองมีอาการแบบวัยทองเลย  

ก่อนจากกัน เธอฝากข้อคิดและอยากแบ่งปันประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเอง เพื่อจุดประกายให้คนหนุ่มสาววัยทำงาน หันมาเริ่มต้นออกกำลังกาย ตั้งแต่ตอนที่ยังมีเรี่ยวแรง สภาพร่างกายโอเคอยู่ จะได้ไม่ต้องเจอกับโรคภัยไข้เจ็บ ที่เป็นผลจากการโหมทำงานหนัก จนลืมดูแลตัวเอง 


"เวลาเจอหนุ่มสาว คุณย่าจะบอกทุกคนเสมอว่า อย่าปล่อยเวลาผ่านไปเปล่า ๆ ถ้ายังไม่เคยออกกำลังกาย ให้ลองหันมาออกกำลังกายบ้าง วันละเล็กน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์แพง ๆ มาเล่น คุณเปิด YouTube ออกกำลังกายตามง่าย ๆ ก็ได้ในบ้าน" 

"คุณย่ารู้ว่าทุกคนรักงาน อยากทำงานให้ดี คุณย่าก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน แต่สิ่งที่อยากบอกคือ เราทุกคนรักงานได้ แต่ก็อย่าลืมรักตัวเองด้วย อย่าปล่อยให้ร่างกายไปถึงจุดเสื่อมโทรม จนเราทำงานต่อไม่ได้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook