อาหารที่ควรกินและควรเลี่ยงในระหว่างวัน อยากเฮลตี้เต็มขั้น ต้องเลือกกินให้เป็น
ในแต่ละวันไม่ว่าจะทำงานหรือเรียน หลายคนมักจะหาอาหารทานในช่วงเวลาระหว่างวัน และไม่ว่าจะเป็นอาหารทานเล่น หรือมื้ออาหารหลัก เราก็ต้องเลือกทานอาหารที่มีคุณค่ากันสักหน่อย ลองมาดูกันว่าอาหาร 4 อย่างที่ควรทานในระหว่างวัน และอาหารที่ไม่ควรทานในระหว่างวัน มีอะไรกันบ้าง
อาหาร 4 อย่างที่ควรทานระหว่างวัน
1.ผักผลไม้
ผักผลไม้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งคุณประโยชน์ที่ได้ก็ไม่เพียงแค่กากใยเท่านั้น แต่ยังมีแคลอรี่ต่ำ ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของอารมณ์
2.ธัญพืช
ธัญพืชอย่างเมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน หรืองา เมล็ดธัญพืชเหล่านี้ล้วนแต่มีสารอาหารอย่างแมงกานีสอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ทานแล้วจะช่วยลดอาการหงุดหงิดในระหว่างวันได้เป็นดี และช่วยลดไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีอีกด้วย
3.ของหวาน
ของหวานที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบจะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายสมดุลยิ่งขึ้น ลดความหงุดหงิด และลดอารมณ์ร้อนได้ดี แต่ก็ไม่ควรทานในปริมาณที่มากเกินไป
4.ปลาทะเลน้ำลึก
ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน และปลาทูน่าล้วนเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ย่อยง่าย ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และยังช่วยแก้อาการท้องเสียในบางคนได้อีกด้วย
อาหาร 4 อย่างที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างวัน
1.ชา กาแฟ และน้ำอัดลม
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนนั้นจะทำให้เกิดอาการบีบรัดตัวของมดลูกในผู้หญิงได้มาก ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการเหนื่อยล้าง่าย เมื่อยตามตัว และหงุดหงิดง่าย
2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น แต่ต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งหากดื่มมากเกินไปก็เกิดผลเสียกับร่างกายได้ ยิ่งในผู้หญิงที่มีประจำเดือนยิ่งจะทำให้เกิดความผิดปกติได้มากทีเดียว
3.ไอศกรีมหรือน้ำแข็ง
อาหารชนิดนี้สามารถรับประทานได้ แต่ต้องมีปริมาณที่เหมาะสมไม่มากเกินไป เพราะหากทานมากเกินไป อาจทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงได้ ส่งผลให้มีอาการเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีประจำเดือนก็อาจจะเกิดอาการปวดท้องตามมาได้นั่นเอง
4.อาหารรสจัด
อาหารที่มีรสจัด เช่น เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หรืออาหารที่ผ่านการหมักดอง ก็อาจทำให้เกิดการปวดท้องได้ หากเป็นผู้หญิงที่มีประจำเดือน การทานอาหารประเภทนี้มากๆ ก็อาจทำให้ตัวบวมได้เลยทีเดียว
จะเห็นว่าการเลือกสรรอาหารที่ทานในระหว่างวันนั้นก็ต้องคัดสรรอย่างมากทีเดียว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยไม่ก่อให้เกิดโทษต่อสุขภาพกายและอารมณ์ ซึ่งหากคุณปฏิบัติได้ตามนี้ รับรองค่ะว่าคุณจะสุขภาพดี ห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยมากขึ้นแน่นอน