5 ข้อสำคัญที่คุณหมอเตือน ห้ามจูบหอมทารกอายุน้อยกว่า 3 เดือน

แม้ว่าการจูบหอมเด็กทารกจะทำไปด้วยความเอ็นดูหรือแสดงออกถึงความรัก แต่ก็ถือเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการทำให้เด็กๆ ได้รับอันตรายได้เช่นกัน เนื่องจากยุคนี้ถือเป็นยุคที่เชื้อโรคแทบจะครอบครองในทุกพื้นที่ที่ผู้คนอาศัยเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเราจึงนำเอา 5 ข้อสำคัญจากการเตือนของคุณหมอ ถึงการห้ามจูบหอมเด็กทารกที่มีอายุน้อยกว่า 3 เดือนมาแบ่งปันให้พ่อแม่ได้ทราบกันค่ะ

1.ห้ามจูบหอมทารกอายุก่อน 3 เดือน
การจูบหอมเด็กทารกที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือนถือเป็นสิ่งต้องห้ามเลยทีเดียว เนื่องจากเด็กวัยนี้มีภูมิต้านทานต่ำมาก การจูบหอมจึงเสี่ยงทำให้ทารกติดเชื้อได้ง่าย ถึงแม้ว่ายังไม่มีผลการศึกษาที่ชี้ชัดว่าเด็กอายุเท่าไรจึงจะสามารถจูบหอมได้ แต่คุณหมอเด็กก็แนะนำว่า การไม่จูบหอมทารกที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือนถือว่าดีและปลอดภัยต่อทารกมากที่สุด

2.มั่นใจในเรื่องสุขภาพก่อนจูบหอมทารก
ในกรณีที่เด็กมีอายุมากกว่า 3 เดือน หากพ่อแม่หรือคนในครอบครัวต้องการจูบหอม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมั่นใจในเรื่องสุขภาพของตัวเอง โดยต้องมั่นใจว่าตัวเองไม่มีอาการป่วยไข้ใดๆ เช่น ไม่มีโรคหวัด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคเริม โรคมือเท้าปาก หรือโรคจูบ ซึ่งเป็นโรคที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกได้

3.บุคคลที่สูบบุหรี่ห้ามจูบหอมทารกเด็ดขาด
แม้ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือคนในครอบครัว หากเป็นบุคคลที่สูบบุหรี่ ไม่ควรจูบหอมลูกเด็ดขาด เพราะสารพิษจากบุหรี่ยังคงไม่หายไปไหน แต่ยังคงติดอยู่บนริมฝีปาก ในช่องปาก รวมทั้งติดที่เสื้อผ้า ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารกได้ ดังนั้นหากคนในครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อ หากต้องการจูบหอมลูกโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เกิดอันตรายต่อลูก แนะนำให้ใช้ช่วงเวลานี้ไปกับการพยายามเลิกบุหรี่ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับคนในครอบครัวจะดีที่สุด

4.ล้างปากให้สะอาดก่อนจูบหอมทารก
การล้างปากหรือทำความสะอาดในช่องปากก่อนจูบหอมทารกถือเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ แม้แต่ลิปสติกบนริมฝีปากก็เป็นอันตรายต่อทารกได้เช่นกัน เนื่องจากลิปสติกมีสารเคมีต่างๆ ผสมอยู่ด้วย ดังนั้นหากต้องการจูบหอมทารก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความสะอาดปาก เพื่อมั่นใจได้ว่าไม่มีเชื้อโรคหรือสารพิษต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารกได้

5.ห้ามบุคคลภายนอกจูบหอมทารกอย่างพร่ำเพรื่อ
แม้ว่าคนนอกจะเอ็นดูทารกมากแค่ไหนก็ตาม พ่อแม่ก็ไม่ควรปล่อยให้จูบลูกอย่างพร่ำเพรื่อ อย่าลืมว่าพ่อแม่มีสิทธิ์ในการปกป้องลูก อย่างที่เราได้เห็นกรณีตัวอย่างมากมายที่เด็กทารกติดโรคหรือได้รับอันตรายจากจูบของคนอื่น ซึ่งพ่อแม่สามารถใช้วิธีการพูดอย่างตรงไปตรงมาและสุภาพได้ด้วยประโยคที่ว่า “ลูกยังเล็กอยู่ อย่าหอมน้องนะคะ” ก็ช่วยได้เช่นกัน

การแสดงออกถึงความรักความเอ็นดูต่อทารกนั้นไม่ได้มีเพียงแค่การจูบหอมเท่านั้น แต่การสบตา การร้องเพลง การอุ้ม หรือการใส่ใจในความสะอาดของตัวเองก่อนสัมผัสทารกก็ถือเป็นการแสดงออกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่แล้ว อย่าลืมว่าสำหรับทารกนั้น การมีสุขภาพที่ดีห่างไกลโรคร้ายต่างๆ นั้น ย่อมดีกว่าสิ่งใดเป็นไหนๆ